×

ETDA ชูแนวคิด Digital Momentum for the Future หนุนผู้ประกอบการไทย มุ่งสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล

โดย THE STANDARD TEAM
29.05.2024
  • LOADING...
ETDA

วันนี้ (29 พฤษภาคม) สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดงานสุดยิ่งใหญ่ DGT 2024 (Digital Governance Thailand 2024) ชูแนวคิด ‘Digital Momentum for the Future’

 

ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า หนึ่งในวิสัยทัศน์ที่สำคัญของรัฐบาลคือ IGNITE THAILAND จุดพลังรวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง ยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ที่มุ่งมั่นให้ไทยเป็น ‘ศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล’ (Digital Economy Hub) ซึ่งตั้งเป้าในการดึงอุตสาหกรรมแห่งอนาคตให้มาขยายธุรกิจในประเทศไทย โดยเฉพาะเทคโนโลยี High Tech ต่างๆ ทั้งการลงทุนโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์, การตั้งศูนย์ Data Center รองรับ Cloud Computing, การวิจัยและนำ AI มาใช้งานในประเทศไทย รวมถึงการดึงบริษัท Deep Tech ให้เข้ามาอยู่ในประเทศไทย โดยถือว่าตอนนี้ไทยมีความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน หรือ ASEAN Digital Hub และมี Tech Company ยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศหลายรายหันมาให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนด้านดิจิทัลในประเทศไทย จากการที่รัฐบาลจะมี Matching Fund ให้กับบริษัทที่มีศักยภาพ

 

ที่ผ่านมากระทรวงฯ ได้ดำเนินงานที่มีความเชื่อมโยงกับนโยบายของรัฐบาล ทั้งการสร้างรากฐานด้านความพร้อมดิจิทัล ผ่านโครงการบริการระบบคลาวด์กลางภาครัฐและพัฒนาระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุขของประเทศ รวมทั้งผลักดันนโยบายการใช้บริการคลาวด์ภาครัฐ หรือ Cloud Frist Policy เพื่อให้เกิดบริการต่างๆ ที่เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น บริการสำหรับระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service), บริการสำหรับระบบงานขั้นสูง (GPU Cloud Computing), บริการสำหรับหน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ (CII), บริการสำหรับการจัดเก็บข้อมูลสำคัญของหน่วยงาน และร่วมมือกับผู้ให้บริการภาคเอกชนในการฝึกอบรมบุคลากรภาครัฐให้มีความเชี่ยวชาญ พร้อมขับเคลื่อนการบูรณาการข้อมูลภาครัฐและจัดทำข้อมูลแบบเปิด (Open Data) 

 

นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้ผู้ประกอบการนำเทคโนโลยี AI ไปต่อยอดผ่านนโยบาย ‘AI Agenda’ ทั้งพัฒนาโครงสร้าง AI, การเตรียมพร้อมสำหรับจริยธรรม, การกำกับดูแล และการคำนึงถึงมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง ผ่านการทำงานกับหน่วยงานทั้งในไทยและต่างประเทศ พร้อมกับการผลักดันการใช้ Digital ID เพื่อให้กระบวนการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลที่ผนวกกับการให้บริการของหน่วยงานภาครัฐ (e-Service)

 

นอกจากนี้สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ การดำเนินงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างเต็มที่ ผ่านศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ (1212 ETDA) ตลอด 24 ชั่วโมง, สายด่วน AOC 1441 ที่มี One Stop Service สามารถระงับและอายัดบัญชีได้ภายใน 1 ชั่วโมง รวมถึงการมีกฎหมายที่ช่วยในการกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Platform Services หรือ DPS) ที่ ETDA ได้เข้ามากำกับดูแล ซึ่งทำให้เกิดการดำเนินงานที่มีความชัดเจนภายใต้การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

 

