วันนี้ (30 เมษายน) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่จะมีการประชุมข้าราชการตำรวจช่วงบ่ายวันนี้ว่า จะมีการนำประเด็นเรื่องร้องเรียนของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เข้าที่ประชุมด้วยหรือไม่
พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ระบุว่า เรื่องนี้เป็นวาระที่ฝ่ายเลขานุการได้กำหนดไว้ คิดว่าเป็นเรื่องของการประชุม ตนคงไม่ออกมาเปิดเผยอะไร และถ้ามีการเสนอวาระก็ถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ตนคงไม่ได้เข้าพิจารณาด้วย
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ ยืนยันว่าไม่กังวลและยังมั่นใจว่าในฐานะรักษาราชการแทนฯ ได้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจที่มีอยู่
ส่วนความคืบหน้าคดีของ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ กล่าวว่า อยู่ระหว่างขั้นตอนของการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนของพนักงานสอบสวน
ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ. สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร. ระบุว่า พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ มีอำนาจในการพิจารณาเปลี่ยนตัวหนึ่งในคณะกรรมการชุดสอบสวน พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ที่พบว่ามีข้อขัดแย้งกับ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่าได้รับทราบแล้วว่า พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ มีหนังสือยื่นคัดค้านในเรื่องคณะกรรมการบางท่าน เรื่องนี้เป็นสิทธิโดยถูกต้องและชอบธรรมของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์
เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกฎคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) แต่ขั้นตอนต่อไปตนเองได้สั่งการให้กองวินัยไปพิจารณาและเสนอความเห็นว่าคณะกรรมการท่านใดขัดต่อคุณสมบัติที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ได้ยื่นคัดค้านไปหรือไม่ หากขาดคุณสมบัติและเป็นไปตามที่ได้ยื่นคัดค้านก็จะต้องมีการพิจารณาเปลี่ยนตัวเพื่อไม่ให้เป็นกรรมการ
ซึ่งถือว่าเป็นกระบวนการให้ความเป็นธรรมและเป็นการถ่วงดุลระหว่างคณะกรรมการกับผู้ถูกกล่าวหา แต่ถ้าฝ่ายวินัยพิจารณาแล้วเห็นว่าคณะกรรมการในจำนวนที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ได้คัดค้านไม่ขัดต่อคุณสมบัติที่กฎ ก.ตร. กำหนดไว้ คณะกรรมการก็จะดำเนินการสอบสวนพิจารณาทางวินัยต่อไป
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่านายกรัฐมนตรีได้เชิญไปให้ข้อมูลที่ทำเนียบรัฐบาล ยืนยันว่ายังไม่ทราบกระแสข่าว ให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายเลขานุการ เพราะตนอยู่ในฐานะรองประธานและกรรมการด้วย