เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 บมจ.จีเอฟพีที (GFPT) รายงานกำไรสุทธิ 1Q67 ที่ 466 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56%YoY และ 14%QoQ สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนและส่วนแบ่งกำไรที่ดีขึ้นจาก GFN กำไรปกติ 1Q67 อยู่ที่ 441 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86%YoY และ 9%QoQ
โดยการเติบโต YoY เกิดจากอัตรากำไรขั้นต้นและส่วนแบ่งกำไรที่ดีขึ้น ยอดขายอยู่ในระดับทรงตัว YoY เนื่องจากปริมาณขายที่ดีขึ้นในธุรกิจอาหารช่วยชดเชยราคาผลิตภัณฑ์ลดลง
ในด้านปริมาณขายอาหารส่งออกโดยตรงเติบโต 20%YoY สู่ 8,300 ตัน (หลักๆ เกิดจากการส่งออกไปยังยุโรป) โดยมีปริมาณขายอาหารส่งออกทางอ้อมให้กับ McKey (เพิ่มขึ้น 21%YoY) เพิ่มขึ้น ในด้านราคาผลิตภัณฑ์โดยเฉลี่ยลดลง YoY เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์พลอยได้โครงไก่ในประเทศลดลงสู่ 16.5 บาทต่อกิโลกรัม (ลดลง 15%YoY แต่เพิ่มขึ้น 14%QoQ)
ราคาขายส่งออกไก่เนื้อที่ลดลง (ราคาขายส่งออกไปยังยุโรปที่ดีขึ้นถูกหักล้างโดยราคาขายส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีนที่ลดลง) และราคาผลิตภัณฑ์ในธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่ขายให้กับ GFN ที่ลดลง (ตั้งราคาขายผลิตภัณฑ์โดยใช้ต้นทุนอาหารสัตว์บวกมาร์จิ้น โดยต้นทุนอาหารสัตว์ปรับตัวลดลงในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา)
อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นสู่ 12.6% (เพิ่มขึ้น 230 bps YoY) จากปริมาณขายส่งออกที่มีมาร์จิ้นสูงที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นและต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดสู่ 232 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 114%YoY และ 17%QoQ) จากส่วนแบ่งกำไรที่ดีขึ้นจาก GFN ที่ 91 ล้านบาท (เทียบกับลดลง 11 ล้านบาทใน 1Q66 เพิ่มขึ้น 40%QoQ) จากการส่งออกมากขึ้นและต้นทุนไก่มีชีวิตที่ลดลง สอดคล้องกับต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง และ McKey ที่ 141 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 18%YoY และ 6%QoQ) จากการส่งออกเพิ่มขึ้น
กระทบอย่างไร:
หลังจากรายงานผลประกอบการ ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2567 ราคาหุ้น GFPT ปรับขึ้น 2.38% สู่ระดับ 12.90 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 0.11% สู่ระดับ 1,367.82 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2567:
ใน 2Q67TD ด้วยการส่งออกไก่เนื้อที่แข็งแกร่งขึ้นและราคาสุกร (ผลิตภัณฑ์ทดแทน) ในประเทศที่สูงขึ้น ราคาไก่มีชีวิตและผลพลอยได้โครงไก่ในประเทศจึงปรับขึ้น QoQ สู่ 44 บาทต่อกิโลกรัม (เพิ่มขึ้น 3%QoQ และ 8%YoY) และ 16.5 บาทต่อกิโลกรัม (ทรงตัว QoQ แต่เพิ่มขึ้น 14%YoY) ในขณะที่ต้นทุนข้าวโพดในประเทศและกากถั่วเหลืองนำเข้าลดลง QoQ สู่ 10 บาทต่อกิโลกรัม (ลดลง 1%QoQ และ 20%YoY) และ 21 บาทต่อกิโลกรัม (ลดลง 7%QoQ และ 11%YoY)
ปัจจัยเหล่านี้ประกอบกับปริมาณส่งออกไก่เนื้อที่แข็งแกร่งที่ GFPT และบริษัทร่วม (GFN และ McKey) โดยได้รับการสนับสนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากยุโรป และเงินบาทที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ จะช่วยสนับสนุนให้กำไร 2Q67 เติบโต YoY และ QoQ
ทั้งนี้ ได้ปรับประมาณการกำไรปี 2567 ของ GFPT เพิ่มขึ้น 10% สู่ 1.8 พันล้านบาท เพื่อสะท้อนสมมติฐานเงินบาทที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จาก 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นจากการส่งออกมากขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าตลาด (Consensus) มีแนวโน้มที่จะปรับประมาณการกำไรของ GFPT เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ:
ราคาหุ้น GFPT ปรับตัว Outperform SET อยู่ 5% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา โดยเล็งเห็นหลายปัจจัยดังที่กล่าวมาจะช่วยผลักดันให้ราคาหุ้นปรับตัว Outperform ต่อไปได้
ปัจจุบันหุ้น GFPT ซื้อขายที่ PE ปี 2567 ระดับ 8.7 เท่า (-1.5 S.D. จาก PE เฉลี่ย 10 ปี) InnovestX Research ให้คำแนะนำ Outperform สำหรับ GFPT โดยปรับราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 อ้างอิงวิธี SOTP ใหม่เป็น 16 บาทต่อหุ้น (จาก 15.5 บาท) อ้างอิง PE 11 เท่า สำหรับธุรกิจอาหารสัตว์, 9 เท่า สำหรับธุรกิจฟาร์ม และ 13 เท่า สำหรับธุรกิจอาหาร
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือการเปลี่ยนแปลงในต้นทุนอาหารสัตว์และนโยบายรัฐบาล อุปทานสุกร (โปรตีนทดแทน) ที่สูงขึ้น ปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญคือการบริหารจัดการพลังงาน ของเสีย และน้ำ ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน (E) นโยบายด้านสุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน (S)