กระแสและความร้อนแรงของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EV) ปี 2024 ยังคงเห็นข่าวคราวของบรรดาแบรนด์ EV จีนตบเท้าเข้ามาบุกตลาดอย่างต่อเนื่อง! หลังจากมีเจ้าใหญ่ๆ อย่าง BYD, SAIC (MG), Great Wall Motor, NETA, CHANGAN, GAC Aion, OMODA & JAECOO สองแบรนด์จากค่าย Chery Group และยังมี XPENG ที่รอเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
โดย XPENG และ ZEEKR ถือว่าเริ่มคุ้นชื่อกันมาบ้างแล้ว หลังประกาศทำตลาดในไทยในเวลาใกล้เคียงกัน ซึ่ง 2 แบรนด์นี้มี ARUN PLUS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ ปตท. ถือหุ้นทางอ้อม 100% กับ บริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด ง่ายๆ คือเป็นหนึ่งในดีลเลอร์
วันนี้จึงเรียกได้ว่า ZEEKR กำลังเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่จะลงสนาม EV ในไทยเต็มตัว ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท
โดย ZEEKR ถือว่าเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากจีน แบรนด์ที่ 8 ที่เข้ามาในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ หลังจากที่ประเดิมส่งรุ่น ZEEKR X รถไฟฟ้าพรีเมียม SUV เพื่อไลฟ์สไตล์คนเมืองไปแล้วในงานมอเตอร์โชว์เมื่อต้นปี จนมียอดจองกว่า 350 คัน นอกจากนี้ ปีนี้ก็เตรียมเปิดตัว ZEEKR 009 รถ MPV พลังงานไฟฟ้าสุดหรูคันแรกของโลกในไทยอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- รู้จัก ‘XPENG’ แบรนด์ที่ออกมาประกาศหั่นราคารถยนต์ไฟฟ้า 5 แสนบาท ท้าชน Tesla-BYD และกำลังจะเข้ามาบุกตลาด EV ไทย
- เปิดชื่อแบรนด์รถยนต์ EV จีน ที่เข้ามาตั้งโรงงานผลิตในไทย เริ่มเดินสายพานปี 2567-2568 กำลังผลิตเท่าไร ตั้งอยู่ที่ไหนบ้าง
- เกิดอะไรขึ้นกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย? ครั้งนี้ไม่เหมือนยุค 1980 ปิกอัพไทยเสี่ยงล่มสลาย ถูกกินรวบจาก EV จีน
รู้จัก ‘ZEEKR’ เป็นใครมาจากไหน
ZEEKR (ออกเสียงว่า ซีเคอร์) หรือ ZEEKR Intelligent Technology เป็นแบรนด์ EV ในเครือบริษัท Geely Holding Group ของจีน ก่อตั้งในปี 2564 ซึ่งเป็นเครือเดียวกับ Geely Auto, Lynk & Co, Geometry, Volvo Cars, Polestar, Lotus, London Electric Vehicle Company, Farizon Auto, Radar Auto และ CAO CAO Mobility ซึ่ง ZEEKR ถือเป็นแบรนด์ EV ที่หรูหราและใหม่ล่าสุดของกลุ่ม ที่วางรากฐานของแบรนด์เป็น A Luxury Technology Brand for a New Era โดย ZEEKR มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองหางโจว ประเทศจีน ที่วางจุดเด่นในการทำตลาดที่เจาะไปในเซ็กเมนต์พรีเมียม-ลักชัวรี สำหรับรถยนต์ที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่ (BEV)
ส่วนความหมายของชื่อ ZEEKR นั้น ตัวอักษร ZE ย่อมาจาก Zero ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด ส่วนตัวอักษร E ย่อมาจาก Evolving the Electric Era (วิวัฒนาการไปสู่ยุคแห่งระบบไฟฟ้า) และ KR ย่อมาจาก Krypton ซึ่งเป็นก๊าซหายากที่เปล่งแสงเมื่อถูกไฟฟ้า
