ช่วงวันพุธที่ผ่านมา (3 กรกฎาคม) ราคาหุ้น Tesla ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องกว่า 7 วันติดต่อกัน คิดเป็นการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นราว 35% หลังประกาศยอดการส่งมอบรถยนต์ในไตรมาส 2 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
หากพิจารณาจากจุดต่ำสุดตั้งแต่เดือนเมษายน 2024 ราคาหุ้น Tesla ปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 70% มาอยู่ที่บริเวณ 246 ดอลลาร์
ตัวเลขการส่งมอบรถยนต์ในไตรมาส 2 ของ Tesla อยู่ที่ 443,956 คัน ขณะที่ยอดการผลิตรถยนต์อยู่ที่ 410,831 คัน ขณะที่ข้อมูลของ FactSet StreetAccount ซึ่งรวบรวมความเห็นนักวิเคราะห์ที่ประมาณการไว้ว่า Tesla จะส่งมอบรถยนต์ได้ 439,000 คัน
นักวิเคราะห์จาก Citigroup มองว่า การที่ราคาหุ้นตอบรับต่อยอดส่งมอบรถที่ทำได้ดีกว่าการคาดการณ์ของตลาด แต่ในช่วงหลังจากนี้ นักลงทุนจะเปลี่ยนมาดูที่อัตราการทำกำไรของรถยนต์ในไตรมาส 2 และแผนงานในอนาคตของ Tesla
ในขณะที่คู่แข่งซึ่งเป็นบริษัทยานยนต์ไฟฟ้าจากจีนอย่าง ZEEKR และ NIO รายงานยอดการส่งมอบรถยนต์ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเป็น 87,870 คัน และ 87,426 คัน ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ยุโรปและสหรัฐฯ ต่างตั้งกำแพงภาษีสำหรับการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนเป็น 38% และ 100% ตามลำดับ เพื่อป้องกันการไหลเข้าของสินค้าจีนจนกระทบตลาดภายในประเทศ
นอกจากนี้ Tesla ยังประกาศยอดขายแบตเตอรี่รวม 9.4 กิกะวัตต์ชั่วโมง คิดเป็น 10% ของยอดขายแบตเตอรี่ทั่วโลกทั้งปี 2023 ซึ่งอยู่ที่ราว 100 กิกะวัตต์ชั่วโมง ตัวเลขดังกล่าวมีแนวโน้มจะสูงขึ้นจากปี 2023 ที่ขายได้ 15 กิกะวัตต์ชั่วโมง
อ้างอิง: