วันนี้ (18 กันยายน) ไพบูลย์ นิติตะวัน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ มอบหมายให้ตนดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีอาญาจนถึงที่สุดกับ พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ และ ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 21 เรื่อง ห้ามการดักฟังทางโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารใด ข้อ 2
“ผู้ใดรับรู้ข้อความที่ได้มาจากการกระทำความผิดตามข้อ 1 ใช้ประโยชน์หรือเปิดเผยข้อความนั้นต่อผู้อื่นโดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
สืบเนื่องจากกรณีที่เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 ดนัยนำคลิปเสียงสนทนาของ พล.อ. ประวิตร กับ สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ที่ได้มาจากการลักลอบดักฟังโดยโทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นใด เผยแพร่ผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)
ต่อมาเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 พร้อมพงศ์นำคลิปลักลอบดักฟังเสียงสนทนาของ พล.อ. ประวิตร กับสุทธิพงษ์ดังกล่าวมาใช้ประโยชน์หรือเปิดเผยต่อสื่อมวลชน และยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ไพบูลย์กล่าวต่อว่า การกระทำของพร้อมพงศ์และดนัยในการใช้ประโยชน์หรือเปิดเผยคลิปเสียงสนทนาดังกล่าวที่ได้มาจากการลักลอบดักฟัง เป็นการฝ่าฝืนประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 21 เรื่อง ห้ามการดักฟังทางโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารใด ข้อ 2 ซึ่งทำให้ พล.อ. ประวิตร ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง จึงมอบหมายให้ตนดำเนินคดีอาญากับพร้อมพงศ์และดนัยในฐานความผิดดังกล่าวจนถึงที่สุด