โดยมี The Dawn Logo เป็นสัญลักษณ์แทนแสงแรกของวันที่ทอดยาวข้ามกาลเวลา เชื่อมโยงปัจจุบันและอนาคต ความเป็นจริงและความฝัน เป็นแสงแห่งรุ่งอรุณที่ส่องประกายและสร้างแรงบันดาลใจ
ปัจจุบัน ZEEKR ทำตลาดมากกว่า 20 ประเทศ มียอดขายสะสมในช่วง 29 เดือน กว่า 2.4 แสนคัน และประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นของบริษัทให้กับสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเมื่อไม่นานมานี้
และนอกจากการเข้ามาทำตลาดในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ภายในเดือนตุลาคมนี้ คาดว่าจะเปิดตัวแบรนด์ในภูมิภาคอาเซียนได้ทุกประเทศอีกด้วย
EV ไทยมาแรง และกลุ่ม EV พรีเมียม-ลักชัวรี ยังไม่มีแบรนด์ไหนทำตลาด
เฉิน หยู (มาร์ส) รองประธานของ ZEEKR Intelligent Technology เปิดเผยว่า
ZEEKR ใช้เวลาเพียง 2 ปีในการส่งมอบรถยนต์กว่า 100,000 คัน เรียกว่าเวลาไม่กี่ปีได้รับความนิยมและการยอมรับในตลาดโลก ด้วยนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ และการมุ่งเน้นที่ผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง โดยยอดขายของ ZEEKR เติบโตอย่างรวดเร็ว จาก 10,378 คันในปี 2565 เป็น 49,148 คันในปี 2567
“นี่จึงเป็นเหตุผลให้ ZEEKR มั่นใจว่าจะเป็นผู้เล่นสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทยต่อไปอีกหลายปีข้างหน้า”
(ซ้าย: เฉิน หยู (มาร์ส) รองประธาน และ เป่า จ้วงเฟย (อเล็กซ์) ประธานฝ่ายภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้)
เฉินบอกอีกว่า แนวโน้มการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของไทยในระยะต่อไปจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เมื่อดูจากข้อมูลของ ttb analytics ประเมินยอดขายรถยนต์ EV ในปี 2567 ของไทยจะอยู่ที่ 103,182 คัน หรือขยายตัว 36.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดรถยนต์ EV เพิ่มสูงขึ้นเป็น 13.4% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ 9.8%
“ที่เรามองเห็นช่องว่างคือ ยังไม่มีแบรนด์ใดทำตลาดรถ EV ระดับพรีเมียม-ลักชัวรีในไทย”
โดยก่อนหน้านี้ในช่วงงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ZEEKR ก็ส่ง ZEEKR X เข้ามาโชว์ ดังนั้นวันนี้ก็พร้อมทำตลาดในไทยทั้งหมด 2 รุ่น โดย ZEEKR X มี 2 รุ่น ได้แก่รุ่น Standard ให้กำลังการขับขี่ 272 แรงม้า ชาร์จ 1 ครั้ง ขับได้ไกลถึง 540 กิโลเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 1,199,000 บาท
และรุ่น Flagship ซึ่งเป็นรุ่นที่โดดเด่นด้าน Performance การขับขี่ที่ 470 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ราคา 1,349,000 บาท ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าคนไทย ด้วยยอดจองกว่า 350 คัน
ขอท้าชนแบรนด์ EV พรีเมียม-ลักชัวรี เป้ายอดขาย 2,000 คันอยู่ไม่ไกล
