Brian Niccol ซีอีโอ Starbucks คนใหม่ได้รับสิทธิพิเศษไม่ต้องย้ายไปทำงานที่สำนักงานใหญ่ในซีแอตเทิล แต่สามารถทำงานจากบ้านที่นิวพอร์ตบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย และใช้เครื่องบินเจ็ตของบริษัทในการเดินทางไป-กลับสำนักงานใหญ่ที่ซีแอตเทิล ซึ่งอยู่ห่างออกไปถึง 1,000 ไมล์ สิทธิพิเศษนี้ได้รับการเปิดเผยในจดหมายเสนองานของ Niccol ที่ยื่นต่อ SEC เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ในตำแหน่งใหม่นี้ Niccol วัย 50 ปี จะได้รับเงินเดือนพื้นฐาน 1.6 ล้านดอลลาร์ต่อปี (ราว 55 ล้านบาทต่อปี) และมีโอกาสได้รับโบนัสเงินสดประจำปีตั้งแต่ 3.6-7.2 ล้านดอลลาร์ (ราว 134-247 ล้านบาท) ขึ้นอยู่กับผลงาน นอกจากนี้เขายังมีสิทธิ์ได้รับรางวัลหุ้นประจำปีมูลค่าสูงสุด 23 ล้านดอลลาร์ (ราว 79 ล้านบาท)
ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Niccol ได้รับสิทธิพิเศษนี้ เขาเคยเจรจาต่อรองสิทธิพิเศษในการทำงานจากที่บ้านและเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ตของบริษัทมาแล้วเมื่อเข้ารับตำแหน่งซีอีโอของ Chipotle ในปี 2018 ในขณะนั้น Chipotle มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เดนเวอร์ รัฐโคโลราโด และ Niccol อาศัยอยู่ในนิวพอร์ตบีช ซึ่งอยู่ใกล้กับสำนักงานใหญ่ของ Taco Bell ในเออร์ไวน์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเขาเคยดำรงตำแหน่งซีอีโอมาก่อน
หลังจากประกาศแต่งตั้ง Niccol เป็นซีอีโอ Chipotle ได้ย้ายสำนักงานใหญ่จากเดนเวอร์ไปยังนิวพอร์ตบีชภายในเวลา 3 เดือน
ในจดหมายเสนองาน Starbucks ยังระบุว่า จะจัดตั้งสำนักงานระยะไกลให้ Niccol ที่นิวพอร์ตบีช พร้อมกับผู้ช่วยที่เขาเลือกเอง อย่างไรก็ตาม Niccol จะยังคงต้องทำงานจากสำนักงานใหญ่ในซีแอตเทิลอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ ตามนโยบายการทำงานแบบไฮบริดของStarbucks
กรณีของ Niccol สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างในอำนาจการต่อรองระหว่างผู้บริหารระดับสูงและพนักงานทั่วไปในเรื่องของความยืดหยุ่นในการทำงาน แม้ว่าพนักงานทั่วไปอาจไม่สามารถเรียกร้องสิทธิ์ในการทำงานจากที่บ้านในรัฐอื่นได้ แต่บริษัทต่างๆ มักจะยอมให้ผู้บริหารระดับสูงมีอิสระในการทำงานมากขึ้น เพื่อดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถสูงไว้
Raj Choudhury ศาสตราจารย์จาก Harvard Business School ที่ศึกษาเรื่องการทำงานระยะไกล กล่าวว่า ปัจจุบันมีซีอีโอจำนวนมากขึ้นที่ ‘ทำงานจากที่ใดก็ได้’ แม้จะยังไม่มีงานวิจัยที่ครอบคลุมเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขามองว่าแนวโน้มนี้กำลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากตลาดแรงงานยังคงมีความต้องการสูง และผู้บริหารมักจะไม่รับข้อเสนองานหากไม่มีความยืดหยุ่นในการทำงาน
Starbucksตัดสินใจจ้าง Niccol เพราะผลงานที่โดดเด่นของเขาในการพลิกฟื้น Chipotle ให้กลับมามีกำไร หลังจากเหตุการณ์อื้อฉาวเรื่องอาหารเป็นพิษ และนำพาบริษัทผ่านพ้นช่วงวิกฤตโรคโควิดได้สำเร็จ
CNBC รายงานว่า ผลประกอบการของยักษ์ใหญ่กาแฟแห่งนี้ย่ำแย่ในปีนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากยอดขายที่อ่อนแอในสหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด 2 แห่งของบริษัท หุ้นของ Starbucksร่วงลง 21% ในช่วงที่อดีตซีอีโอ Laxman Narasimhan ดำรงตำแหน่งอยู่
Choudhury มองว่าการตัดสินใจของ Starbucksในการจ้าง Niccol เป็นตัวอย่างของบริษัทที่กล้าเสี่ยงเพื่อดึงดูดผู้บริหารระดับแนวหน้า โดยไม่สนใจว่าเขาจะทำงานจากที่ไหน และคาดว่าจะมีบริษัทอื่นๆ ทำตาม หากต้องการดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถสูงสุดไว้กับบริษัทก็ต้องเปิดกว้างสำหรับการทำงานที่ยืดหยุ่น
นอกจากนี้เขายังมองว่าหากผู้นำระดับสูงเริ่มทำงานจากระยะไกลมากขึ้นอาจเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้จัดการระดับกลางลองทำตามเช่นกัน ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรที่เริ่มต้นจากระดับบนลงล่าง และเป็นโอกาสที่ดีสำหรับ Starbucksในการทดลองมอบความยืดหยุ่นในการทำงานให้กับพนักงานในระดับที่ใกล้เคียงกับที่ผู้บริหารได้รับ
อ้างอิง:
