แม้ว่า Apple จะปรับโฉม iPhoneครั้งใหญ่ในปี 2020 ด้วยการเปิดตัวดีไซน์ใหม่และการเชื่อมต่อ 5G แต่ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกเลย และดูเหมือนว่า iPhone 16 ที่กำลังจะเปิดตัวในปลายปีนี้ก็จะยังคงรูปแบบเดิม
iPhone 16 ทั้ง 4 รุ่นที่คาดว่าจะใช้ชื่อ iPhone 16, 16 Plus, 16 Pro และ 16 Pro Max จะไม่มีความแตกต่างจากรุ่นปัจจุบันมากนัก และไม่มีฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญอะไร
สิ่งที่น่าสนใจในiPhone 16 มีดังนี้:
- Apple Intelligence: จุดขายหลักของiPhone 16 จะเป็น Apple Intelligence ชุดความสามารถ AI ใหม่ของบริษัท ซึ่งจะทำงานได้บนiPhone 16 ทุกรุ่น รวมถึงiPhone 15 Pro ด้วย อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าฟีเจอร์นี้จะดึงดูดผู้บริโภคมากน้อยเพียงใด
- ปุ่ม Action:iPhone 16 รุ่นธรรมดา (ไม่ใช่ Pro) จะมีปุ่ม Action เพิ่มเข้ามา ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีอยู่ในรุ่น Pro ของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม Apple กำลังเปิดตัว Control Center ที่ปรับแต่งได้มากขึ้น และตัวเลือก Lock Screen ที่เปลี่ยนแปลงได้ใน iOS 18 ซึ่งอาจทำให้ปุ่ม Action มีความสำคัญน้อยลง
- ปุ่มควบคุมกล้องใหม่: จะมีปุ่มควบคุมกล้องใหม่ที่ด้านขวาของโทรศัพท์ (อย่างน้อยก็ในรุ่น Pro ใหม่) ซึ่งจะทำงานเหมือนปุ่มบนกล้อง DSLR ช่วยให้คุณกดเบาๆ เพื่อเรียกใช้ Autofocus และกดแรงๆ เพื่อถ่ายภาพ นอกจากนี้ คุณยังสามารถปัดไปตามปุ่มเพื่อซูมเข้าและออกขณะถ่ายภาพและวิดีโอได้
- หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย: รุ่น Pro อาจมีหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย โดย Pro ธรรมดาจะขยายจาก 6.1 นิ้วเป็น 6.3 นิ้ว และ Pro Max จะขยายจาก 6.7 นิ้วเป็นเกือบ 6.9 นิ้ว
- สีสันใหม่: สีของiPhone 16 จะได้รับการรีเฟรช โดยคาดว่าสีฟ้าในรุ่น Pro จะถูกแทนที่ด้วยสีอื่น และอาจมีการนำสีโรสโกลด์ที่ได้รับความนิยมเมื่อไม่กี่ปีก่อนกลับมาอีกครั้ง
- ชิป A18 และ RAM 8GB:iPhone 16 ทุกรุ่นจะมาพร้อมกับชิป A18 และ RAM 8GB ซึ่งเป็นขั้นต่ำที่จำเป็นสำหรับการใช้งาน Apple Intelligence
หากคุณมี iPhoneรุ่นเก่า การอัปเกรดเหล่านี้อาจน่าสนใจ แต่ไม่ถึงกับเป็นสิ่งที่ต้องมี Mark Gurman จาก Bloomberg คาดว่าiPhone 16 จะไม่สามารถกระตุ้นยอดขายให้ Apple ได้มากนัก และหากดูจากการคาดการณ์ทางการเงินล่าสุดของบริษัท ก็ดูเหมือนว่า Apple เองก็ไม่ได้คาดหวังเช่นนั้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ปีหน้าอาจมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์iPhoneโดย Apple จะเปิดตัว iPhoneSE ใหม่ ซึ่งเป็นการอัปเกรดครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2022 รุ่นนี้จะมีลักษณะคล้ายกับiPhone 14 แต่มีจอแสดงผล OLED ที่คมชัดกว่าและครอบคลุมทั่วทั้งอุปกรณ์ และแน่นอนว่ามันจะมาพร้อมกับ Apple Intelligence ด้วย
