×

ตลาดหุ้นอินเดียยังน่าสนใจหรือไม่ หลังจากที่โมดีไม่ได้ชนะเลือกตั้งถล่มทลายอย่างที่คาด

05.06.2024
  • LOADING...
ตลาดหุ้นอินเดีย

ตลาดหุ้นอินเดีย ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง รวมถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีน นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอินเดียจะผลักดันให้ประเทศก้าวขึ้นสู่มหาอำนาจทางเศรษฐกิจในอนาคต อย่างไรก็ตาม ผลการเลือกตั้งที่ไม่เป็นไปตามคาดทำให้ตลาดหุ้นอินเดียเผชิญกับแรงเทขายอย่างหนักและร่วงลงรายวันหนักที่สุดในรอบ 4 ปี อนาคตตลาดหุ้นอินเดียจะยังสดใสหรือไม่ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เกิดขึ้นหลังจากพรรคภารติยะชนตะ (BJP) ของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ไม่ได้ชนะถล่มทลายอย่างที่คาดไว้

 

ดัชนีหุ้นอินเดีย Sensex และ NIFTY 50 ดิ่งหนักเลวร้ายที่สุดในรอบ 4 ปี

 

ดัชนี Sensex และ NIFTY 50 ของอินเดียปิดตลาดลดลงเกือบ 6% เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ซึ่งเป็นการร่วงลงรายวันที่เลวร้ายที่สุดของตลาดหุ้นอินเดียนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียง 24​​ ชั่วโมงหลังจากที่ดัชนีทั้งสองพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางความเชื่อมั่นเชิงบวกของนักลงทุนที่มีต่อตลาดหุ้นและอนาคตเศรษฐกิจอินเดีย

 

เอ็กซิตโพลส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าพรรค BJP จะคว้าที่นั่งได้มากถึง 303 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรที่มีสมาชิก 543 คน และน่าจะได้เสียงข้างมาก 2 ใน 3 อย่างไรก็ตาม อินเดียได้นับคะแนนเลือกตั้งเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน หลังจากประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลกจัดการเลือกตั้งมานานกว่า 6 สัปดาห์ และผลการเลือกตั้งแสดงให้เห็นว่าพรรค BJP มีที่นั่งนำอยู่ไม่ถึง 300 ที่นั่ง ในขณะที่พรรคฝ่ายค้านมีที่นั่งประมาณ 200 ที่นั่ง

 

นักวิเคราะห์จาก Bloomberg คาดการณ์ว่าสาเหตุที่ตลาดปรับตัวลงอย่างหนักมาจากการที่โมดีไม่ได้ชนะถล่มทลายเหมือนอย่างที่ผลเอ็กซิตโพลชี้ก่อนหน้านี้ และทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของนโยบายหลายอย่าง เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายที่ดินและแรงงาน รวมถึงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจของรัฐ

 

เหตุใดคะแนนเสียงข้างมากของโมดีถึงมีอิทธิพลต่อความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นและค่าเงินรูปี

 

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โมดีได้สร้างสถิติให้กับอินเดียหลายอย่าง และเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจอินเดียเติบโตอย่างแข็งแกร่ง กลายเป็นประเทศเศรษฐกิจหลักที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก และคาดว่าจะเติบโตอย่างน้อยที่ 6% ต่อปีในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องจะผลักดันให้อินเดียก้าวขึ้นสู่มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ และจะกลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับที่ 3 ของโลก ตามหลังเพียงสหรัฐอเมริกาและจีนภายในปี 2027

 

ตลาดหุ้นของอินเดียยังมีผลตอบแทนที่ดีในช่วงที่โมดีดำรงตำแหน่งนายกฯ โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา National Stock Exchange of India (NSE) หรือตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติของอินเดีย มีมูลค่าตลาดแซงหน้าตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นและตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง จนกลายเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก ตามข้อมูลจาก World Federation of Exchanges

 

จากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่ผ่านมา พรรค BJP ตั้งเป้าที่จะคว้าชัยชนะด้วยเสียงข้างมากถึง 400 ที่นั่งในสภา แต่ผลการเลือกตั้งแสดงให้เห็นว่าพรรคฝ่ายค้านมีผลงานดีกว่าที่นักวิเคราะห์หลายคนคาดไว้ นั่นหมายความว่าแม้โมดีจะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งระดับประเทศ แต่การที่พรรค BJP ต้องการพันธมิตรในการจัดตั้งรัฐบาล อาจนำไปสู่ความไม่ต่อเนื่องจากนโยบายและความไม่แน่นอนในการทำงานของรัฐบาลได้

 

ตลาดหุ้นอินเดียจะเป็นอย่างไรต่อไป ท่ามกลางความไม่แน่นอนหลังการเลือกตั้ง

 

Manish Jain หัวหน้าฝ่ายธุรกิจสถาบันของ Mirae Asset Capital Markets มองว่าอินเดียมีความคาดหวังเกี่ยวกับการเติบโตเชิงโครงสร้างในระยะยาว และการประเมินมูลค่าหุ้นที่สมเหตุสมผลมากขึ้นจะดึงดูดการลงทุนเข้าสู่ประเทศได้มากขึ้น

 

การประเมินมูลค่าหุ้นของอินเดียลดลงจากระดับสูงสุดในปี 2021 และหลายคนมองว่าหุ้นอินเดียมีราคาแพงเมื่อเทียบกับตลาดเกิดใหม่อื่นๆ อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากที่จะเปรียบเทียบการเพิ่มทุนโดยตรงในแต่ละประเทศ เนื่องจากช่วงของแนวโน้มการเติบโต ความชัดเจนของรายได้ และตัวแปรอื่นๆ มีความแตกต่างกันอย่างกว้างขวางในกลุ่มเศรษฐกิจ EM ท้ายที่สุดแล้วสิ่งสำคัญคือ ศักยภาพในการเติบโตที่สูงในอนาคตและการสร้างผลตอบแทนที่น่าประทับใจของประเทศที่ทำให้การลงทุนหุ้นสมเหตุสมผล

 

ตลาดหุ้นอินเดียปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง และไม่ได้เพียงแค่รับผลประโยชน์จากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนเท่านั้น แต่อินเดียเป็นหนึ่งในตลาดที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในโลกในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับการลงทุนระยะยาว

 

การชนะเลือกตั้งของโมดีและความต่อเนื่องในวาระการบริหารของเขามีความสำคัญอย่างมากสำหรับการปฏิรูปธุรกิจและการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ ที่สามารถช่วยปูทางสำหรับการเติบโตระยะกลางและระยะยาวของอินเดีย Alexander Wolf หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนในเอเชียของ JPMorgan Private Bank วิเคราะห์ว่าเขายังคงเชื่อมั่นในโอกาสการเติบโตเชิงโครงสร้างในตลาดหุ้นอินเดีย ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าแรงเทขายที่เกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งอินเดียเป็นเพียงการขายทำไรเท่านั้น

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising