นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางมาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อม.51/2560 ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลยในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ชี้มูลความผิดทางอาญาแก่นายสุรพงษ์กรณีออกหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกออกหมายจับในคดีร่วมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก่อการร้าย และคดีอื่นๆ ซึ่งขัดต่อระเบียบข้อบังคับกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. 2548 ข้อ 21 (2) (3) และ (4) ซึ่งนายสุรพงษ์ได้ยื่นหลักทรัพย์ 3 ล้านบาทขอประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัว พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร
โดยวันนี้นายสุรพงษ์มีอาการอ่อนเพลีย ใช้ไม้เท้าช่วยพยุงเดินเข้ามาที่ศาลฯ และพูดคุยกับผู้สื่อข่าวว่า แม้สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง แต่มีกำลังใจดี วันนี้เตรียมหลักทรัพย์สำหรับการประกันตัวไว้จำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจว่าที่ผ่านมาทำหน้าที่ทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา และในกระบวนการไต่สวนพยานจำเลยที่ผ่านมาก็เรียบร้อยดี มีข้าราชการและบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ปากคำ
ด้าน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมาย เปิดเผยว่าแม้จะมั่นใจในข้อต่อสู้ แต่ได้เตรียมหลักทรัพย์เพื่อมาประกันตัวเพิ่มเติมในวงเงินเพิ่มอีก 10 ล้านบาท ประกอบด้วยเงินในบัญชีและโฉนดที่ดินเพื่อต่อสู้คดี เชื่อว่าคำให้การมีน้ำหนักเพียงพอที่องค์คณะศาลจะใช้เป็นข้อมูลเพื่อประกอบดุลพินิจวินิจฉัยอย่างเที่ยงธรรม พร้อมเปิดเผยว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ที่ได้รับการออกหนังสือเดินทางจากนายสุรพงษ์นั้นได้แสดงความเป็นห่วง ทั้งนี้เชื่อว่าเนื้อหาในรูปคดีไม่น่าเป็นปัญหา