วันนี้ (29 เมษายน) ศิริกัญญา ตันสกุล สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวให้ความเห็นถึงกรณีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของกระทรวงการคลัง โดยระบุว่า มีรัฐมนตรีในกระทรวงการคลังถึง 4 คน ซึ่งน่าจะมากที่สุดในประวัติศาสตร์ อันที่จริงกรมในกระทรวงก็ไม่ได้มาก คงแบ่งกันดูแลคนละกรมครึ่ง แต่ก็พอเข้าใจดีว่ามีนโยบายเรือธงของพรรคแกนนำรัฐบาลที่จะต้องขับเคลื่อน โดยการปรับ ครม. ครั้งนี้ ก็มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่คือ พิชัย ชุณหวชิร ที่มาแทน เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พูดได้ว่าจะมีรัฐมนตรีที่ทำงานเต็มเวลาเป็นครั้งแรก ไม่ต้องแบ่งเวลามาเป็นรัฐมนตรีกับเซลส์แมนประเทศ
ศิริกัญญาระบุว่ายังมองโลกในแง่ดี ว่าการทำแบบนี้น่าจะทำให้งานของกระทรวงขับเคลื่อนได้ดีขึ้น ด้วยเหตุผลว่ามีรัฐมนตรีทำงานแบบเต็มเวลา ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไม่ควรเป็นคนเดียวกับนายกฯ เพราะในฐานะนายกฯ จะเป็นผู้ริเริ่มโครงการโปรเจกต์ต่างๆ แต่ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังต้องเป็นคนที่คอยให้ข้อเสนอแนะหรือตักเตือนกรณีที่มีโครงการใช้เงินมากเกินไปจนกระทบฐานะทางการคลังของประเทศ ดังนั้น ถ้าเป็นคนเดียวกันก็จะไม่มีใครเตือนใคร ยิ่งทำไปเรื่อยๆ อาจจะทำให้เสียหายทางการคลังได้
“หวังว่าคุณพิชัยจะทำหน้าที่ในการให้ข้อเสนอแนะ เพื่อทำให้ฐานะทางการคลังมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น แต่ต้องดูผลงานกันก่อนว่าจะมีความสามารถและความเชี่ยวชาญด้านการคลังมากแค่ไหน โดยพื้นฐานของคุณวิชัยมาจากทางฝ่ายบัญชี รวมถึงเป็นบอร์ดของบริษัทมหาชนต่างๆ” ศิริกัญญากล่าว
ศิริกัญญากล่าวต่อไปว่า ในส่วนของรัฐมนตรีช่วยคือ เผ่าภูมิ โรจนสกุล ก็เป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมาโดยตลอด ก็ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมถึงไม่เข้า ครม. ตั้งแต่รอบแรก แต่สุดท้ายก็ได้เป็น ต้องขอแสดงความยินดีด้วย แต่งานของเผ่าภูมิคงไม่จบแค่การขับเคลื่อนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแต่เพียงอย่างเดียว ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นรัฐมนตรีที่มีอายุแค่หนึ่งปี
อย่างไรก็ตาม ศิริกัญญามองว่า ความสำเร็จของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่เกี่ยวข้องกับการที่มีรัฐมนตรีช่วยมากหรือน้อย แต่อยู่ที่เรื่องของการขับเคลื่อน โดยเฉพาะทางด้านกลไกของข้าราชการประจำกระทรวงมากกว่าที่มีบทบาทสำคัญ ในการชงแหล่งที่มาของงบประมาณให้ครบ 5 แสนล้านบาทตามที่ได้มีการมอบหมายไว้
“ขอเป็นกำลังใจให้กับข้าราชการประจำที่ต้องโดนสั่งให้ทำอะไรแบบนี้ ทั้งนี้คงต้องอาศัยทั้งไม้หนักไม้เบาที่จะทำให้ข้าราชการยอมทำในเรื่องที่สุ่มเสี่ยงและยาก แต่ก็อย่าใช้ไม้หนักเพียงอย่างเดียว” ศิริกัญญากล่าว