วันนี้ (20 พฤษภาคม) เวลา 10.40 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงโรม ซึ่งช้ากว่ากรุงเทพฯ 5 ชั่วโมง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงภารกิจวันแรก ณ กรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี
โดยพบหารือกับบริษัท Leonardo ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีอวกาศที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี และเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก ผลิตเฮลิคอปเตอร์, ส่วนประกอบของเครื่องบิน, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับเครื่องบิน และผลิตภัณฑ์ด้านการจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์
เศรษฐากล่าวอีกว่า ได้พูดคุยกันถึงเรื่องเรดาร์ เทคโนโลยีการบินและอวกาศ นอกจากนี้บริษัทยังมีหุ้นกับบริษัท Airbus ที่ทำเครื่องบิน ATR เพื่อเชิญชวนให้พิจารณาใช้ประเทศไทยเป็นสำนักงานภูมิภาค (Regional Office) ฝึกอบรมนักบิน และตั้งศูนย์ซ่อมบำรุงในไทย ซึ่งบริษัทมีความสนใจอย่างมากที่จะย้ายสำนักงานภูมิภาคมาที่ประเทศไทย
ส่วนเรื่องศูนย์ซ่อมบำรุง เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลในการอัปเกรดเรื่องอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ ทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง สนามบินล้านนา และสนามบินอันดามัน รวมถึงสนามบินรอง ซึ่งบางแห่งมีขนาดเล็ก ถ้าจะสร้างใหม่ก็ต้องเป็นสนามบินขนาดเล็ก เครื่องบิน ATR ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า Airbus 320 ที่ใช้อยู่ หรือ Boeing 737 ก็ถือว่ามีศักยภาพสูง
นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงการอัปเกรดกองทัพไทย ทั้งแผน 5 ปี และ 10 ปีที่เคยคุยไว้ที่สาธารณรัฐฝรั่งเศสให้บริษัททราบด้วย และขอให้พูดคุยกับทูตทหาร ซึ่งตนได้ฝากให้กระทรวงการต่างประเทศติดต่อกับผู้บัญชาการทหารสูงสุดว่าบริษัทนี้มีศักยภาพสูงที่จะทำเรื่องเทคโนโลยีด้านกลาโหม จึงอยากให้มาพูดคุยกันและสานต่อ
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงผลการพูดคุยกับ GENERALI บริษัทประกันภัยชั้นนำระดับโลก ซึ่งมีทั้งประกันชีวิตและประกันสุขภาพว่า ปัจจุบันบริษัทถือหุ้นอยู่ 49% แม้จะมองว่ามีความลำบากในการเสนอคณะกรรมการว่าให้ลงทุนจำนวนมากในประเทศไทย แต่ตนมั่นใจว่าตลาดไทยจะเติบโตไปอีกมาก การเจาะตลาดของบริษัทประกันยังต่ำอยู่เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขทั่วโลก ตรงนี้จึงเป็นช่องทางในการทำธุรกิจ และแม้จะถือหุ้นเพียง 49% ก็จะมีผลตอบแทนทางการเงินสูง โดยหวังว่าเขาจะตัดสินใจมาลงทุน
ส่วนการหารือกับบริษัท Ducati Motor นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นบริษัทที่ผลิตรถจักรยานยนต์ระดับพรีเมียม ถือเป็นที่น่ายินดี เพราะในการลงทุนด้านการผลิต นอกเหนือจากที่อิตาลีแล้วก็มีประเทศไทยเพียงที่เดียว และยังมี Training Center ในการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างประชาชนกับประชาชน ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
นอกจากนี้เขายังให้ความสนใจจะมาลงทุนด้าน MotoE หรือ E Bike ซึ่ง MotoGP ที่บุรีรัมย์ Ducati ก็มีส่วนร่วม ทั้งนี้ ถือเป็นเรื่องบังเอิญที่บริษัท Formula E ที่รัฐบาลติดต่อจะมาเชียงใหม่ในปีหน้ากับ MotoE เป็นเจ้าของเดียวกัน จึงพูดคุยกันว่าเป็นไปได้หรือไม่ถ้าเราจัด Formula E ที่เชียงใหม่ 1 สัปดาห์ และสุดสัปดาห์ต่อมาเราจะจัด MotoE ซึ่งไม่เพียงภาคอุตสาหกรรม แต่ภาคการท่องเที่ยวก็จะได้ด้วยเหมือนกัน ดังนั้นที่มาคุยกันในวันนี้เป็นเรื่องการแลกเปลี่ยนทางธุรกิจทั้งหมด เพราะสังคมยุโรปค่อนข้างใกล้ชิดกัน จะเห็นได้ว่าฝรั่งเศสกับอิตาลีมีความเชื่อมโยงกัน
ส่วนการหารือกับบริษัท Barilla ผู้ผลิตพาสต้ารายใหญ่ที่สุดในโลก นายกรัฐมนตรีระบุว่า ยินดีที่บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาโอกาสความร่วมมือกับบริษัทไทยในการผลิต Ready to eat meal และการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายพาสต้าในประเทศไทยเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับภาคเอกชนไทยในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีการผลิตอาหารพร้อมปรุงคุณภาพสูง และปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคชาวไทย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังหารือกับบริษัท Eni บริษัทปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลี และเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านเทคโนโลยีพลังงานที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจน้ำมันและก๊าซ การผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียน การกลั่น กิจกรรมทางเคมี และกระบวนการทางเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งบริษัทมีกิจการใน 61 ประเทศ โดยหารือถึงความเป็นไปได้ในการขยายการค้าในประเทศไทยร่วมกัน สำหรับการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ ซึ่งกิจการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ซึ่งรวมถึงโอกาสความร่วมมือด้านพลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือก