ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA ที่เคยพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 105.5 บาทเมื่อปลายปี 2564 ร่วงลงมาแตะระดับ 10.5 บาท ต่ำสุดในรอบ 10 ปี ส่งผลให้มูลค่าของบริษัทลดลงไปกว่า 3 แสนล้านบาท เหลืออยู่ประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาทในปัจจุบัน
แหล่งข่าววงการตลาดทุนเปิดเผยกับ THE STANDARD WEALTH ว่า จุดเริ่มต้นในการดิ่งลงของราคาหุ้น EA คาดว่ามาจากความกังวลของนักลงทุนสถาบันต่อความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัท ซึ่งปีนี้มีหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระจำนวนมาก รวมทั้งเงินกู้จากสถาบันการเงินที่จะครบกำหนดราว 7 พันล้านบาท ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่าบริษัทจะสามารถชำระคืนได้เต็มจำนวนหรือไม่
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก ThaiBMA ระบุว่า EA จะมีหุ้นกู้ระยะยาวครบกำหนดชำระในปีนี้ 2 รุ่น รวมมูลค่า 5.5 พันล้านบาท และมีหุ้นกู้ระยะสั้นที่จะครบกำหนดชำระรวมมูลค่า 1.6 พันล้านบาท
แหล่งข่าวเปิดเผยต่อว่า นอกจากนี้ยังมีความกังวลต่องบแสดงฐานะการเงินของ EA ซึ่งมีการกู้เงินจากสถาบันการเงินเพื่อนำมาปล่อยกู้ต่อให้กับ บมจ.เน็กซ์ พอยท์ หรือ NEX ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ EA เพื่อใช้ทำโครงการรถบัสไฟฟ้า (EV Bus) ซึ่งปัจจุบันโครงการไม่เป็นไปตามแผนที่บริษัทให้ข้อมูลไว้กับนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันต่างประเทศรายใหญ่ จนนำไปสู่แรงเทขายอย่างต่อเนื่อง
แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า อีกหนึ่งปัจจัยกดดันราคาหุ้น EA คาดว่าจะมาจากราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ส่งผลกระทบให้เกิดการบังคับขาย (Force Sell) หุ้นที่ถูกถือโดยผู้ถือหุ้นรายใหญ่บางราย
ด้าน EA ชี้แจงผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ตามที่ราคาซื้อ-ขายหุ้นของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ลดลงเป็นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมาจนถึงเช้าวันนี้ บริษัทขอเรียนชี้แจงว่า บริษัทไม่มีพัฒนาการที่สำคัญทางธุรกิจในระยะเวลาอันใกล้ที่มีผลต่อราคาหลักทรัพย์แต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงเกิดจากปัจจัยภายนอกและสภาวการณ์อื่น ซึ่งไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท หากบริษัทมีพัฒนาการที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจที่สำคัญใดๆ บริษัทจะแจ้งให้นักลงทุนทราบและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป