วันนี้ (4 เมษายน) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีเว็บไซต์ TasteAtlas ที่รวมอาหาร รีวิว และจัดอันดับความนิยมด้านอาหารทั่วโลก จัดอันดับเมนู ‘แกงไตปลา’ ของไทย เป็นอันดับที่ 1 เมนูอาหารยอดแย่ที่สุดในโลกว่า ไม่ทราบ แล้วแต่ลิ้นใครลิ้นมัน เขาก็มีสิทธิ์ที่จะวิจารณ์หรืออะไรได้ และก็ต้องให้ความเป็นธรรมว่า จริงๆ แล้วก็มีอาหารไทยหลายชนิดที่ติดอันดับท็อป 10 ของโลก
“แกงไตปลาอาจมีรสชาติเผ็ด มีความเข้มข้น แต่ส่วนตัวผมเองผมชอบมาก” เศรษฐากล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อยากให้ทุกคนเปิดใจกับอาหารไทยมากขึ้นหรือไม่ เศรษฐากล่าวว่า ที่จริงแล้วอาหารไทยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นมัสมั่นไก่ ขนมครก ต้มยำกุ้ง ผัดไทย หรือผัดกะเพรา ก็เป็นที่ชื่นชอบ แต่เราต้องยอมรับว่าการวิพากษ์วิจารณ์ก็เป็นสิทธิ์ของเขาเหมือนกัน รสชาติของแกงไตปลาก็อาจจะแรงเกินไปสักนิด เขาอาจไม่ค่อยคุ้นชิน เพราะว่าแกงไตปลาทำไม่เผ็ดก็ไม่ใช่แกงไตปลา แต่ตนเชื่อว่ารัฐบาลนี้และคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์มีการส่งเสริมเรื่องอาหารอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว
ยังไม่พบคนไทยเหตุแผ่นดินไหวไต้หวัน
เศรษฐากล่าวถึงกรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหวนอกชายฝั่งเมืองฮัวเหลียนของไต้หวันเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (3 เมษายน) ว่า ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศดูแลคนไทยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็ยังไม่พบว่าคนไทยมีปัญหาอะไร แต่ถ้ามีปัญหา สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ณ กรุงไทเป ก็พร้อมให้การช่วยเหลือ
ย้ำ 314 เสียงแน่นแล้ว ส่วนตัวขอไม่รับเพิ่ม
เศรษฐายังกล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ที่วานนี้ได้ชี้แจงกรณีถูกพาดพิงว่าเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงและรัฐบาลตัวจริงหรือไม่ว่า ก็ยืนยัน เพราะเขา (ฝ่ายค้าน) มีการตั้งคำถามมา ซึ่งตนก็ยืนอยู่ตรงนี้ แล้วก็พูดจริง เสียงจริง และทำจริง ขณะเดียวกันหากมองด้วยความเป็นธรรม เราก็ทำเพื่อประชาชน ก็ไม่อยากจะให้ไปพูดอะไรกันมากมาย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เนื้อหาการอภิปรายมักถูกโดนโจมตีถึงเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศ เศรษฐากล่าวว่า ตนก็ชี้แจงไปหลายครั้งแล้วเหมือนกัน เพราะเราก็มีหลายเรื่องที่ต้องชี้แจง ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการดึงดูดนักลงทุน เรื่อง FTA และเรื่องที่เราต้องไปบอกเขาว่าประเทศเราเปิดแล้ว ซึ่งการที่เราจะไปลงทุนอะไรก็แล้วแต่ที่จะลงทุนเป็นหลักแสนล้าน เวลาจะพิจารณาก็ต้องทำให้รอบคอบ ต้องอาศัยการรวบรวมข้อมูลที่ค่อนข้างเยอะ ซึ่งตนมั่นใจว่า ภายใน 2 ปีข้างหน้า สึนามิแห่งการลงทุนจะมาที่ประเทศไทย
ส่วนที่นายกรัฐมนตรีได้ตอบโต้ว่ามีฝ่ายค้านอยากจะมาร่วมรัฐบาล ขณะนี้ได้มีการพูดคุยในเรื่องดังกล่าวบ้างหรือไม่ เศรษฐากล่าวว่า เชื่อว่ามีบ้าง แต่คงไม่ได้พูดคุยกับตน เพราะพูดมาตลอดเวลาว่า 314 เสียงก็แน่นแล้ว และเราเองก็ทำงานได้ดี แต่ส่วนจะคุยกับใครก็ให้เป็นเรื่องของเขาไป คงมีแน่นอน พร้อมยืนยันว่าไม่คิดจะรับเพิ่ม เพราะ 314 เสียงก็ชัดเจนอยู่แล้ว