วันนี้ (12 พฤษภาคม) ที่จังหวัดราชบุรี เกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนออกมาร้องสื่อมวลชน เหตุถูกปิดกั้นในการยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และถูกตีความว่าเป็นภัยคุกคามกับการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีที่จังหวัดราชบุรี
โดยเกียรติศักดิ์ระบุว่า ไม่ได้เป็นภัยคุกคามอย่างที่เข้าใจ ซึ่งจากเอกสารที่มีการเผยแพร่ไม่ใช่หนังสือราชการ เป็นเพียงข้อความที่เขียนขึ้นมาไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะการเดินทางลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี ถือเป็นบุคคลสำคัญ จะต้องมีมาตรการดูแลความปลอดภัย ดังนั้นผู้ที่มายื่นหนังสือร้องเรียนถือว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายที่หน่วยงานราชการต้องเข้าไปทำความเข้าใจ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีประวัติเข้ามายื่นหนังสือร้องเรียนแล้ว
ทั้งนี้ การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีในวันนี้มีการตั้งศูนย์ดำรงธรรมส่วนหน้าเพื่อรับเรื่อง ดังนั้นการที่ระบุว่าเป็นภัยคุกคามจึงไม่ใช่เรื่อง และมองว่าใช้คำรุนแรงไปสักนิด
เมื่อถามว่า การใช้คำว่าเฝ้าระวัง หมายถึงระวังว่าจะมีการบุกมายื่นหนังสือโดยตรงถึงนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรียอมรับว่า เป็นส่วนหนึ่ง เพราะอยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามระบบ และบางเรื่องเองนายกรัฐมนตรีอาจไม่ทราบในรายละเอียด ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยชี้แจง
ส่วนประชาชนรายดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนหรือไม่ เนื่องจากถูกระบุว่าเป็นภัยคุกคาม ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีกล่าวว่า ปกติแล้วจะเป็นการหารือกันภายใน ไม่มีการเปิดเผย พร้อมยอมรับว่า อาจเป็นความไม่สบายใจของบางกลุ่มบางท่าน พร้อมยืนยันอีกครั้งว่า หนังสือดังกล่าวไม่ได้ออกมาจากทางจังหวัด แต่เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงที่มีการประชุมและชี้แจงกัน ยืนยันว่าเราให้เกียรติประชาชนทุกคน
“คงจะต้องใช้คำว่าเป็นกลุ่มบุคคลหรือบุคคลที่อาจจะมายื่นหนังสือให้ท่านนายกฯ เราจะต้องมีการข่าวเพื่อที่จะได้ทราบตัว เพื่อไปชี้แจงทำความเข้าใจ” เกียรติศักดิ์กล่าว