พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ปราศรัยในระหว่างขบวนพาเหรดวันกองทัพประจำปี ที่กรุงเนปิดอว์ วานนี้ (27 มีนาคม) ยืนยันว่าการยึดอำนาจของกองทัพนั้นจะเป็นไปเพียง ‘ชั่วคราว’ โดยมีเป้าหมายหลักคือการเสริมสร้างประชาธิปไตย พร้อมทั้งเรียกร้องให้เกิดความสามัคคีปรองดองในหมู่ประชาชนและทหาร
“ทหาร ตำรวจ และกองกำลังประชาชน กำลังทำงานเพื่อฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพ เราจำเป็นต้องมีความสามัคคีระหว่างทหารและประชาชน” เขากล่าว
ท่าทีของมิน อ่อง หล่าย มีขึ้นในขณะที่กองทัพกำลังเผชิญสถานการณ์ตึงเครียดจากการสู้รบกับกองกำลังชาติพันธุ์ ซึ่งทหารเมียนมาพ่ายแพ้และยอมจำนนในหลายแนวรบ และคาดว่าสูญเสียพื้นที่ปกครองไปแล้วเกินครึ่งประเทศ
ความท้าทายใหญ่ของกองทัพเมียนมา
ท่าทีของมิน อ่อง หล่าย สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุด ที่กองทัพเมียนมากำลังเผชิญนับตั้งแต่ก่อรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021
โดยมิน อ่อง หล่าย กล่าวหากองกำลังชาติพันธุ์และฝ่ายต่อต้านกองทัพว่าได้รับการสนับสนุนจากต่างประเทศ และพยายามทำลายเมียนมา รวมถึงขัดขวางแผนการนำเมียนมากลับคืนสู่การปกครองตามระบอบประชาธิปไตย
ขณะที่กองทัพเมียนมาปฏิเสธข้อกล่าวหาจากชาติตะวันตก ว่าทหารเมียนมาใช้วิธีการอันโหดร้ายในการปราบปรามฝ่ายต่อต้านและกองกำลังชาติพันธุ์โดยไม่สนใจพลเรือน เช่น การโจมตีทางอากาศและปืนใหญ่ในพื้นที่พลเรือน ตลอดจนการจับกุม ทรมาน และประหารชีวิตผู้คนตามอำเภอใจ
มิน อ่อง หล่าย กล่าวหาว่าเป็นฝ่ายต่อต้านที่ก่อความรุนแรง ปล้นสะดม และเผยแพร่กระแสความเกลียดชังกองทัพ และอ้างว่ากองทัพตกเป็นเป้าหมายของข่าวปลอมที่เผยแพร่โดยนักข่าวต่างประเทศและผู้ใช้โซเชียลมีเดีย
“ประเทศมหาอำนาจบางประเทศกำลังพยายามแทรกแซงกิจการภายในของเมียนมา โดยช่วยเหลือกลุ่มติดอาวุธต่อสู้กับกองทัพ” เขากล่าว โดยไม่มีการระบุถึงหลักฐานใดๆ
นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้ทหารผ่านศึกกลับมาสมัครรับใช้ชาติอีกครั้ง โดยเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายบังคับเกณฑ์ทหารฉบับใหม่ ที่จะเริ่มต้นบังคับใช้ในเดือนเมษายนนี้
ทั้งนี้ มิน อ่อง หล่าย ย้ำเหตุผลในการรัฐประหารว่า เป็นเพราะการเลือกตั้งในปี 2020 ถูกทำลายด้วยการฉ้อโกง โดยบัตรลงคะแนนเกือบ 30% เป็นโมฆะ ขณะที่พรรค NLD ของออง ซาน ซูจี ซึ่งชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยขณะนี้ซูจีอยู่ระหว่างถูกจำคุก หลังถูกตัดสินโทษจำคุก 27 ปี จากความผิดหลายข้อกล่าวหา
มิน อ่อง หล่าย ยืนยันว่าในการเลือกตั้งครั้งต่อไปซึ่งเขาไม่ได้ระบุกรอบเวลา จะจัดขึ้นภายใต้ระบบเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสม ซึ่งเขาเชื่อว่าจะมีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
ภาพ: Stringer / File Photo / Reuters
อ้างอิง: