หนึ่งในเก้าอี้สำคัญของวงการตลาดทุนไทยคือ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ผู้กำหนดนโยบายทิศทางการเดินไปข้างหน้าของตลาดทุน หลังจาก ดร.ภากร ปีตธวัชชัย ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ คนปัจจุบันกำลังจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในช่วงกลางเดือนกันยายน 2567
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศเปิดรับสมัคร ‘ผู้จัดการ’ คนใหม่หรือคนที่ 14 ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม – 30 เมษายนที่ผ่านมา ปรากฏว่าไม่มีใครยื่นใบสมัครในรอบนี้แม้แต่รายเดียว ส่งผลให้ต้องขยายเวลาเปิดรับสมัครเพิ่มถึงวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลังการปิดรับสมัคร มีผู้ยื่นใบสมัครจำนวน 8 คน หนึ่งในนั้นมีชื่อของคนในเพียงหนึ่งเดียวคือ แมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ คนปัจจุบัน ที่รับตำแหน่งมาตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2561 จนถึงปัจจุบัน
ภาพ: แมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ
จากการสืบค้นข้อมูลเชิงลึกของ THE STANDARD WEALTH ผู้สมัครทั้ง 8 คนได้ถูกคัดกรองคุณสมบัติและสอบสัมภาษณ์เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ครบเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้รับข้อมูลยืนยันจากแหล่งข่าวระดับสูงในวงการโบรกเกอร์ว่าได้รายชื่อผู้ที่ผ่านการพิจารณา (Shortlisted) ชิงเก้าอี้ ‘ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ’ แล้ว 2 ราย คือ
- อัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ ปัจจุบันเป็นประธานสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย โดยในอดีตเคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) อยู่ในเครือของ บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล (XPG) ในช่วงที่ทำงานในเอ็กซ์สปริง ดิจิทัล เคยทำดีลโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนตัวแรกของประเทศไทยคือ SiriHub Investment Token เกิดจากการนำกระแสรายรับจากค่าเช่าของอาคารสำนักงานสิริ แคมปัส ในโครงการ T77 สุขุมวิท มาแปลงหน่วยเป็นโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) มูลค่าการระดมทุนรวม 2,400 ล้านบาท โดยปัจจุบัน XPG มี บมจ.แสนสิริ (SIRI) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ซึ่งเคยมี เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใน SIRI ก่อนที่จะโอนหุ้นที่ถืออยู่ให้กับ ชนัญดา ทวีสิน บุตรสาว หลังตัดสินใจลงเล่นการเมือง
(ภาพ: อัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ ประธานสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย)
- อัสสเดช คงสิริ ซึ่งมีประสบการณ์การทำงานในวงการตลาดทุน ทั้งในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด และปัจจุบันร่วมงานกับดีลอยท์ ประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าทีมที่ปรึกษาทางการเงิน
‘แมนพงศ์’ จ่อยื่นลาออก
ล่าสุด แมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยกับ THE STANDARD WEALTH ว่า ในวันนี้ (13 มิถุนายน) ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีผลในอีก 30 วันนับจากวันที่ยื่นใบลาออก
โดยแหล่งข่าวระดับสูงจากโบรกเกอร์เปิดเผยกับ THE STANDARD WEALTH ว่า คาดว่าในวันศุกร์ที่ 14 มิถุนายนนี้ คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการนัดประชุมวาระพิจารณาเคาะเลือกผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ คนใหม่ โดยมีผู้ผ่านคุณสมบัติคัดเลือกจำนวน 2 รายชื่อ ได้แก่
- อัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์
- อัสสเดช คงสิริ
