การทำงานในองค์กรที่มีผู้บริหารหรือหัวหน้างานเป็นคน Toxic นั้นถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ในชีวิตการทำงานของใครหลายๆ คน ผู้บริหารที่มีพฤติกรรม Toxic มักจะสร้างบรรยากาศการทำงานที่เต็มไปด้วยความเครียด ความกดดัน และความไม่สบายใจให้กับพนักงาน ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตใจและประสิทธิภาพในการทำงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จากการสำรวจของ Workplace Bullying Institute ในปี 2021 พบข้อมูลน่าตกใจว่า 30% ของแรงงานในสหรัฐอเมริกาเคยตกเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้งในที่ทำงาน และ 43% ของพวกเขาต้องลาออกจากงานเพื่อหนีให้พ้นจากสถานการณ์อันแสนเลวร้ายนั้น
สอดคล้องกับผลการศึกษาของ Harvard Business School ที่ชี้ให้เห็นว่า พนักงานที่ทำงานภายใต้การบังคับบัญชาของผู้บริหารที่มีลักษณะ Toxic นั้น มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับความเครียดและความวิตกกังวลสูงถึง 60% เมื่อเทียบกับพนักงานทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์แบบนั้น
การทำงานในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยพิษภัยเช่นนี้สามารถสร้างผลกระทบเชิงลบต่อชีวิตของพนักงานได้อย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นความเครียดที่พุ่งสูงขึ้น ความเชื่อมั่นในตัวเองที่ลดลง ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างที่แย่ลง ไปจนถึงปัญหาสุขภาพร้ายแรงทั้งทางกายและใจในระยะยาว
จากการศึกษาของ BMJ Open พบว่า การทำงานภายใต้การจัดการที่ไม่ดีเป็นระยะเวลานานส่งผลให้พนักงานมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้นถึง 50% ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการมีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีต่อสุขภาวะของพนักงานอย่างชัดเจน
แล้วพนักงานอย่างเราๆ จะสามารถอยู่รอดและทำงานได้อย่างมีความสุขภายใต้การบริหารงานของผู้บริหาร Toxic ได้อย่างไร? ต่อไปนี้เป็นแนวทางและคำแนะนำที่อาจช่วยให้คุณผ่านพ้นช่วงเวลาอันแสนยากลำบากนี้ไปได้
1. สร้างเครือข่ายสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งในที่ทำงาน
การมีผองเพื่อนร่วมงานที่ดีและมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถเผชิญหน้ากับความยากลำบากต่างๆ ในที่ทำงานได้อย่างเข้มแข็ง เพื่อนร่วมงานที่ไว้ใจได้จะคอยรับฟัง ให้คำปรึกษา และเป็นกำลังใจให้เราเมื่อต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก รวมถึงยังสามารถให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือได้ในยามจำเป็นอีกด้วย
การมีพันธมิตรที่ดีในที่ทำงานจะทำให้เรารู้สึกว่าไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวในสถานการณ์อันเลวร้าย และยังช่วยสร้างพลังใจที่เข้มแข็งสำหรับการฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ไปพร้อมๆ กัน ดังนั้น จงหมั่นสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ร่วมงานอยู่เสมอ เพราะนั่นจะเป็นเกราะคุ้มกันชั้นดีให้กับชีวิตการทำงานของคุณ
2. ฝึกควบคุมอารมณ์และตอบสนองอย่างสุขุม
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้บริหารที่ Toxic ในที่ทำงาน สิ่งสำคัญคือต้องรู้จักควบคุมสติและอารมณ์ของตัวเองให้ได้ ไม่ควรใช้อารมณ์ตอบโต้หรือทำอะไรที่รุนแรงออกไป เพราะนั่นจะทำให้สถานการณ์ดูแย่ลงไปอีก ให้พยายามสงบสติอารมณ์และตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆ อย่างใจเย็นและมีเหตุผล
เมื่อถูกผู้บริหารดุด่าหรือว่ากล่าว ให้พยายามทำความเข้าใจอย่างแท้จริงว่าเขากำลังสื่อสารอะไรกับเรา แทนที่จะรีบสรุปหรือตีความเอาเองว่ากำลังถูกกลั่นแกล้ง จากนั้นให้ใช้คำพูดที่สุภาพและนุ่มนวลในการตอบกลับ พยายามแสดงความเข้าใจในมุมมองของอีกฝ่าย แต่ก็แสดงจุดยืนของตัวเองอย่างชัดเจนและมั่นคงไปพร้อมๆ กัน
การควบคุมสติอารมณ์ให้ได้ในสถานการณ์วิกฤตจะช่วยไม่ให้เราตกเป็นเป้าหมายของการถูกกลั่นแกล้งได้ง่ายๆ และยังสามารถป้องกันไม่ให้เราทำอะไรที่ผิดพลาดออกไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบอีกด้วย
3. บันทึกพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างละเอียด