“ดังนั้นการจัดงาน DGT 2024 ครั้งนี้ที่ผลักดันโดย ETDA ร่วมกับพาร์ตเนอร์ทั้งรัฐและเอกชน ถือว่าเป็นการร่วมจุดประกายในการขยายความร่วมมือ เพื่อให้เกิดการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่จะช่วยสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศที่ดียิ่งขึ้น และยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย ตลอดจนยังส่งผลต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัลได้อย่างยั่งยืนต่อไป”

 

ด้าน เวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า เราเป็นประเทศที่อยู่ระดับแนวหน้าในโลกดิจิทัล ทั้งการใช้ Mobile Banking และการใช้ QR Payment ที่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 1-2 ปีนี้ เมื่อมองในภาพรวมแล้วยังมีการคาดการณ์ว่า ในปี 2568 เศรษฐกิจดิจิทัลไทยจะมีมูลค่าสินค้ารวมเพิ่มขึ้นเป็น 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี โดยมี e-Commerce หรือพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นอันดับต้นๆ ที่มีการใช้บริการสูงสุด (รายงานจาก Google, Temasek และ Bain & Company) 

 

ด้วยปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ส่งผลให้ไทยมีเป้าหมายในปี 2570 โดยมุ่งกระตุ้นการลงทุนและขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพื่อให้ไทยมีมูลค่าเพิ่มของเศรษฐกิจดิจิทัลและคาดว่าจะขยายตัวสูงถึง 30% ของ GDP ประเทศไทย จากการเติบโตในมิติต่างๆ สิ่งที่มาควบคู่กันคงหนีไม่พ้นการเผชิญกับภัยคุกคามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การดำเนินงานของ AOC 1441 ได้มีการอายัดบัญชีไปแล้วกว่า 160,000 บัญชี ตกวันละเกือบพันบัญชี มียอดอายัดบัญชีไปแล้วกว่า 4,700 ล้านบาท ที่ปัญหาส่วนใหญ่มาจากการหลอกลวงซื้อ-ขายสินค้าหรือบริการทางออนไลน์ การหลอกลวงหารายได้พิเศษ และการหลอกลงทุน 

 

ดังนั้นกระทรวงฯ จึงมุ่งส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศเกิดการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมั่นคงและปลอดภัย สร้างเกราะป้องกันคนไทยจากอาชญากรรมและภัยออนไลน์ทุกรูปแบบ ภายใต้การทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

 

นอกจากนี้ยังเตรียมขยายผลเพิ่มความเข้มข้นการตรวจสอบก่อนเปิดบัญชีใหม่ โดยเพิ่มกระบวนการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง Customer Due Diligence หรือ CDD โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่ธนาคารต้องตรวจสอบให้เข้มงวดก่อนเปิดบัญชี พร้อมมีแอปพลิเคชันแจ้งเตือนหมายเลขเสี่ยงให้คนไทย รวมถึงยกระดับการดูแลบริการของแพลตฟอร์มดิจิทัลภายใต้กฎหมาย DPS (Digital Platform Services) เพื่อให้การซื้อ-ขายของออนไลน์และการใช้บริการมั่นใจขึ้น 

 

“เพราะเราเชื่อว่าการพัฒนาดิจิทัลในทุกมิติ ไม่เพียงแต่ทำให้ชีวิตของประชาชนดียิ่งขึ้น แต่ยังเป็น Momentum สำคัญที่จะขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้พร้อมรองรับสู่โลกดิจิทัล ดังนั้นงาน DGT 2024 จะเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำหรับต่อยอดและขยายเครือข่ายการดำเนินงาน รวมทั้งการพัฒนาทักษะดิจิทัลของประชาชนในทุกกลุ่ม”

 

ด้าน ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA กล่าวว่า ETDA จากบทบาททั้งในด้านการกำกับดูแลธุรกิจบริการดิจิทัล ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนเกิดความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมทางออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยและรู้เท่าทัน ซึ่งการปักหมุดการทำงานเพื่อสนับสนุนเป้าหมายของกระทรวงฯ ทั้งในด้านการส่งเสริมการใช้ Digital ID ให้มากขึ้น โดยเฉพาะ e-Service ของบริการภาครัฐที่สำคัญ พร้อมต่อยอดการใช้งาน Digital ID เพื่อการพิสูจน์และยืนยันตัวตนในกลุ่ม ‘คนต่างด้าว-นิติบุคคล’ การเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นในการใช้งานแพลตฟอร์มดิจิทัล ให้ผู้บริโภคได้รับความคุ้มครองมากขึ้น ภายใต้กลไกของกฎหมาย DPS (Digital Platform Services) รวมถึงการส่งเสริมให้องค์กรและหน่วยงาน เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI อย่างมีธรรมาภิบาลผ่านศูนย์ AIGC (AI Governance Center by ETDA) และผลักดันให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ SMEs มีการนำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้เพื่อช่วยอำนวยความสะดวก เตรียมพร้อมสำหรับการค้าข้ามพรมแดนที่ปัจจุบัน SMEs คิดเป็น 95% ของจำนวนธุรกิจทั้งหมด สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจถึง 6.1 ล้านล้านบาท 

 

ถือเป็นกลุ่มที่สำคัญต่อมูลค่า Digital GDP ของประเทศสัดส่วนมากถึง 35% ดังนั้นถ้าถามว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่าอะไรคือตัวแปร หรือ Momentum ที่เราคนไทยต้องโฟกัสให้ชัดขึ้น นี่ถือเป็นโจทย์ที่ ETDA ภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเดินหน้าเร่งเครื่องทำงานมาอย่างต่อเนื่อง 

 

สำหรับงาน DGT 2024 หรือ Digital Governance Thailand 2024 ที่ปีนี้จัดภายใต้แนวคิด ‘Digital Momentum for the Future’ ในช่วง 2 วันนี้ (29-30 พฤษภาคม) ETDA จัดขึ้นเพื่อเป็นแลนด์มาร์กของการสร้างโอกาสและปรากฏการณ์ทางดิจิทัล ที่รวมพลหน่วยงานและพาร์ตเนอร์สำคัญทั้งรัฐและเอกชน ตลอดจน Tech Company, Service Provider ชั้นนำของไทยและต่างประเทศ กว่า120 องค์กร ที่อยากให้คนไทยที่สนใจ หน่วยงานต่างๆ SMEs ที่กำลังหาโซลูชันใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ 

 

ตลอดจนคนทำงานทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและนิสิต-นักศึกษาจะได้มาร่วมเปิดมุมมองความรู้จากผู้เชี่ยวชาญชื่อดัง พร้อมทั้ง Showcase มากกว่า 50 หน่วยงาน รวมถึงการเปิดพื้นที่สำหรับกิจกรรม Business Matching จากบริษัทชั้นนำมากกว่า 80 บริษัท ที่มาพร้อมดีล โปรโมชันพิเศษ และอีกหลากหลายกิจกรรมที่น่าสนใจ เพื่อคน SMEs และคนดิจิทัลทุกคน

 

“ETDA มีความตั้งใจกับการร่วมสร้างโอกาส เพื่อให้เกิดแรงขับเคลื่อนในมุมทิศทางการดำเนินงานภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วผ่านงาน DGT 2024: Digital Momentum for the Future ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 พฤษภาคมนี้ เพื่อให้เกิดอีกหนึ่ง Momentum ที่สะท้อนความร่วมมือจากพาร์ตเนอร์ทั้งรัฐและเอกชน ที่พร้อมจะปรับและเปลี่ยนสู่อนาคตอย่างรู้เท่าทัน ซึ่งจะส่งผลต่อแรงกระเพื่อมของการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ในระยะยาว”

 

สำหรับ SMEs นิสิต-นักศึกษา และประชาชน ที่สนใจ สามารถร่วมงานได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.00-18.30 น. ที่พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ลงทะเบียนร่วมงานได้ที่ https://dgt2024.com/

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising