บริษัทผลิตผ้าอ้อมในญี่ปุ่นเตรียมยุติการผลิตผ้าอ้อมเด็ก หันไปเพิ่มกำลังการผลิตผ้าอ้อมผู้ใหญ่แทน เพื่อสะท้อนถึงสังคมผู้สูงอายุที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วของประเทศ
Oji Holdings บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกระดาษ ระบุว่า จะหยุดผลิตผ้าอ้อมเด็กในช่วงเดือนกันยายนนี้ ท่ามกลางความต้องการสินค้าที่ลดฮวบลงอย่างมาก โดยบริษัทเห็นยอดขายลดลงจากยอดสูงสุดเมื่อประมาณปี 2001 ที่ทำไว้ถึง 700 ล้านชิ้น เหลือเพียงแค่ 400 ล้านชิ้นในปัจจุบัน
ยอดขายผ้าอ้อมผู้ใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นแซงหน้าผ้าอ้อมเด็กมาได้กว่าสิบปีแล้ว และตามสถิติประชากรล่าสุดระบุว่า แนวโน้มดังกล่าวจะดำเนินต่อไป
จำนวนการเกิดในญี่ปุ่นลดลงสู่จุดตกต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 758,631 คนในปี 2023 ในขณะที่มีผู้เสียชีวิตมากถึง 1,590,503 คน NHK ผู้กระจายเสียงและเผยแพร่ข่าวสารภาคสาธารณะ รายงานว่า มีเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปีคิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 12% ของประชากรทั้งประเทศในปี 2022 ในขณะที่ประชากรที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปอยู่ที่เกือบ 30%
คาดการณ์ว่าประชากรในประเทศจะลดลงอย่างฮวบฮาบจาก 125 ล้านคนในปัจจุบัน เหลืออยู่ประมาณ 88 ล้านคนในปี 2065 หรือคิดเป็นสัดส่วนที่ลดลงถึง 30% ภายในระยะเวลา 45 ปี
ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า อัตราการเกิดที่ต่ำเป็นพิเศษถือเป็น ‘วิกฤตการณ์ความเป็นอยู่’ (Existential Crisis) และให้คำสัญญาว่าจะมอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัว เพิ่มศูนย์รับเลี้ยงเด็กให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และเพิ่มวันลาคลอดมากขึ้น
แต่แม้จะมีแคมเปญทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่นที่จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนมีลูกมากขึ้น ก็ดูเหมือนว่าจะมีผลลัพธ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ผู้หญิงญี่ปุ่นคนหนึ่งจะมีลูกโดยเฉลี่ยเพียง 1.3 คนตลอดช่วงชีวิตของตนเอง ซึ่งต่ำกว่าค่า 2.1 คนที่จำเป็นต้องใช้เพื่อคงขนาดประชากรปัจจุบันให้อยู่ได้
โฆษกของ Oji Holdings กล่าวว่า บริษัทจะเร่งกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์สุขอนามัยสำหรับผู้สูงอายุ พร้อมเสริมว่า คาดว่าผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นมาจะถูกนำไปใช้ในสถานดูแลผู้สูงอายุและสถานพยาบาลต่างๆ
“ความต้องการผ้าอ้อมเด็กกำลังลดลงเนื่องมาจากหลายปัจจัย รวมถึงอัตราการเกิดที่ตกต่ำ” โฆษกกล่าว
บริษัทยืนยันว่าจะยังมีการวางขายผ้าอ้อมเด็กในประเทศต่อไปจนกว่าสินค้าในสต็อกจะหมด และยังมีแผนขยายสายการผลิตไปยังประเทศอย่างเช่น อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ที่คาดว่าความต้องการสินค้าจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
อ้างอิง: