การโจมตีข้ามพรมแดนระหว่างกองทัพ อิสราเอล และกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ปะทุขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดสงครามในฉนวนกาซาเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
โดยข้อมูลจาก BBC และ Armed Conflict Location and Event Data Project ชี้ว่า ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม – 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายโจมตีข้ามพรมแดนตอบโต้กันรวม 7,491 ครั้ง แต่ฝ่าย อิสราเอลโจมตีมากกว่าถึง 5 เท่า และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งกรณีล่าสุดวานนี้ (25 สิงหาคม) ที่อิสราเอลระดมโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในพื้นที่ตอนใต้ของเลบานอน ในขณะที่ฝ่ายฮิซบอลเลาะห์ยิงจรวด 320 ลูก โจมตีพุ่งเป้าไปยังตอนกลางของอิสราเอล
ยอดผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของทั้งสองฝ่ายยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดสงครามกาซา โดยฝ่ายเลบานอนมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 560 คน ในจำนวนนี้เป็นพลเรือนราว 100 คน ส่วนที่เหลือเป็นสมาชิกกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ส่วนอิสราเอลมีผู้เสียชีวิตไป 49 คน เป็นพลเรือน 26 คน และทหาร 23 คน
ขณะที่องค์การสหประชาชาติ รายงานว่า มีประชาชนทั้งในเลบานอนและอิสราเอลเกือบ 2 แสนคน ต้องอพยพพลัดถิ่นจากการโจมตีข้ามพรมแดนที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน นั้นมีมายาวนานหลายทศวรรษ แต่การโจมตีแบบ ‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’ ในพื้นที่ชายแดนทางตอนใต้ของเลบานอนกับตอนเหนือของอิสราเอล เริ่มปะทุขึ้นในช่วงปี 2006 และยิ่งรุนแรงมากขึ้นอย่างชัดเจน นับตั้งแต่เกิดสงครามกาซา ซึ่งส่งผลให้หลายฝ่ายกังวลว่าสถานการณ์อาจทวีความรุนแรงจนกลายเป็นอีกหนึ่งสงครามในภูมิภาค
ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย
อ้างอิง: