วันนี้ (18 เมษายน) ที่อาคารรัฐสภา สส. พรรคก้าวไกล กลุ่มก้าวกรีน สัดส่วนสิ่งแวดล้อม นำโดย เดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยนโยบายเพื่ออนาคต หรือ Think Forward Cente, คริษฐ์ ปานเนียม สส. ตาก, ณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สส. สมุทรสาคร, พูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส. แบบบัญชีรายชื่อ และ ภัสริน รามวงศ์ สส. กทม. ร่วมกันแถลงข้อห่วงใยกรณีการขนย้ายกากแคดเมียมกลับไปยังจังหวัดตาก
โดยเดชรัตกล่าวว่า พรรคก้าวไกลตั้งข้อสังเกต 5 ประเด็น คือ
- ขณะนี้ยังไม่พบกากแคดเมียมในส่วนที่เหลือ ที่ตามหาไม่พบ แม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะชี้แจงว่าน้ำหนักอาจหายไปเพราะความชื้น โดยกลุ่มก้าวกรีนตั้งข้อสันนิษฐานที่อาจเป็นไปได้ 2 ทางคือ ส่วนที่เหลือยังกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ เพียงแต่ยังตรวจไม่พบ หรือถูกหลอมไปแล้วบางส่วนตามพื้นที่ต่างๆ ก่อนหน้านี้ จึงขอให้เปิดเผยอย่างโปร่งใส
- ขอให้รัฐบาลตรวจสอบสารปนเปื้อนทั้งในร่างกายและสิ่งแวดล้อมให้ครอบคลุม พร้อมกับกำหนดมาตรการฟื้นฟูเยียวยาโดยไม่อ้างข้อติดขัดใดๆ ทั้งสิ้น และขอให้ประกาศพื้นที่ควบคุมมลพิษ
- การขนส่งกากแคดเมียมไปยังจังหวัดตากนั้น จะต้องมีบุคคลที่สามหรือมีส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบความพร้อมของพื้นที่จัดเก็บ เนื่องจากก่อนหน้านี้การลักลอบขุดกากแคดเมียม ส่งผลให้คอนกรีตฝังกลบได้รับความเสียหายจากการขุดของรถแบ็กโฮ ส่งผลให้ประชาชนในจังหวัดตากกังวลเรื่องความปลอดภัยจนต้องออกมาเรียกร้อง
- หลังประเมินเที่ยวรถในการขนส่งและปริมาณรถที่ขนได้ พบว่าต้องขนมากกว่า 480 เที่ยว ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลานาน 1-2 เดือน และกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูฝน อาจทำให้มีการปนเปื้อนระหว่างขนส่งได้ ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเข้มงวด โดยใช้รถที่ได้รับอนุญาตให้ขนส่งวัตถุอันตราย และมีมาตรการป้องกันกรณีเกิดอุบัติเหตุด้วย
- เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงข้อบกพร่องในกลไกการป้องกันเหตุที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเกิดจากการไม่ปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของโรงงานต้นทาง ดังนั้น รัฐบาลจะต้องใช้เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียน โดยในระยะสั้น สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) จะต้องตรวจสอบหาข้อผิดพลาด และหามาตรการในการแก้ไขอย่างทันท่วงที ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องมีมาตรการในการตรวจทานร่วมกับกระทรวงอื่นๆ เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก่อนดำเนินการเคลื่อนย้ายสารมลพิษใดๆ โดยต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส เปิดเผยต่อสาธารณะ และเปิดให้ประชาชนร่วมตรวจสอบได้
นอกจากนี้ รัฐบาลและพรรคการเมืองต่างๆ ควรให้การสนับสนุนและช่วยกันเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.การรายงานการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม (PRTR) รวมถึงร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการขยะและการหมุนเวียนทรัพยากร เพื่อให้การควบคุมและการเคลื่อนย้ายของเสียอันตรายหรือสารมลพิษต่างๆ กระทำอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ และเปิดเผยอย่างโปร่งใสต่อประชาชน โดยพรรคก้าวไกลได้ยื่นร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว และหวังว่าจะถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาโดยเร็ว