เป่า จ้วงเฟย (อเล็กซ์) ประธานฝ่ายภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ZEEKR Intelligent Technology กล่าวว่า วันนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ EV ไทยเปรียบเสมือน ‘โอเอซิสแห่งยานยนต์ไฟฟ้า’ มีผู้เล่นเข้ามาทำตลาดมากขึ้นและเติบโตเร็วมาก ZEEKR จึงวางกลยุทธ์การตลาดในไทย ด้วยการตั้งเป้าหมายที่จะเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มตลาดยานยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับพรีเมียม-ลักชัวรีในไทย
โดยวางกลยุทธ์จะเน้นเฉพาะกลุ่ม และจำหน่ายผ่านดีลเลอร์รายใหญ่กว่า 6 ราย และมี ZEEKR House 14 แห่งครอบคลุมบริการหลังการขาย อีกทั้งพร้อมจะขยายเพิ่มอีกกว่า 20 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ
“เราตั้งเป้ายอดขายในประเทศไทยมากกว่า 2,000 คันภายในสิ้นปี 2567 นี้” เป่า จ้วงเฟย กล่าว
มองสงครามราคา EV ไทยโตเร็วกว่าที่คิด
เป่า จ้วงเฟย บอกอีกว่า ตลาด EV ไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงมาก เพราะดูจากในปีที่ผ่านมา ยอดขายรถ EV มีประมาณ 76,000 คัน หรือ 10% ของตลาดรถยนต์ในไทยทั้งหมด เรียกได้ว่าเติบโตกว่า 7 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นั่นแปลว่าคนไทยตอบรับกับรถ EV จีนเร็วมาก และเติบโตเร็วกว่าที่คิด แม้ว่าจะมีปัญหาการปล่อยสินเชื่อของธนาคารที่ชะลอไปบ้าง แต่ภาพรวมถือว่าเติบโตดี
และสิ่งหนึ่งที่ตลาดรถยนต์ EV ในไทยยังมีช่องว่างคือ ยอดขายรถ EV ส่วนใหญ่นั้นเน้นกลุ่ม Eco Car แต่กลุ่ม SUV ยังเป็นกลุ่มที่ยังไม่มีผู้เล่นเยอะมากนัก รวมไปถึงกลุ่มอย่าง MPV (Multi Purpose Van) และคอมเมอร์เชียลก็ยังมีน้อย
ต่อคำถามที่ว่า มองสงครามราคา EV ในไทยอย่างไร ส่วนตัวมองว่า “เราเริ่มเห็นสงครามราคาร้อนแรงอย่างมากในขณะนี้ แต่คงไม่ใช่เรื่องดีนักที่จะหั่นราคาลงเช่นนั้น เพราะจะทำให้ลูกค้าลังเลหรือชะลอการซื้อ ที่สำคัญคือทำลายทั้งระบบนิเวศอุตสาหกรรม”
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ารัฐบาลก็น่าจะมีแนวทางหารือกับแบรนด์ที่เริ่มทำสงครามราคา แต่ก็น่าจะทราบกันดีว่า เรื่องนี้ที่จีนก็เคยเกิดสงครามราคารุนแรงมากมาก่อน ในขณะนั้นตลาดวุ่นวายมาก คงต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือนกว่าจะกลับมาเป็นปกติ ดังนั้นมองว่าตลาดไทยก็อาจคล้ายคลึงกัน
“อย่างไรก็แล้วแต่ ZEEKR จะไม่เทียบตัวเองกับแบรนด์จีน แต่เราขออยู่ในกลุ่มรถพรีเมียม-ลักชัวรี อย่าง BMW หรือ Mercedes-Benz ส่วนราคาผมก็อยากยืนยันและย้ำว่า ZEEKR จะไม่เล่นสงครามราคาเด็ดขาด เราจะเน้นการมอบประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า ด้วยคุณภาพสินค้าของรถพรีเมียม-ลักชัวรี มีบริการหลังการขาย นี่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เรามองกับอุตสาหกรรม EV ในไทย”
เป่า จ้วงเฟย กล่าวทิ้งท้ายกับ THE STANDARD WELTH ว่า หากตลาดในไทยเติบโตในระดับนี้ อนาคตมองไปถึงแผนก่อตั้งโรงงานในประเทศไทยอย่างแน่นอน