หาก Apple สามารถลดราคาของ iPhoneSE ใหม่ลงมาอยู่ที่ประมาณ 1.75 หมื่นบาท (500 ดอลลาร์) Gurman คิดว่ามันอาจเป็นสินค้าขายดี
แต่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญกว่านั้นจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนปีหน้ากับiPhone 17 ซึ่งจะนำเสนอสมาร์ทโฟนประเภทใหม่ ซึ่ง Gurman เรียกว่า “iPhoneรุ่นที่ 4”
กลุ่มผลิตภัณฑ์หลักของ iPhoneมี 3 ตัวเลือกหลัก: iPhoneธรรมดา, Pro และ Pro Max เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ Apple พยายามค้นหาโทรศัพท์ประเภทที่ 4 ที่จะโดนใจลูกค้า ในปี 2020 พวกเขาพยายามทำเช่นนั้นโดยการเปิดตัวiPhone 12 mini แต่ผลิตภัณฑ์นี้ล้มเหลวในเชิงพาณิชย์
ดังนั้น การเคลื่อนไหวต่อคือการไปในทิศทางตรงกันข้าม Apple กำจัด mini และมาพร้อมกับiPhone 14 Plus ซึ่งเป็นรุ่นที่ใหญ่กว่าของโทรศัพท์มาตรฐาน เช่นเดียวกับ mini Plus ก็ล้มเหลวเช่นกัน ปัญหาหนึ่งคือราคาเพราะiPhone 15 Plus มีราคาน้อยกว่าiPhone 15 Pro ที่ทรงพลังกว่าเพียง 3,500 บาท (100 ดอลลาร์) ดังนั้นผู้บริโภคจำนวนมากจึงคิดว่าคุ้มค่าที่จะจ่ายเงินเพิ่มอีกเล็กน้อยสำหรับโทรศัพท์ที่ดีกว่า
ปีหน้า Apple จะลองใช้แนวคิดรุ่นที่ 4 นี้อีกครั้ง แนวทางในครั้งนี้จะออกมาในดีไซน์ที่บางลงมาก แนวคิดคือการสร้าง iPhoneเวอร์ชัน ‘Air’ ซึ่งเป็นรุ่นที่อยู่ระหว่างiPhone 17 และiPhone 17 Pro การเปรียบเทียบที่เหมาะสมที่สุดน่าจะเป็น MacBook Air รุ่นดั้งเดิมจากกว่าทศวรรษที่แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่าง MacBook ธรรมดาและ MacBook Pro
จุดขายอาจเป็นแบบนี้: ถ้าคุณอยากได้อะไรที่ดูหรูหรากว่า iPhoneธรรมดา แต่ไม่ได้ต้องการประสิทธิภาพ ขนาดหน้าจอ หรือกล้องระดับ Pro จริงๆ คุณก็สามารถเลือก iPhoneรุ่นนี้ได้ มันดูเท่กว่าเยอะ แต่ยังคงมีสเปกพื้นฐานเหมือน iPhoneรุ่นปกติทั่วไป
การผสมผสานระหว่าง SE ใหม่และรุ่นบางอาจดีพอที่จะทำให้ iPhoneกลับมามีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปี 2025 Gurman คิดว่าโทรศัพท์สไตล์ Air อย่างน้อยก็จะได้รับความนิยมมากกว่า mini และ Plus ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
แต่แม้แต่รุ่นเริ่มต้นที่บางลงนี้ก็เป็นเพียงก้าวแรกสู่สิ่งที่ดีกว่า ในท้ายที่สุด Apple จะต้องการบรรจุพลังของรุ่น Pro ลงในดีไซน์ที่เล็กลงนี้ ซึ่งความสำเร็จนี้อาจต้องใช้เวลาถึงปี 2027 เป็นอย่างน้อย Gurman คาดว่า Apple จะผลิต iPhoneแบบพับได้ด้วย แต่สัญญาณภายในบริษัทชี้ว่า iPad แบบพับได้ก็มีความสำคัญพอๆ กัน นั่นหมายความว่าเราอาจเห็นแท็บเล็ตรุ่นพับได้ออกมาก่อนก็ได้
ไม่ว่าในกรณีใด ตัวเลือกเหล่านั้นยังคงห่างออกไปหลายปี ในระยะสั้น ผู้บริโภคจะต้องเผชิญกับภาพที่คุ้นเคย นั่นคือ iPhoneที่มีลักษณะคล้ายกับรุ่นปีที่แล้ว
อ้างอิง:
