The Verge รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไฟเขียวลงนามอนุมัติร่างกฎหมายแบน TikTok ที่กำลังเริ่มนับถอยหลังกรอบระยะเวลา 9 เดือนถึง 1 ปีที่ ByteDance ต้องสละการถือครอง หรือไม่เช่นนั้นผู้ใช้งานทั้งหมดในสหรัฐฯ จะไม่สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันได้อีกต่อไป
แม้ว่าก่อนหน้านี้ดูเหมือนกฎหมายจะต้องใช้เวลาในการพิจารณาโดยสภาคองเกรสหลังจากที่ร่างกฎหมายผ่านมติเห็นชอบในขั้นแรกจากสภาผู้แทนราษฎร (US House of Representative) แต่เทคนิคทางด้านการเมืองส่งผลให้ร่างกฎหมายส่งไปถึงโต๊ะทำงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ในเวลาอันสั้น
เทคนิคที่ว่าคือการมัดรวมกฎหมายงบประมาณเพื่อช่วยเหลือประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ ในสภาวะสงครามอย่างยูเครนที่ได้รับเงินสนับสนุนราว 60,000 ล้านดอลลาร์, อิสราเอล 26,000 ล้านดอลลาร์, ไต้หวันกับพื้นที่อินโด-แปซิฟิก 8,000 ล้านดอลลาร์ และ 1,000 ล้านดอลลาร์ให้แก่กาซา เพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ซึ่งทั้งหมดถูกมัดรวมกับร่างกฎหมายแบน TikTok จึงทำให้สภาคองเกรสต้องพิจารณากฎหมายเหล่านี้พร้อมกัน
ทันทีที่ร่างกฎหมายผ่าน โจวโซ่วจือ ซีอีโอของ TikTok ได้ออกมาไลฟ์ตอบโต้สถานการณ์ว่าการแบนแพลตฟอร์มครั้งนี้ถือเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพที่เป็นพื้นฐานของสังคมอเมริกัน
“การทำเช่นนี้มันดูไม่ตรงกับแนวคิดที่สังคมอเมริกันให้ความสำคัญเลย เพราะเสรีภาพทางความคิดที่ TikTok ยึดถือเป็นสำคัญนั้นไม่ต่างกับสิ่งที่ทำให้สหรัฐฯ เป็นดินแดนแห่งเสรีภาพเลย โดย TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ชาวอเมริกันสามารถแสดงออกได้ตามความสร้างสรรค์ของพวกเขา และนั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมคนจำนวนมากใช้บริการของเราในชีวิตประจำวัน”
@tiktok
วิดีโอ: TikTok
อย่างไรก็ตาม โจวโซ่วจือยืนยันว่าแพลตฟอร์มจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อต่อสู้กับกฎหมายนี้ในชั้นศาล เนื่องจากความจริงและสิทธิขั้นพื้นฐานของชาวอเมริกันเป็นปัจจัยที่อยู่ข้างเดียวกันกับ TikTok โดยเขามั่นใจว่าการโต้แย้งในครั้งนี้จะทำให้ TikTok ชนะได้ในท้ายที่สุด
อ้างอิง: