วันนี้ (2 เมษายน) Chula BAKA แฟนเพจของผู้จัดการแข่งขันฟุตบอลสานสัมพันธ์ จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ประจำปี 2024 ‘CU-TU Unity Football Match 2024’ ซึ่งจัดขึ้นโดยองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.) และองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ได้ชี้แจงถึงเสียงวิจารณ์ถึงรูปแบบการจัดงานที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะการอัญเชิญพระเกี้ยวด้วยรถกอล์ฟไฟฟ้าว่า พระเกี้ยวเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่ชาวจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยภาคภูมิใจ สืบเนื่องจากชื่อของมหาวิทยาลัยที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้พระราชทานกำเนิดมหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ ขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลสานสัมพันธ์ จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ในครั้งนี้ เหล่านิสิตได้ตั้งใจเป็นอย่างยิ่งในการคัดสรรสัญลักษณ์ตัวแทนแห่งองค์ความรู้ของศาสตร์แขนงต่างๆ มารายล้อมในขบวนอัญเชิญพระเกี้ยว อันประกอบไปด้วย
- เข็มฉีดยาและขวดชมพู่ ตัวแทนของ วิทยาศาสตร์สุขภาพและวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี
- หนังสือเล่มหนา ตัวแทนของสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์
- ไม้ฉากเรขาคณิต ตัวแทนของคณิตศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์
- เกียร์ ตัวแทนของวิศวกรรมศาสตร์
- สเลทฟิล์ม ตัวแทนของนิเทศศาสตร์
- ดัมบ์เบล ตัวแทนของวิทยาศาสตร์การกีฬา
- จานสี ตัวแทนแห่งศาสตร์ศิลปะ
ทั้งนี้ สัญลักษณ์เหล่านี้ที่อยู่รายล้อมพระเกี้ยวกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยรถไฟฟ้า เปรียบเสมือนองค์ความรู้ที่อยู่คู่กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้พัฒนาวงการต่างๆ ในประเทศไทยและในระดับโลก ในทุกยุคสมัย ขณะเดียวกันก็กลับมาโอบอุ้มให้มหาวิทยาลัยก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงแข็งแรง สอดรับกับพันธกิจของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอีกด้วย
นอกจากนี้ อีกสิ่งประดับตกแต่งขบวนที่ทุกท่านเห็นก็คือ ‘อะตอม’ ที่สื่อถึงส่วนประกอบเล็กๆ ที่เมื่อรวมกันจะกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เปรียบเสมือนความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของนิสิต บัณฑิต และบุคลากรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ร่วมแรงร่วมใจไปสู่การเป็นสถาบันเสาหลักที่ยั่งยืนของประเทศ
ขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวในครั้งนี้ ยังถูกตกแต่งด้วยดอกไม้จากพลาสติกที่ใช้แล้ว นำกลับมาใช้ซ้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างสอดคล้องกับแนวคิดของงานนั่นคือ Unity to Sustainability และร้อยเรียงเป็นพวงดอกกล้วยไม้ที่ผลิบาน ดั่งโบราณว่า “กล้วยไม้มีดอกช้า ฉันใด การศึกษาเป็นไป เช่นนั้น แต่ดอกออกคราวไร งามเด่น การศึกษาปลูกปั้น เสร็จแล้วแสนงาม”
ทั้งนี้ ทางคณะผู้จัดงานน้อมรับฟังทุกความคิดเห็น และยินดีนำไปปรับปรุงเพื่อพัฒนาต่อยอดให้ดียิ่งขึ้นในอนาคตต่อไป
อ้างอิง: