วันนี้ (5 กันยายน) ที่อาคารชินวัตร 3 แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นต่อภาพรวมของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายหลังโปรดเกล้าฯ โดยระบุว่า “ดี และดีมากๆ เลย เพราะคิดว่าทุกคนมีความพร้อมที่จะเข้ามาประสานงานต่อ”
นายกรัฐมนตรียังเชื่อว่า ครม. ชุดนี้จะเป็นพลังที่มารวมกันแล้วทำเพื่อประชาชน ให้ประเทศไปต่อได้ ซึ่งหลายคนมีทั้งหน้าใหม่และหน้าเดิม ทุกคนพร้อมตรงนี้ แต่ยังไม่ได้มีการตั้งเงื่อนไขเวลาในการวัด KPI แต่อย่างไร
ส่วน ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะดูแลเรื่องความมั่นคงและ ก.ตร. ด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่า วันนี้ขอรอรายละเอียดก่อน แล้วจะไปแยกเรื่องของรองนายกรัฐมนตรีอีกทีก่อนจะมาแจ้งให้ทราบ
นายกรัฐมนตรียังเปิดเผยถึงรายละเอียดของการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ว่าในส่วนของพรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่จะคงนโยบายเดิม แต่จะปรับเปลี่ยนรายละเอียดเล็กน้อยในเรื่องของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และจะมีการอธิบายบางนโยบายให้เข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น แต่ขอเวลาเพราะยังไม่สามารถอธิบายรายละเอียดได้ในตอนนี้
ส่วนมีอะไรที่เพิ่มเติมมาจากสมัยรัฐบาลของเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีบ้างนั้น นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ขอเวลาสักนิดหนึ่ง
ขณะที่นโยบายกัญชาที่พรรคร่วมรัฐบาลยืนยันมา แต่รายละเอียดอาจไม่เหมือนของพรรคเพื่อไทยนั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่า ทราบแล้ว เดี๋ยวจะมีการพูดคุยกันในรายละเอียด คิดว่าคุยกันได้แน่นอนไม่มีอะไร ซึ่งจริงๆ แล้วก็มีการทำความเข้าใจกับพรรคภูมิใจไทยอยู่แล้ว เหลือเพียงแค่การเขียนลงไปให้เป็นลายลักษณ์อักษร
เมื่อถามถึงกรณีที่ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แสดงวิสัยทัศน์ไว้เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา จะนำมารวมอยู่ในนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ แพทองธารกล่าวว่า “อะไรที่เป็นประโยชน์เดี๋ยวดูกันอีกที”
ความเป็นครอบครัวเป็นแรงผลักดันมากกว่าข้อเสีย
ขณะที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องหน้าตาของคณะรัฐมนตรีที่ใช้บุคคลสืบต่อกันแบบครอบครัว ซึ่งอาจมีการใช้คำที่แรงว่า ครม. สืบสันดาน ทำให้แพทองธารอุทานว่า “โห แรงจริงด้วย ใช้คำแรงจัง” พร้อมระบุว่า จริงๆ แล้วมีอยู่หลายรูปแบบและมีหลายคนที่ไม่ใช่ครอบครัว อยากให้มองในเรื่องของความตั้งใจที่ถ่ายทอดกันมาผ่านคนใกล้ชิด คนรู้จัก เพราะหลายอย่างในชีวิตที่ต้องทำต้องอาศัยแรงผลักดัน อาศัยความภาคภูมิใจของคนข้างๆ
“เพราะฉะนั้นความเป็นครอบครัวไม่ใช่ข้อเสีย แต่เป็นแรงผลักดันให้กันมากกว่า ที่ทำให้เห็นว่าเคยมีบุคคลหนึ่งทำงานเพื่อประเทศชาติแบบนี้ ทำให้อีกคนหนึ่งในครอบครัวมีแรงผลักดันให้ทำเช่นนี้” แพทองธารกล่าว
ในขณะที่คำว่าครอบครัวก็ส่งผลให้มีคนไปร้องเรียนเรื่องการครอบงำนั้น แพทองธารระบุว่า ขอให้นักร้องสงสารนายกรัฐมนตรีบ้าง อย่าฟ้องอะไรเยอะเลย เพราะตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ มีความตั้งใจในการทำงานอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นเรื่องเล็กๆ อย่าให้ความสำคัญอะไรมาก
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ทุกคนมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ หากวิจารณ์ด้วยเหตุผลที่ไม่ใช้อารมณ์ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ยอมรับว่าเรื่องการบั่นทอนกำลังใจกันก็สามารถเกิดขึ้นได้ จึงอยากขอกำลังใจกันบ้าง