นับเป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ เมื่อ ‘ราเมงเดส-ซานตา เฟ่-ส้มตำเจ๊แดง’ กำลังถูกนำมารวมไว้ในพอร์ตเดียวกัน รวมกับร้านอาหารอีก 5 แบรนด์ หลัง เต้-ภูริต ภิรมย์ภักดี, เบียร์-ปิยะเลิศ ใบหยก และ ฉาย บุนนาค ตั้งบริษัทร่วมทุน FAB ขึ้นมาเพื่อบุกธุรกิจร้านอาหารอย่างเต็มตัว
จุดเริ่มต้นของชื่อบริษัทนั้นมาจากตัวอักษรตัวแรกของทั้ง 3 บริษัท ที่ประกอบไปด้วย FOOD FACTORS จากบริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด ตามด้วย AQUA หรือ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และตัว B ที่ย่อมาจาก เบียร์-ปิยะเลิศ ใบหยก จนกลายเป็น FAB ซึ่งแต่งตั้ง ปิยะเลิศ ใบหยก นั่งตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจร้านอาหารให้สามารถรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค
ปิยะเลิศกล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายหลักของ FAB จะเน้นกลุ่ม Young Generation ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีอิทธิพลมากที่สุด เพราะกล้าตัดสินใจใช้จ่ายกับสินค้าและการบริการที่คิดว่าตอบโจทย์ความต้องการของตัวเอง ควบคู่ไปกับการรักษาฐานลูกค้าเก่าของแต่ละแบรนด์ไว้ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เงินเฟ้อ ตลาดงานทรุด! เชนร้านอาหารทั่วโลกต้องปรับตัว ลดราคา-หั่นต้นทุน สู้วิกฤตเศรษฐกิจซบเซา
- ร้านอาหารชั้นนำทั่วซิดนีย์ทยอยปิดกิจการ พิษเศรษฐกิจซบเซา ทำผู้บริโภคประหยัดค่าใช้จ่าย
- เทรนด์การใช้ AI เริ่มเป็นเป้าหมายใหญ่ร้านอาหารที่ต้องการลดความผิดพลาดของพนักงาน แถมยังลดค่าใช้จ่ายอีกด้วย
สำหรับการร่วมทุนครั้งนี้ มีการจัดตั้งบริษัทใหม่ภายใต้ บริษัท เอฟเอบี ฟู้ดโฮดิ้ง จำกัด (FAB) และมีการรวมแบรนด์ร้านอาหารทั้งสิ้น 8 แบรนด์ จำนวน 204 สาขา แบ่งเป็น บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด 3 แบรนด์ คือ ร้านซานตา เฟ่, ร้านซานตา เฟ่ อีซี่ และร้านเหม็ง แซ็ปนัว รวม 142 สาขา ในส่วนของบริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 1 แบรนด์ คือร้านราเมงเดส รวม 5 สาขา และจากกลุ่มเบียร์ ใบหยกและบีเอ็นเอฟ โฮลดิ้ง 4 แบรนด์ คือ ร้านส้มตำเจ๊แดงสามย่าน, ร้านเซไค โนะ ยามะจัง, ร้านอุชิดายะ ราเมน และร้านอิคโคฉะ ราเมน รวม 57 สาขา
ฉาย บุนนาค รักษาการประธานกรรมการบริหาร บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA กล่าวว่า จุดแข็งของอควา คอร์เปอเรชั่นนั้นเป็นบริษัทบริหารการลงทุนที่มีความหลากหลาย ทั้งธุรกิจนวัตกรรมด้านการเงิน (FinTech) ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ รวมทั้งธุรกิจจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม มีแบรนด์ดังอย่างร้านราเมงเดส
โดยมองว่าการทำ Synergy ร่วมกันกับพาร์ตเนอร์ในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันให้กลุ่ม AQUA ในฐานะ Investment Company สามารถสร้างแหล่งรายได้จากประเภทธุรกิจอาหารได้มากขึ้น
สอดคล้องกับ ภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า การจับมือกับพาร์ตเนอร์ทั้ง 2 บริษัท แต่ละฝ่ายจะนำความถนัดและจุดแข็งมาผนึกกำลังกันเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค สอดรับกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบุญรอดฯ ตลอดระยะเวลากว่า 90 ปีที่ผ่านมา ที่มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มมานาน
ทั้งนี้ บริษัทมองเห็นโอกาสในการพัฒนายกระดับสินค้าและบริการในกลุ่มร้านอาหาร ภายใต้บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด ที่ปัจจุบันมีร้านอาหาร 3 แบรนด์หลัก ได้แก่ ซานตา เฟ่, ซานตา เฟ่ อีซี่ และเหม็ง แซ็ปนัว ซึ่งแต่ละแบรนด์มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเฉพาะ และยังมีความเชี่ยวชาญอาหารตะวันตกอย่างสเต็ก และอาหารอีสาน ซึ่งมีตลาดที่ชัดเจนอยู่แล้ว
“แน่นอนว่าการรวมกันในครั้งนี้จะช่วยต่อยอดการพัฒนาให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมมากขึ้นกว่าเดิม” ภูริตย้ำ