การจดบันทึกรายละเอียดของเหตุการณ์หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้บริหารอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณมีหลักฐานที่เป็นรูปธรรมยืนยันถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมได้ในภายหลัง ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งหากต้องมีการร้องเรียนหรือดำเนินการกับผู้บริหารที่มีปัญหา
ควรจดบันทึกรายละเอียดให้ได้มากที่สุด ทั้งวันเวลา สถานที่ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ คำพูดที่ถูกใช้ รวมถึงบริบทแวดล้อมต่างๆ และถ้าเป็นไปได้ให้ขอพยานจากเพื่อนร่วมงานที่เห็นเหตุการณ์ร่วมด้วย การจัดเก็บหลักฐานต่างๆ เหล่านี้ไว้จะเป็นเสมือนทุนสำรองที่มีคุณค่าในยามที่เราต้องปกป้องตัวเองหรือต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในอนาคต
4. พัฒนาทักษะและสร้างคุณค่าให้ตัวเองอยู่เสมอ
วิธีที่ดีอีกอย่างในการรับมือกับผู้บริหาร Toxic คือการทำให้ตัวเราเองกลายเป็นบุคลากรที่มีคุณค่าและจำเป็นต่อองค์กร ยิ่งเรามีความรู้ความสามารถมากและสร้างผลงานที่ดีได้มากเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้ผู้บริหารไม่สามารถกลั่นแกล้งหรือทำอะไรเราได้ง่ายๆ
การมองหาโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะผ่านการฝึกอบรม เวิร์กช็อป หรือการเรียนรู้ด้วยตัวเองจากแหล่งความรู้ต่างๆ จะช่วยเพิ่มพูนทักษะความสามารถของเราให้แข็งแกร่งและทันสมัยอยู่เสมอ และนั่นจะทำให้เราเป็นบุคลากรที่มีคุณค่าต่อทีมและองค์กรมากขึ้นไปด้วย นอกจากนี้ การพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องยังจะช่วยเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการทำงานให้กับเรา ทั้งภายในและภายนอกองค์กรอีกด้วย
5. ใส่ใจสุขภาพกายใจ จัดการความเครียดอย่างมีประสิทธิภาพ
ความเครียดและความกดดันที่เกิดจากการทำงานภายใต้ผู้บริหาร Toxic สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเราได้อย่างรุนแรงในระยะยาว ดังนั้น เราจึงต้องให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาวะของตัวเองให้แข็งแรงและสมดุลอยู่เสมอ
การออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและจัดการกับความเครียดได้ดีขึ้น ขณะเดียวกัน การทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด เช่น เดินเล่นในสวน ฟังเพลงเพราะๆ เข้าคลาสโยคะ หรือทำสมาธิ ก็จะช่วยปรับสมดุลให้กับสภาพจิตใจได้เป็นอย่างดี
การแบ่งเวลาให้กับกิจกรรมที่เราชื่นชอบและการใช้เวลากับคนที่เรารัก ก็เป็นอีกสิ่งสำคัญที่จะช่วยเติมเต็มพลังใจและช่วยลดความเครียดจากการทำงานได้มากทีเดียว อย่าลืมสร้างสมดุลให้กับชีวิต และใส่ใจคุณภาพชีวิตนอกเวลางานด้วย เพราะนั่นจะเป็นแรงเสริมที่ดีให้เรามีกำลังใจและพลังในการฟันฝ่าอุปสรรคในที่ทำงานต่อไป
6. พิจารณาทางเลือกอื่นๆ เมื่อจำเป็น
มีคำกล่าวว่า ‘เมื่อหนึ่งประตูปิดลง อีกหลายประตูจะเปิดออก’ และสิ่งนี้ก็เป็นจริงเสมอในชีวิตการทำงาน หากเราพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่สถานการณ์กับผู้บริหาร Toxic ก็ไม่ดีขึ้น หรือส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพกายและใจของเรา บางครั้งอาจถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องพิจารณาทางเลือกอื่นๆ ที่มีอยู่
การขอย้ายไปอยู่ทีมหรือแผนกอื่นภายในองค์กรเดียวกันที่มีผู้บริหารที่ดีกว่า อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับบางคน หรือบางคนอาจต้องเริ่มมองหาโอกาสใหม่ๆ กับบริษัทอื่นที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่ดีและเหมาะสมกับตัวเองมากกว่า การตัดสินใจครั้งใหญ่เช่นนี้อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่บางครั้งก็เป็นทางออกที่จำเป็นเพื่อปกป้องสุขภาพกายใจและความสุขในระยะยาวของเรา
ท้ายที่สุดจงจำไว้ว่า ไม่มีงานไหนที่สำคัญไปกว่าสุขภาพและความสุขของเรา ดังนั้น อย่ายอมแลกทุกอย่างเพื่องานจนลืมใส่ใจชีวิตของตัวเอง ให้เรียนรู้ที่จะปกป้องตัวเองและรู้จักเอาตัวรอด
แต่ขณะเดียวกันก็อย่าลืมมองหาโอกาสที่จะเติบโตก้าวหน้าและมีความสุขกับสิ่งที่ทำด้วย เพราะทุกคนล้วนสมควรได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ดี ภายใต้การนำของผู้บริหารที่เป็นแบบอย่างที่ดีและเกื้อหนุนการทำงานของทุกคนในองค์กร
อ้างอิง: