รัฐสภาฝรั่งเศสผ่านร่างกฎหมายฉบับใหม่ มุ่งเป้าไปที่ธุรกิจแบรนด์ฟาสต์แฟชั่นอย่าง ‘SHEIN’ โดยเตรียมปรับ 10 ยูโร (ประมาณ 350 บาท) ต่อสินค้าแต่ละชิ้นที่จำหน่ายในประเทศฝรั่งเศสภายในปี 2030 พร้อมห้ามโฆษณา หวังผลักดันแบรนด์ท้องถิ่น
ร่างกฎหมายฉบับนี้มุ่งเป้าไปที่แบรนด์ฟาสต์แฟชั่นที่ผลิตสินค้าจำนวนมาก ขายในราคาถูก โดยใช้ ‘SHEIN’ แบรนด์ดังจากจีนเป็นกรณีศึกษา โดยกำหนดให้แบรนด์ฟาสต์แฟชั่นที่ผลิตสินค้าใหม่มากกว่า 1,000 ชิ้นต่อวัน จ่ายค่าปรับ 5 ยูโร (ประมาณ 175 บาท) ต่อชิ้นในปีแรก และเพิ่มเป็น 10 ยูโร (ประมาณ 350 บาท) ในปี 2030 คิดเป็น 50% ของราคาขายสินค้า นอกจากนี้ ยังห้ามแบรนด์ ‘แฟชั่นจ๋า’ เหล่านี้โฆษณาในฝรั่งเศสด้วย
Antoine Vermorel-Marques สมาชิกสภานิติบัญญัติสายอนุรักษนิยมที่ร่วมเขียนกฎหมายฉบับนี้ กล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวไม่ได้ต่อต้านจีน และไม่ต่อต้านพันธมิตรทางเศรษฐกิจของเรา เขากล่าวว่า เป้าหมายคือการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในฝรั่งเศสและยุโรป ขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้ก่อมลพิษต้องชดใช้
สำนักงานสิ่งแวดล้อมยุโรปรายงานว่า ประมาณ 4-9% ของสินค้าสิ่งทอทั้งหมดที่ขายในยุโรปถูกทำลายก่อนที่จะนำไปใช้สวมใส่ ส่วนใหญ่เป็นเพราะพวกเขาถูกส่งคืนหรือขายไม่ออก กฎหมายของสหภาพยุโรปกำหนดว่า สินค้าที่ไม่ได้ใช้และไม่เสียหายสามารถส่งคืนให้กับผู้ขายได้โดยไม่ต้องมีเหตุผลภายใน 14 วันนับจากวันที่ได้รับ
ขณะที่ SHEIN แบรนด์ฟาสต์แฟชั่นยักษ์ใหญ่จากจีน อ้างว่าร่างกฎหมายนี้ลงโทษผู้บริโภคที่คำนึงถึงราคา และไม่ได้วัดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นกลาง โดยโฆษกของ SHEIN ชี้ว่า ปริมาณของสินค้าที่ขายไม่ออกจะเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีกว่ามาก เธอกล่าวว่า อัตราการขายไม่ออกของ SHEIN อยู่ที่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับผู้ค้าปลีกแบบดั้งเดิมที่สูงถึง 40%
เนื่องจากคำจำกัดความของฟาสต์แฟชั่นในฝรั่งเศส ผู้ค้าปลีกในยุโรปที่นำสินค้าออกมาน้อยกว่ามากในแต่ละวัน เช่น ZARA และ H&M จึงมีแนวโน้มที่จะไม่ต้องถูกตรวจสอบอย่างละเอียด ผู้ร่างกฎหมายชาวฝรั่งเศสคาดว่า SHEIN จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ประมาณ 7,200 รายการทุกวัน การกำหนดโทษยังจะช่วยลดช่องว่างระหว่างผู้ค้าปลีกแฟชั่นแบบดั้งเดิมและแบรนด์ที่คล้ายกันกับ SHEIN
บริษัทแฟชั่นหลายแห่งของฝรั่งเศส เช่น KOOKAI และ Pimkie พยายามดิ้นรนเพื่อให้อยู่รอดในช่วง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับการแข่งขันจากแบรนด์ที่ย้ายการผลิตไปยังประเทศที่แรงงานและวัสดุมีราคาถูกกว่ามาก เช่น จีน บังกลาเทศ โมร็อกโก และตุรกี
ผู้ค้าปลีกเช่น SHEIN, Temu ของจีน และบริษัท Amazon ของสหรัฐอเมริกา ขายสินค้าแฟชั่นในฝรั่งเศสได้ประมาณ 1.3 พันล้านยูโรในปีที่แล้ว หรือประมาณ 19% ของยอดขายออนไลน์ และ 4% ของการบริโภคเสื้อผ้าทั้งหมด ตามรายงานของ Fashion Network อ้างข้อมูลจาก French Institute of Fashion
ขณะนี้ SHEIN กำลังวางเดิมพันกับร้านค้าทางกายภาพเพื่อปรับปรุงภาพลักษณ์ของตนในยุโรป โดยเปิดร้านป๊อปอัพจำนวนมาก และพื้นที่ถาวรที่เรียกว่า ‘Creative House’ ที่แสดงธุรกิจของตน
อย่างไรก็ตาม SHEIN ยังเผชิญปัญหาด้านภาพลักษณ์ในสหรัฐฯ มีการกล่าวหาว่าบริษัทใช้แรงงานทาสในห่วงโซ่อุปทาน ส่งผลให้ SHEIN กำลังพิจารณาเปลี่ยนสถานที่เสนอขายหุ้นจากสหรัฐฯ ไปยังกรุงลอนดอนแทน
ภาพ: Cezaro De Luca / Europa Press via Getty Images
อ้างอิง: