วันนี้ (2 ตุลาคม) จิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นห่วงคนไทยในประเทศอิสราเอล จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ และเพื่อหลีกเลี่ยงจากผลกระทบเหตุการณ์ดังกล่าว โดยขอให้กระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตของไทยที่อยู่ใกล้ที่สุด จำเป็นต้องให้ข้อมูลกับคนไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ หากพบว่าอยู่ในระดับที่เสี่ยงเกินไปก็ขอให้รีบแจ้งให้คนไทยออกจากพื้นที่ในทันที พร้อมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
จิรายุกล่าวต่อว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ออกประกาศเตือนว่า เมื่อช่วงกลางคืนของวันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2567 กองทัพอิสราเอล (IDF) ได้ประกาศให้พื้นที่เมืองเมตูลา (Metula) มิซกาฟ อัม (Misgav Am) และคฟาร์ กิลอาดี (Kfar Giladi) บริเวณทางตอนเหนือของอิสราเอล ติดพื้นที่ชายแดนเลบานอน เป็นเขตปิดทางทหาร (Closed Military Zone) โดยเป็นเขตห้ามทำงานและอาศัย โดยแจ้งว่าหากมีคนไทยยังอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวก็ขอให้ย้ายออกจากพื้นที่ทันที และเช้านี้ก็ยังเฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา
ทั้งนี้ คนไทยสามารถขอรับความช่วยเหลือเพื่อย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าวได้ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ โดยสามารถติดต่อได้ตามช่องทางหมายเลขโทรศัพท์ ฝ่ายกงสุล +972 546368150, +972 503673195 ฝ่ายแรงงาน +972 9-954-8431, +972 54-469-3476 และ LINE ID 0544693476
“นายกรัฐมนตรีห่วงใยคนไทยที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย ให้สถานเอกอัครราชทูตตัดสินใจประกาศเตือนในแต่ละระดับความสำคัญ และให้เตรียมความพร้อมอพยพออกจากพื้นที่ดังกล่าวโดยทันที หากสถานการณ์มีโอกาสจะไปถึงขั้นวิกฤต”
จิรายุกล่าวอีกว่า หากคนไทยต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ตามช่องทางการติดต่อข้างต้น เพื่อเข้าช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกต่อไป