ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม FIFA Congress ครั้งที่ 74 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในฐานะประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียน และชาติที่ 5 ของทวีปเอเชีย ที่ได้รับเลือกจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ในการได้รับเกียรติถูกรับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดอีเวนต์นอกสนามที่ยิ่งใหญ่สุดของ FIFA
ตลอดอีเวนต์การจัดงาน ด้วยความทุ่มเทแรงกาย แรงใจ และการสนับสนุนจากรัฐบาล หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน สร้างความประทับใจแบบไม่รู้ลืมให้กับแขกผู้มาเยือน ทั้งในส่วนของ 211 สมาคมสมาชิกภายใต้ FIFA, เหล่านักเตะระดับตำนาน และแขกอื่นๆ รวมกว่า 3,000 คน สร้างชื่อเสียงที่ดีให้กับประเทศไทย และได้รับคำชื่นชมอย่างมากมายจากประธาน FIFA, ประธาน AFC และผู้นำองค์กรลูกหนังที่ต่างประทับใจในการดูแลต้อนรับ นับตั้งแต่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย จนกระทั่งวันสุดท้ายที่เดินทางกลับบ้าน
นอกจากนี้ประเทศไทยได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการจัดประชุมระดับโลก และประสบความสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ฝากความประทับใจมากมายผ่านการแสดงศิลปวัฒนธรรมต่างๆ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยว, อาหารไทย ในงานเลี้ยงต้อนรับที่จัดขึ้นโดยรัฐบาลไทย ณ ทำเนียบรัฐบาล และทุกๆ รอยยิ้มจากประชาชนคนไทยในทุกๆ กิจกรรม
FIFA Congress หรือการประชุมสุดยอดผู้นำองค์กรฟุตบอลจากทั่วโลก นำโดย จานนี อินฟานติโน ประธาน FIFA พร้อมด้วยผู้นำองค์กรจาก 6 ทวีป ทั้ง AFC, UEFA, CONMEBOL, CAF, CONCACAF และ OFC พร้อมกับผู้นำจาก 211 ชาติสมาชิก รวมถึงบรรดาเหล่าตำนานนักฟุตบอลระดับโลก จะมารวมตัวกันเพื่อประชุมร่วมกันในการยกระดับกีฬาฟุตบอล และหารือในวาระสำคัญต่างๆ ของโลกลูกหนัง โดยในการประชุมครั้งนี้ได้มีการเปิดโหวตเลือกเจ้าภาพฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2027 ก่อนที่ประเทศบราซิลจะชนะโหวตกลุ่มประเทศยุโรป (BNG) เบลเยียม, เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี 119 คะแนน ต่อ 78 คะแนน ทำให้บราซิลได้ชื่อว่าเป็นประเทศแรกในทวีปอเมริกาใต้ที่เตรียมเป็นเจ้าภาพฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก
นอกจากการประชุม FIFA Congress แล้ว ประเทศไทยยังได้รับสิ่งดีๆ มากมาย ทั้งการจัดกิจกรรม FIFA for School ที่จัดขึ้นควบคู่กัน เพื่อช่วยพัฒนาเหล่าผู้ฝึกสอนและครูโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ได้นำศาสตร์ลูกหนังไปส่งต่อให้บรรดาเด็กและเยาวชนจากรุ่นสู่รุ่น รวมถึงกิจกรรม Football Legacy ที่ FIFA ได้นำเหล่าบรรดาตำนานนักเตะชื่อดังระดับโลก อาทิ หลุยส์ ฟิโก, มาร์กอส คาฟู, ซามี เคดิรา, เวสลีย์ สไนจ์เดอร์, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ และ ยูริ จอร์เกฟฟ์ มาร่วมเล่นฟุตบอลกับน้องๆ เยาวชน ซึ่งถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมผ่านทางกีฬาฟุตบอล ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนักกีฬาฟุตบอลในอนาคต
เชื่อได้เลยว่าฟุตบอลปัจจุบันไม่ใช่แค่กีฬาฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุด เพราะอย่างที่ทราบ การประชุมในครั้งนี้ได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมากมายจากแขกผู้มาเยือนที่เดินทางเข้ามากว่า 3,000 คน ดังนั้นเมื่อเขาเหล่านั้นได้รับความประทับใจ จึงมีโอกาสที่จะเดินทางกลับมาเที่ยวประเทศไทยอีกครั้งในภาคของการท่องเที่ยวและการประสานงานในด้านต่างประเทศ และมีโอกาสที่ประเทศไทยจะได้จัดทัวร์นาเมนต์สำคัญๆ อีกมากมาย รวมถึงการกระชับความสัมพันธ์เพื่อการพัฒนาประเทศร่วมกันในอนาคต
การจัดงานประชุมสุดยอดผู้นำองค์กรฟุตบอลระดับโลก FIFA Congress ครั้งนี้ นับเป็นการก้าวไปอีกขั้นของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่กำลังก้าวสู่ปีที่ 109 ภายใต้การบริหารของ มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ ในการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพนอกสนาม ที่ได้ส่งความสำเร็จไปสู่สายตาชาวโลกเป็นที่ประจักษ์
ในนามของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มาร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อประเทศไทย ขอบคุณรัฐบาลที่นำโดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี, การกีฬาแห่งประเทศไทย, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ทุกหน่วยงานของภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนพี่น้องชาวไทย ที่มาร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดีร่วมกันจน ‘เราประสบความสำเร็จร่วมกัน’ รวมถึงขอขอบคุณสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ที่เชื่อมั่นประเทศไทย ในการเป็นเจ้าภาพ FIFA Congress ครั้งที่ 74 และสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFC) ที่ให้การสนับสนุนสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ อย่างเต็มที่
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะภาคภูมิใจไปกับเรา และกลายเป็นภาพความทรงจำที่ดีร่วมกัน
