วันนี้ (16 ตุลาคม) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานงานแถลงข่าว Kick Off เปิดตัวโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมี ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, พิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และผู้บริหารภาคเอกชน เข้าร่วม
นายกรัฐมนตรีระบุว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจมาเสมอ และเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ก็ได้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ โดยได้เติมเงินเข้าในระบบถึง 145,552 ล้านบาท เป็นเงินสดแจกถึงมือพี่น้องประชาชน รัฐบาลจึงได้เก็บฟีดแบ็กจากพี่น้องประชาชนกลุ่มแรกที่ได้รับเงิน 10,000 บาท
เมื่อเห็นว่าเงินดังกล่าวสามารถฟื้นตัวประชาชนและธุรกิจขึ้นมาได้ รัฐบาลจึงรู้สึกภาคภูมิใจและนำมาคิดต่อว่าเราจะกระตุ้นเศรษฐกิจแบบนี้ผ่านนโยบายต่อไปอย่างไร เพื่อซัพพอร์ตและเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนมากขึ้น
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยอย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมให้โครงการ 10,000 บาท ฟื้นเศรษฐกิจให้เกิดประสิทธิภาพและคุ้มค่ากับภาษีมากที่สุด ฉะนั้นโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจในรอบนี้เราจะเน้นไปที่ผู้ประกอบการรายเล็ก ซึ่งมีถึง 95% ของผู้ประกอบการทั้งหมด และเป็นรากฐานของเศรษฐกิจไทย โดยเราจะพยายามลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส ในระยะเวลา 5 เดือน คือตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ไปสิ้นสุดที่เดือนมกราคม 2568
สำหรับรายละเอียดโครงการนั้นมี 3 ส่วนที่สำคัญ คือ
- ลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการรายเล็ก เช่น ลดค่าเช่าร้านหรือลดค่าเช่าแผง
- การเพิ่มพื้นที่ขายให้ผู้ประกอบการรายเล็ก โดยการสนับสนุนพื้นที่ของส่วนราชการและเอกชน
- การลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ด้วยการจับมือกับผู้ผลิตและผู้ค้าส่งรายใหญ่เพื่อลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงมั่นใจว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากถึง 110,000 ล้านบาท
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า โอกาสนี้ขอบคุณภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เข้ามามีส่วนร่วม พร้อมขอยืนยันว่ารัฐบาลจะยังคงมุ่งมั่นและตั้งใจทำงานในเรื่องนี้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยให้กลับมาเดินหน้าได้อย่างเข้มแข็ง แข็งแรง และมั่นคง โดยเราจะมีแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อให้พี่น้องประชาชนฟื้นขึ้นมาและสามารถสร้างสิ่งดีๆ ให้กับประเทศชาติต่อไปได้ จึงขอให้รอติดตามนโยบายที่รัฐบาลจะเสนอต่อพี่น้องประชาชนในภายภาคหน้า และขอให้โครงการนี้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ไลฟ์พูดคุยแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดบรรยากาศกิจกรรมฟื้นฟูเศรษฐกิจจากสถานที่จริงในทุกภูมิภาค 5 แห่ง ประกอบด้วย จังหวัดขอนแก่น, ลพบุรี, อุดรธานี, ภูเก็ต และเชียงราย พร้อมกับเยี่ยมชมนิทรรศการ
นายกฯ ย้ำ ต้องคุยกัน หลังพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับรายงานนิรโทษกรรม
ทั้งนี้ สื่อมวลชนพยายามสอบถามนายกรัฐมนตรีถึงกรณีพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม จะต้องมีการพูดคุยกันอย่างไร นายกรัฐมนตรีระบุว่า ทุกเรื่องต้องพูดคุยกัน
ส่วนจะนำเรื่องดังกล่าวไปคุยกันในวงรับประทานอาหารร่วมกันกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 21 ตุลาคมหรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่า “ดีไหมคะ”
เมื่อถามว่า ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยสั่งการให้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันนำไปสู่การล้มล้างการปกครองนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ไม่เข้าใจคำถามนักข่าว งง เอ๊ะ! ใครนะ ใครฟ้องนะ” ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า