ทั้งนี้ ประเมินว่ามีโอกาสสูงที่ อัสสเดช คงสิริ ถือเป็นตัวเต็งจะได้รับเลือกเป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ คนที่ 14
แหล่งข่าวยังให้ข้อมูลต่อว่า หลังจากทราบผลอย่างเป็นทางการ คาดว่า แมนพงศ์ เสนาณรงค์ จะตัดสินใจยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากอาจจะมีนโยบายการบริหารและการทำงานที่ไม่สอดคล้องกับผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ คนใหม่ที่กำลังจะมารับตำแหน่ง
หวั่นการเมืองล้วงลูกตลาดทุน ‘ลึกแบบเบ็ดเสร็จ’
ลองไปไล่เลียงความเห็นจากผู้บริหารระดับสูงภาคตลาดทุนกับประเด็นในการคัดเลือกบุคคลที่จะมานั่งเก้าอี้ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ
แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการโบรกเกอร์รายที่สองกล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า มีความกังวลว่าภาคการเมืองจะเข้าแทรกแซงภาคตลาดทุนคล้ายกับที่เกิดขึ้นกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยหาก อัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ เข้ามานั่งเก้าอี้ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมาพร้อมกับธงในการทำงานที่ต้องการเปลี่ยนแปลง ปรับ และรื้อโครงสร้างการทำงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ใหม่
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการโบรกเกอร์รายที่สามกล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า มีความเห็นว่าในรอบนี้ถือว่าการเมืองมาแทรกแซงภาคตลาดทุนมากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา อาจเรียกได้ว่า ‘ลึกแบบเบ็ดเสร็จ’ เห็นสัญญาณการแทรกแซงของภาคการเมืองที่ชัดเจนขึ้น เพราะสามารถจัดแจงคนมาอยู่ใน Position ที่ต้องการได้ ซึ่งมองว่าเป็นครั้งแรกที่การเมืองมา ‘ล้วงลูกลึก’ ซึ่งมองว่ามีความอันตรายมาก คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นกับองค์กรรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ของไทยบางแห่งที่เคยถูกแทรกแซงจนกระทั่งมีปัญหาเกิดขึ้นจนถึงปัจจุบัน และหากเกิดกรณีเลวร้ายอาจมีผลกระทบให้ตลาดทุนมีปัญหาตามมาได้ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ สัญญาณที่ชัดเจนเกิดขึ้นหลังจากบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมติเลือก พิชัย ชุณหวชิร มานั่งประธานบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ เพราะโดยปกติบุคคลที่จะมานั่งในตำแหน่งนี้มักจะต้องมีประสบการณ์การทำงานตำแหน่งระดับสูงใน ธปท. หรือปลัดของกระทรวงเศรษฐกิจที่สำคัญมาก่อน แต่ที่ผ่านมาพิชัยเป็นบุคคลที่ทำงานในภาคเอกชนเป็นหลัก
และในที่สุดพิชัยได้ลาออกเพื่อไปรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเก้าอี้บอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ ของพิชัยที่ว่างลงเป็นโควตาของสำนักงาน ก.ล.ต. ยังไม่มีการแต่งตั้งส่งตัวแทนมานั่งในตำแหน่งนี้ แต่จากนั้นได้แต่งตั้ง กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ เป็นประธานบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ
“มองว่าภาคการเมืองไม่น่าจะปล่อยให้ตลาดหุ้นเป็นไปตามปกติได้ แต่ที่ผ่านมาในเรื่องการเลือกผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ รอบนี้ทำกันค่อนข้างเงียบมาก มองว่าภาคการเมืองต้องการมีคนที่ไว้ใจมาทำงานในการกำหนดนโยบายทิศทางตลาดหุ้นตามที่ต้องการ”
สำหรับบทสรุปบุคคลที่จะมานั่งเก้าอี้ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ คงจะทราบผลกันในเร็วๆ นี้ แต่ที่สำคัญกว่าก็คือยังต้องติดตามว่าบุคคลที่จะมานั่งตำแหน่งนี้จะสามารถออกนโยบายมาขับเคลื่อนและพัฒนาตลาดทุนให้ก้าวไปข้างหน้าในโลกที่กำลังเผชิญความท้าทายในหลายประเด็น รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องให้กลับมาในตลาดทุนได้มากน้อยแค่ไหน