เดินทางมาครึ่งเรื่องแล้ว สำหรับ โลกหมุนรอบเธอ ละครทรงดีที่สร้างความฮือฮามาตั้งแต่ปล่อยภาพฟิตติ้งของ 3 นักแสดงหลัก พร้อมกับจั่วหัวว่านี่คือละครไทยสไตล์ Coming of Age ที่ไม่ได้ดูกันบ่อยนัก บอกเล่าเรื่องราวการฝ่าฟันอุปสรรคจากเด็กนักเรียนต่างจังหวัด สู่สงครามชนชั้นในรั้วโรงเรียนนานาชาติ ความผิดพลาดในชีวิต และบททดสอบมิตรภาพและความรักของเพื่อนสนิท 3 คน
ตะวัน (โบว์-เมลดา สุศรี) มานะ (เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข) และ ชิน (ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต) คือเด็กกำพร้า 3 คนจากเชียงคานที่เติบโตมาด้วยกัน เริ่มต้นที่ตะวันคือเด็กสาวที่ได้รับการเลี้ยงดูจากคุณยาย (เหมี่ยว-ปวันรัตน์ นาคสุริยะ) เธอได้รู้จักกับมานะ เด็กชายอาภัพ พ่อแม่และน้องสาวประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งครอบครัว ในช่วงเวลาที่มืดมนนั้นมีเพียงตะวันที่ทำให้กลับมาใช้ชีวิตได้อีกครั้ง ผ่านไปไม่นานทั้งคู่ก็ได้เจอชิน เด็กวัดที่เข้ามาช่วยเหลือจนสนิทกัน ทำให้ทั้งหมดอยู่ในความดูแลของยายภายในบ้านเดียวกัน
ตะวันมีความใฝ่ฝันอยากเป็นผู้ประกาศข่าว โดยมี พนิดา (เอ๋-พรทิพย์ สกิดใจ) ผู้ประกาศข่าวชื่อดังเป็นไอดอล จึงตั้งใจสอบชิงทุนโรงเรียนอำนาจอนันต์อินเตอร์ ซึ่งเป็นของครอบครัวพนิดา และนำพาให้เพื่อนๆ ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนนี้ด้วย แต่มีข้อแลกเปลี่ยนบางอย่าง
ชีวิตใหม่ในโรงเรียนอินเตอร์กลับไม่สวยหรูอย่างที่คิด ทั้งหมดต้องเจอกับการบูลลี่จากเพื่อนฐานะดีกว่า รวมทั้งลูกชายและลูกสาวของพนิดาคือ แพท (เทศน์ ไมรอน) กับ เพนนี (ลีน่า-ลลินา ชูเอ็ทท์) โดยแพทตั้งใจแกล้งตะวันแต่กลายเป็นความรัก ทำให้เพนนีที่ไม่ชอบตะวันอยู่แล้วเพราะมาแย่งความรักจากแม่ก็ยิ่งเกลียดตะวันเข้าไปใหญ่เพราะแย่งความรักจากพี่ชายไปด้วย จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่แพทหายสาบสูญไป ส่งผลให้ชีวิตของทั้งสามคนต้องเปลี่ยนไปอีกครั้ง
ชินต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองก่อในคุก ส่วนตะวันกับมานะย้ายเข้ากรุงเทพฯ โดยมานะต้องทำงานทุกอย่างเพื่อส่งเสียให้ตะวันได้เรียนหนังสือ จนกระทั่งล่วงเข้าสู่วัยทำงาน ตะวันได้เป็นนักข่าวฝึกหัดที่สถานีโทรทัศน์อำนาจอนันต์จากความช่วยเหลือของ พอล (เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์) และก็ได้เจอกับเพนนี คู่แข่งตลอดกาลที่มาเป็นผู้ประกาศข่าวเหมือนกัน ส่วนชินหลังออกจากคุกก็หันไปทำธุรกิจสีเทากับ เฮียไก่ (กาย-รัชชานนท์ สุประกอบ)
ส่วนมานะก็เริ่มทำธุรกิจใหม่โดยได้รับความช่วยเหลือจาก นาริน (นัท-มีเรีย เบนเนเดดตี้) หม้ายสาวที่ได้มรดกจากสามีที่เสียชีวิตไป ถึงตอนนี้ชีวิตของทั้ง 3 คนจะเลือกเดินบนเส้นทางที่ต่างกัน แต่ก็ต้องกลับมาเจอกันอีกครั้งด้วยคดีของแพทที่หายตัวไป วันเวลาจะทำให้มิตรภาพและความรักของพวกเขาเปลี่ยนไปแค่ไหน ต้องไปติดตามต่อกันในละคร
อย่างที่บอกว่า โลกหมุนรอบเธอ เป็นเรื่องการก้าวผ่านพ้นวัยซึ่งใช้เวลาโฟกัสแทบจะครึ่งชีวิตของตัวละคร การเล่าเรื่องจึงมีจุดพีคมากมายเพื่อตรึงคนดูให้อยู่หน้าจอให้ได้ เริ่มตั้งแต่ตอนเปิดเรื่องที่เลือกเหตุการณ์การพบศพแพทในทะเลสาบ แล้วจึงย้อนเล่าที่มาที่ไปของเพื่อนสนิททั้ง 3 คน จนมาถึงเรื่องราวการตายของแพทที่เฉลยตั้งแต่ออกอากาศเพียงไม่กี่ตอน แน่นอนว่าน่าจะมีจุดพีคอีกหลายจุดรออยู่ อีกส่วนที่น่าสนใจคือการเล่าเรื่องไม่เรียงตามไทม์ไลน์ คือก้าวไปข้างหน้า แล้วค่อยมาเก็บรายละเอียดย้อนหลัง ในจุดนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี มีกลิ่นอายซีรีส์เกาหลีหน่อยๆ
แต่นอกจากความพีคที่มาเป็นระยะ ยังมีประเด็นดราม่าความคล้ายกับซีรีส์สเปนเรื่อง Elite ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ามีความคล้ายในหลายๆ ประเด็น ทั้งเรื่องเด็กต่างชนชั้นเข้าไปอยู่ในโรงเรียนไฮโซ การกลั่นแกล้งให้รัก และคาแรกเตอร์บางอย่างของ 3 ตัวละครหลักก็ทาบทับกับตัวละครใน Elite ได้เหมือนกัน ถึงอย่างนั้นก็มีซีรีส์และหนังหลายๆ เรื่องที่อาศัยธีมหลักคล้ายๆ กันอย่าง Cruel Intentions หรือ Hierarchy ซึ่งใน โลกหมุนรอบเธอ ก็มีเพียงช่วงหนึ่งที่คล้าย ในขณะที่พาร์ตอื่นๆ คือส่วนผสมหนังและซีรีส์สไตล์ Coming of Age ที่ทำให้นึกถึงได้อย่าง Twenty Five Twenty One ในแง่การเติบโตของตัวละคร หรือ Start-Up ในเรื่องเมนเทอร์และการสู้เพื่อฝันของตัวละคร ถ้ามองอย่างยุติธรรมก็คือประเด็นสากลที่เรื่องราวทำนองนี้มักนำมาใช้อยู่เสมอ
ปัญหาหลักๆ จึงไม่ได้อยู่ที่เหมือนหรือไม่เหมือน แต่อยู่ที่การ ‘ทำถึง’ มากกว่า โดยหลายจุดดูพยายามและยังไม่ลงตัว โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลิกตัวละครช่วงวัยเด็กจนถึงช่วงวัยรุ่นที่สัมผัสได้ถึงความพยายามเด็ก และบทก็พยายามย้ำไปที่ความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายเสียมากกว่า ขณะที่การพัฒนาด้านบุคลิกภาพเปลี่ยนแปลงไปไม่มาก และขาดเสน่ห์แบบเด็กต่างจังหวัดตามคาแรกเตอร์ของตัวละคร
ส่วนหนึ่งก็พอเข้าใจได้ว่าคาแรกเตอร์ของตะวันคือผู้หญิงอบอุ่น สดใส เต็มไปด้วยพลังบวก มีแรงดึงดูดผู้ชายที่อยู่รอบข้างสมชื่อ ตะวัน ฉายแสงรัก และค่อนข้างมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเมื่อไปอยู่ในสังคมใหม่ แต่เพราะในช่วงวัยเด็กบุคลิกของตะวันก็เป็นผู้นำกลุ่มอยู่แล้ว ส่วนนี้เลยไม่ค่อยเห็นความแตกต่างสักเท่าไร ยิ่งไปกว่านั้นคือเมื่อต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย คาแรกเตอร์ของตะวันก็ยังใกล้เคียงเดิมทั้งๆ ที่ก็น่าจะจัดเจนโลกมากขึ้น โดยที่ความมุ่งมั่นแบบเดิมยังอยู่
ส่วนตัวละครมานะก็ยอมรับว่า เจมส์ จิรายุ ทำออกมาได้ดีในแง่ความเป็นผู้ชายเสียสละ เพราะตะวันเป็นเพียงจุดมุ่งหมายเดียวของชีวิต รวมทั้งปมในใจที่เขาอยากปกป้องใครสักคนชดเชยการปกป้องครอบครัวที่ต้องเสียไป ซึ่งตัวละครมานะผ่านเรื่องร้ายๆ มากที่สุดในเรื่องเลยก็ว่าได้ แต่ความแพรวพราวหรือลูกล่อลูกชนต่างๆ ที่น่าจะติดตัวมาก็แสดงออกมาน้อยมาก นอกจากลีลาการเต้นเรียกลูกค้าที่ได้ดูกันในเรื่อง และคนสุดท้ายคือชินที่ดูจะพัฒนาจากบุคลิกในแง่เพิ่มดีกรีความดาร์กที่จะมีบทบาทมากขึ้นกับเส้นเรื่องในอนาคต
อีกส่วนคือประเด็นที่หลากหลายทำให้การเล่าเรื่องดูกระจัดกระจายเหมือนใส่ทุกอย่างเข้ามาไว้ด้วยกัน ซึ่งหลายๆ ฉากก็ทำไม่ถึงจนดูฝืนๆ และด้วยความที่เนื้อหาเยอะ การพัฒนาตัวละครบางตัวก็ไม่ค่อยสม่ำเสมอ อย่างเช่นการตายของแพทดูอย่างไรเขาก็ยังไม่น่าจะไปถึงจุดนั้นได้ ส่วนบางประเด็นก็ค่อนข้างจำเจเหมือนได้เห็นกันบ่อยๆ ในละครเรื่องอื่นๆ
ถ้ามองผ่านเลนส์ความเป็นละครไทย โลกหมุนรอบเธอ ไม่ได้ขี้เหร่ แต่เมื่อครอบด้วยคำว่า Coming of Age ก็ยังมีหลายจุดที่ยังไปไม่ถึง ซึ่งคิดว่าครึ่งเรื่องที่เหลือน่าจะเข้าที่เข้าทางและเป็นงานถนัดของผู้ผลิตมากกว่า จะเป็นแบบนั้นหรือเปล่าต้องติดตามกันต่อไป
โลกหมุนรอบเธอ รับชมย้อนหลังได้ที่ Viu