คลังเผย เศรษฐกิจไทยเดือนกุมภาพันธ์ 2567 มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 และภาคการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP สิ้นเดือนมกราคม 2567 อยู่ที่ 62.2%
วันนี้ (28 มีนาคม) พรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2567 มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากการส่งออกสินค้าและภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีรายละเอียดดังนี้
เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน: มีสัญญาณทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 5.7% และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ 5.7%
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 63.8 จากระดับ 62.9 ในเดือนก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 และสูงสุดในรอบ 48 เดือน สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน: มีสัญญาณทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 27.1% และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ 16.4%
มูลค่าการส่งออกสินค้า: ขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 อยู่ที่ 23,384.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 3.6% และหากพิจารณาเฉพาะมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่า เพิ่มขึ้นที่ 2.3% ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7
เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทานสำหรับภาคบริการ: มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยภาคบริการด้านการท่องเที่ยว ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม จำนวน 3.35 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 58.6% และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ 39.7%
เสถียรภาพเศรษฐกิจ: ยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 อยู่ที่ -0.77% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.43% ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2567 อยู่ที่ 62.2% ต่อ GDP
สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 อยู่ในระดับสูงที่ 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