วันนี้ (23 กรกฎาคม) วัน อยู่บำรุง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร (สส. กทม.) พรรคเพื่อไทย แถลงเปิดใจถึงการย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐว่า มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ นอกจากข่าวลาออกจากกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี มีเพื่อนๆ หลายท่านติดต่อมาชวนเข้าพรรคเต็มไปหมด แต่สักพักก็เงียบหายไป ไม่ทราบว่าโดนใครแตะเบรกมา
จนกระทั่งตนไปลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็มี สามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ถามว่า มาอยู่กับ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือไม่
“ผมถามทันทีว่า ลุงป้อมจะรับผมเหรอ หลังจากนั้นก็โทรมาหาผม และเรียกให้เข้าไปพูดคุย ซึ่งประโยคแรกที่เข้าไปพบคือ ยินดีต้อนรับเข้ามาทำงานด้วยกัน ผมเองซาบซึ้งและประทับใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะผมเหมือนหนีร้อนมาพึ่งเย็น ลุงป้อมใจใหญ่ ใจกว้าง ใจถึงพึ่งได้จริงๆ และขอบคุณหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่อวยพรให้ผมโชคดี ประสบความสำเร็จ” วันกล่าว
วันกล่าวอีกว่า ในวันที่ 30 มิถุนายน ที่นับคะแนนเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เดินทางถึงบ้าน พล.ต.ท. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัคร นายก อบจ.ปทุมธานี ก่อนตนเสียอีก ซึ่งเป็นช่วงเวลาปิดหีบแล้ว ดังนั้น ฝากไปถึงคณะกรรมการจริยธรรมของพรรคเพื่อไทยว่าจะดำเนินการอย่างไร
และทุกวันนี้ยังไม่มีใครเรียก ร.ต.อ. เฉลิม ไปตำหนิต่อว่าอะไรเหมือนที่ตนโดนเลย กรณีอย่างนี้ คณะกรรมการจริยธรรมพรรคเพื่อไทยควรขับ ร.ต.อ. เฉลิม ออกจากพรรค เพราะถ้า ร.ต.อ. เฉลิม ทำได้ เดี๋ยว สส. คนอื่นของพรรคเพื่อไทยก็ทำได้ ไม่เช่นนั้นจะปกครองพรรคอย่างไร ท่านต้องขับ ร.ต.อ. เฉลิม ออกจากพรรคเพื่อไทย ทำไมไม่มีผู้ใหญ่คนไหนเรียก ร.ต.อ. เฉลิม ไปพูดคุย ทั้งที่ไปบ้าน พล.ต.ท. คำรณวิทย์ เหมือนกัน ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
วันกล่าวว่า ขอบคุณผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทยที่มีจิตใจเมตตา เรื่องของ ร.ต.อ. เฉลิม ก็เป็นในส่วนของ ร.ต.อ. เฉลิม ของตนก็ส่วนของตน ของ อาชวิน อยู่บำรุง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ก็เป็นเรื่องของอาชวิน นวรัตน์ อยู่บำรุง สก. หนองแขม ก็ยังอยู่พรรคเพื่อไทย แต่อนาคตเราก็ไม่ทราบ
ส่วนที่ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ว่า การที่ตนมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐนั้น ให้ประชาชนพิจารณา ปกติภูมิธรรมไม่เคยพูดแบบนี้ ไม่ทราบใครสั่งมาให้พูดหรือไม่ รวมถึงกรณีที่ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า ไม่ทราบเรื่องที่ตนจะมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ เพราะเป็นเรื่อง พล.อ. ประวิตร นั้น ตนกับ ร.อ. ธรรมนัส รู้จักกันมาตั้งแต่ปี 2540 การที่ท่านบอกไม่ทราบเพราะอาจจะงานยุ่ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้ความสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทยจะเผาผีกันหรือไม่ วันกล่าวว่า อันนี้ก็แรงเกินไป ทุกคนต้องมีแนวทางทางการเมือง ถึงแม้จะอยู่ต่างพรรค ตอนเป็น สส. ตนก็มีเพื่อนทุกพรรค
เมื่อถามว่า การที่ออกมาแล้วและพูดเช่นนี้ จงใจสร้างความเสียหายให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่ วันกล่าวว่า นี่ตนพูดว่าร้ายพรรคเพื่อไทยตรงไหน ตนเอาความจริงมาพูด ไม่เผาบ้านเก่าหรอก อยู่มาตั้ง 17 ปี แต่บางเรื่องข้อเท็จจริงมันต้องเล่าสู่กันฟัง
เมื่อถามว่า ร.ต.อ. เฉลิม และ พล.อ. ประวิตร ได้พูดคุยกันบ้างหรือไม่ วันกล่าวว่า ตนไปพบ พล.อ. ประวิตร มาแล้วรอบหนึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม ใช้เวลาพูดคุย 2 ชั่วโมง คุยกันออกรส เพราะรู้จักกันตั้งแต่ ร.ต.อ. เฉลิม เป็นสารวัตรกองปราบปราม พล.อ. ประวิตร ขณะนั้นมียศเป็น พ.ต. หรือ พ.ท. ตนไม่แน่ใจ แต่รายละเอียดอื่นๆ ตนไม่ทราบ เพราะท่านคุยกันกระซิบกระซาบ กะหนุงกะหนิง พล.อ. ประวิตร ท่านเมตตาอ้าแขนรับตนคนแรก
เมื่อถามอีกว่า มีโอกาสที่ ร.ต.อ. เฉลิม จะมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ วันกล่าวว่า “ผมตอบแทนคุณพ่อเลยครับ ถ้าพรรคเพื่อไทยขับ ร.ต.อ. เฉลิม ร.ต.อ. เฉลิม เข้าพรรคพลังประชารัฐแน่นอน ก็มันผิดระเบียบหรือไม่ ก็อย่างผมยังบอกว่าผิด ทั้งที่ผมไม่ได้เป็น สส. แต่มีตำแหน่งทางการเมือง วันนี้คุณพ่อก็อยู่ พรรคเพื่อไทยก็รู้ ก็รออยู่ ไม่เห็นเรียกคุณพ่อผมไปกล่าวว่าตักเตือนหรืออะไรสักอย่าง”
วันกล่าวว่า ส่วนอนาคตทางการเมืองของตน มันไม่ได้มีแค่ สส. ไม่ต้องเป็น สส. แต่ทำงานอยู่กับพรรคที่มีศักยภาพช่วยเหลือประชาชนได้ ทั้งนี้ พรรคอื่นโดนแตะเบรกเรื่องตน ตนไม่รู้ใครไปแตะเบรก แต่ พล.อ. ประวิตร ไม่สน ท่านเมตตาตนเหมือนลูกเหมือนหลาน อยู่กับท่านแล้วอบอุ่น และไม่ทราบว่าทำไมพรรคเพื่อไทยถึงไม่ขับ ร.ต.อ. เฉลิม ออกจากพรรค และไม่ทราบว่ามีเหตุจำเป็นอะไรที่พรรคเพื่อไทยต้องรักษา ร.ต.อ. เฉลิมไว้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เคยติดต่อไปที่พรรคภูมิใจไทยหรือไม่ วันกล่าวว่า มีเพื่อนๆ ที่เป็นสมาชิกแทบทุกพรรคโทรศัพท์หาตน แต่ไม่มีผู้ใหญ่ของพรรคไหนโทรมา เอาเป็นว่ามีการแตะเบรกก็แล้วกัน
เมื่อถามว่า ฝืนใจหรือไม่ที่ต้องมาพรรคพลังประชารัฐ วันกล่าวว่า “โอ้โห เป็นพรรคแรกที่อ้าแขนรับผม พล.อ. ประวิตร บอกยินดีต้อนรับ มาอยู่กับผม มาทำงานด้วยกัน ผมตัดสินใจอยู่กับลุงป้อมทันที”
ส่วนจะสร้างกระแสจนมีคะแนนนิยมได้เป็น สส. ในอนาคตให้พรรคพลังประชารัฐได้หรือไม่ วันกล่าวว่า การเมืองเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่แน่ไม่นอน โอกาสอะไรใหม่ๆ ที่ดีก็สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะชิงพื้นที่บางบอนกลับมาได้ คอยจับตาดูให้ดี เดือนสิงหาคม-กันยายนจะมีเหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ รอติดตาม
เมื่อถามว่า การมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ มีความรู้สึกหรือไม่ว่า พล.อ. ประวิตร กับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาจไม่ลงรอยกัน วันกล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าท่านไม่ลงรอยกันตั้งแต่เมื่อไร ก็ยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน และการที่ตนมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐก็ไม่เกี่ยวกับการแก้เกมอะไรทั้งสิ้น ตนอยากมีพรรคสังกัดไวๆ จะได้ทำงานได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลชินวัตรกับอยู่บำรุงถือว่าขาดกันแล้วหรือไม่ วันกล่าวว่า ส่วนตัวก็รักและเคารพคุณอาทักษิณอยู่เสมอ ตนเรียกคุณอาตลอด เวลาพบเจอไม่ว่าตั้งแต่สมัยไหนจนกระทั่งล่าสุดก็เรียกคุณอา ยืนยันว่ายังรักและเคารพท่าน แต่ทางการเมืองก็ว่ากันไป