วันนี้ (2 พฤษภาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล อรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังจากได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็น รมช.เกษตรฯ ว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับมอบหมายงาน แต่ที่ตนตั้งใจไว้คือต้องการแบ่งเบาภารกิจของ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ได้มากที่สุด
ส่วนสาเหตุที่เป็นรัฐมนตรีนั้นพรรคพลังประชารัฐเสนอรายชื่อแคนดิเดตรัฐมนตรีหลายคนเพื่อให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจ อรรถกรกล่าวว่า เท่าที่ทราบตามข่าว พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ส่งไป 3-4 รายชื่อ รวมถึงชื่อแคนดิเดตเก่า หลังจากนั้นก็ขึ้นกับนายกรัฐมนตรีกรุณาเลือกตนเข้ามาทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีเพื่อมาทำงานร่วมกับ ร.อ. ธรรมนัส เชื่อว่าตัวเองและ ร.อ. ธรรมนัส จะทำงานร่วมกันได้อย่างดีเพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป โดยเป้าหมายส่วนตัวจะผลักดันนโยบายต่างๆ ที่ท่านนายกรัฐมนตรี และ ร.อ. ธรรมนัส ได้มอบไว้ให้และจะทำให้บรรลุในทุกข้อ
ส่วนสาเหตุที่นายกรัฐมนตรีเลือกเข้ามาเพราะมีภาพคนรุ่นใหม่เป็นองค์ประกอบร่วมด้วยใช่หรือไม่ อรรถกรระบุว่า ตนตอบแทนนายกรัฐมนตรีไม่ได้ แต่ในเมื่อตนมีโอกาสมาทำงานตรงนี้ สะท้อนให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่มีโอกาสเข้ามาทำงาน และทราบมาว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดนี้มีคนรุ่นใหม่หลายคนเข้ามา ก็เชื่อว่าจะร่วมมือกันทำงานมิติใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
เมื่อถามว่าแต่งตั้งอรรถกรแล้วยังมีแรงกระเพื่อมในพรรคพลังประชารัฐอยู่หรือไม่ อรรถกรกล่าวว่า ขอบคุณพี่น้องเพื่อนในพรรคพลังประชารัฐ หลังจากมีข่าวตนได้รับการโปรดเกล้าฯ ก็มีคนเข้ามาแสดงความยินดี และตนจะตั้งใจทำงานในฐานะที่เป็นตัวแทนของพรรคและคนฉะเชิงเทราที่มีโอกาสเข้ามาทำงานฝ่ายบริหาร และให้สมกับที่นายกรัฐมนตรีให้ความไว้วางใจ
ประวิตรสั่งลุยงานกระทรวงเกษตรฯ อย่าให้เสียชื่อ
อรรถกรกล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนเตรียมตัวทำงาน และดีใจที่ได้รับมอบหมาย โดยไม่ได้ตื่นเต้นอะไร และตั้งแต่วันที่ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ส่งชื่อ และตั้งแต่ทราบว่าจะได้เป็นรัฐมนตรี ก็ได้มีการคิดล่วงหน้าและเตรียมความพร้อม เมื่อเรามีโอกาสได้เข้ามาทำงานในฐานะรัฐมนตรีช่วยก็จะทำให้ดีที่สุด
เมื่อได้รับผิดชอบมาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งถือเป็นกระทรวงใหญ่ เป็นกระทรวงที่ดูแลเกษตรกรที่มีจำนวนมากในประเทศไทย แต่ยอมรับว่าก็อาจจะรู้สึกกดดันบ้าง อีกทั้งตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีผลงานชิ้นโบแดง แม้จะมีข้อจำกัดในเรื่องของงบประมาณบ้าง แต่ดัชนีชี้วัดต่างๆ ก็เป็นเชิงบวกอย่างที่ทุกคนเห็นอยู่แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการที่พรรคพลังประชารัฐได้ดูกระทรวงเกษตรฯ ทั้งหมด จะส่งผลอย่างไร อรรถกรกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เป็นอย่างไรตนไม่ทราบ แต่เบื้องต้นเท่าที่ได้คุยกับ ร.อ. ธรรมนัส ซึ่งไม่ได้มีปัญหาอะไรกันอยู่แล้ว ตนเองตั้งใจที่จะทำงานเพื่อแบ่งเบาภารกิจ และพร้อมสนับสนุนในทุกๆ เรื่องที่จะสามารถแบ่งเบาได้ ในฐานะคนรุ่นใหม่ก็จะทำตามนโยบายที่ รมว.เกษตรฯ ได้วางนโยบายไว้ คือการใช้นวัตกรรมใหม่ๆ และใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปทำงาน
ดังนั้นการสื่อสารถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะเกษตรกรที่สูงอายุ เมื่อโลกเปลี่ยนไปหากเราใช้รูปแบบเดิมๆ ผลลัพธ์อาจจะเป็นแบบเดิมหรือน้อยกว่าเดิมด้วยซ้ำ เนื่องจากทุกอย่างเปลี่ยนไป โดยเฉพาะภูมิอากาศ ซึ่งส่งผลกระทบกับผลผลิต จึงจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ก็มีหลายหน่วยงานและนักวิชาการที่มีความรู้ความสามารถจะเข้าไปช่วยตรงนี้ได้
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า พล.อ. ประวิตร ได้ฝากฝังอะไรหรือไม่ อรรถกรกล่าวว่า “ท่านบอกว่าอย่าให้เสียชื่อ ท่านมอบความไว้วางใจแล้ว ท่านให้โอกาสแล้วก็ต้องทำให้เต็มที่ครับ”