×

‘เศรษฐพุฒิ’ ตอบปมลดค่าธรรมเนียม FIDF แบงก์ชาติชี้ หากลด ต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่ม 5 พันล้านบาทต่อปี ทำให้หนี้หมดช้าลง

24.08.2024
  • LOADING...
ค่าธรรมเนียม FIDF

‘เศรษฐพุฒิ’ ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ตอบปมข้อเสนอลดค่าธรรมเนียม FIDF ลงครึ่งหนึ่งว่า ต้องรอดูความชัดเจนในรายละเอียดอีกที ธปท. เผย หากลดค่าธรรมเนียมดังกล่าว ต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงขึ้น 5 พันล้านบาทต่อปี และทำให้หนี้ FIDF ที่มียอดคงค้าง 5.8 แสนล้านบาท ‘หมดช้าลง’

 

วันนี้ (24 สิงหาคม) ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตอบคำถามผู้สื่อข่าว กรณี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เสนอให้ปรับลดค่าธรรมเนียมกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (Financial Institutions Development Fund: FIDF) ลงครึ่งหนึ่ง จากระดับ 0.47% ของฐานเงินฝาก โดยระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุป โดยต้องรอดูความชัดเจนในรายละเอียดอีกที

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

ดร.เศรษฐพุฒิ ยืนยันว่า ค่าธรรมเนียมดังกล่าวหลังจากเรียกเก็บมาแล้ว ธปท. ไม่ได้เป็นคนเก็บไว้ แต่นำส่งให้กระทรวงการคลังเพื่อไปชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยของ FIDF ซึ่งมียอดคงค้างอยู่ที่ 5.8 แสนล้านบาท

 

พร้อมทั้งกล่าวอีกว่า ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะให้ความเห็นต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว สำหรับหลักการหรือขั้นตอนทางกฎหมายในการลดค่าธรรมเนียมดังกล่าว ธปท. ต้องเป็นผู้เสนอ ก่อนจะส่งให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติในที่สุด

 

ก่อนหน้านี้ ในงาน Dinner Talk : Vision for Thailand 2024 ซึ่งจัดโดย Nation TV ทักษิณเสนอว่า ให้ปรับลดเงินนำส่งที่สถาบันการเงินนำส่ง FIDF และสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ‘ลงเหลือครึ่งหนึ่ง’ โดยอีกครึ่งให้ธนาคารพาณิชย์นำมาช่วยลดหนี้รถยนต์และหนี้บ้าน เพื่อช่วยลดหนี้เสียในระบบ

 

ขณะที่ สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยเพิ่มเติมว่า หลังจากเก็บค่าธรรมเนียมมาจากสถาบันการเงินในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้แล้ว ธปท. จะนำเงินส่งไปชำระหนี้ในเดือนกันยายน ซึ่งทำให้ยอดหนี้ FIDF จะลดลงเหลือ 5.5 แสนล้านบาท

 

พร้อมทั้งกล่าวอีกว่า ปัจจุบัน ธปท. เรียกเก็บค่าธรรมเนียมได้ราวปีละ 7 หมื่นล้านบาท โดยจำนวนนี้ต้องจ่ายดอกเบี้ยหนี้ FIDF ปีละ 1.6 หมื่นล้านบาท ส่วนเงินต้น สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะจะเป็นผู้จัดการ ซึ่งปกติจะจ่ายเงินต้นที่มีดอกสูงก่อน

 

โดยหากลดค่าธรรมเนียมดังกล่าวลงเหลือ 0.23% จะทำให้เรียกเก็บเงินต่อปีได้ลดลง 3.5 หมื่นล้านบาท และทำให้เกิดต้นทุนต่อเนื่องอีก 2 ส่วน ได้แก่ ทำให้เงินต้นลดช้าลง และทำให้ต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มอีก 5 พันล้านบาท

 

ทั้งนี้ ปัจจุบันธนาคารพาณิชย์ต้องนำส่งค่าธรรมเนียมคิดเป็น 0.47% ของฐานเงินที่รับจากประชาชนไปให้กับ ธปท. โดยค่าธรรมเนียม 0.47% จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งส่วนแรก หรือ 0.01% ต่อปีของฐานเงินฝาก จะส่งให้กับสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ขณะที่ 0.46% ของยอดเงินจะนำไปใช้ชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยของ FIDF

 
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising