วันนี้ (16 มีนาคม) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการร่วมรับประทานอาหารกับ ทักษิณ ชินวัตร และ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่าได้มีการขอคำแนะนำอะไรหรือไม่ เศรษฐากล่าวว่าไม่มีโอกาส แค่ถ่ายรูปอย่างเดียว ในงานซุ้มอาหารเยอะมาก กินยังไม่ครบ ยังไม่ได้คุยอะไร เห็นท่านยิ้มแย้มแจ่มใสแม้จะแลดูเหนื่อยนิดหน่อย ตนก็ดีใจ
เมื่อถามต่อว่าทักษิณมีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ จะมีโอกาสเข้าไปปรึกษาปัญหาบ้านเมืองหรือไม่ เศรษฐาระบุว่าเข้าใจว่าคงมีโอกาสแน่นอน แต่เมื่อวานไม่ได้คุยจริงๆ ส่วนที่ตนนั่งข้างกับ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการพูดคุยเรื่องงานและเรื่องอื่นๆ ด้วย
ทั้งนี้ ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้รับความนิยมชมชอบสูงสุด หากไม่สามารถดึงท่านมาช่วยงานได้มองว่าประเทศไทยก็จะไม่ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่
เศรษฐากล่าวยืนยันว่า ทักษิณไม่ได้มีการฝากอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่พูดคุยเรื่องอาหารเท่านั้น
เมื่อถามต่อว่ามีแนวคิดที่จะเชิญทักษิณเข้ามาทำงานกับรัฐบาลหรือไม่ เศรษฐาระบุว่ายังไม่มี เพราะขณะนี้ยังไม่ทราบว่าท่านต้องการทำอะไร ท่านอาจต้องการชดเชยเวลาที่ไม่อยู่กับครอบครัว 17 ปี หรือเปล่า ตนก็ไม่ทราบ แต่เชื่อได้ว่าท่านก็อยากที่จะช่วยเหลือบ้านเมืองในบริบทที่ท่านถนัด
“ผมก็ไม่ทราบ ต้องถามท่านเมื่อมีโอกาส และท่านก็กลับมาบ้านเกิดครั้งแรกได้เพียง 48 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่อยากไปรบกวนเวลาที่ท่านจะอยู่กับครอบครัว” เศรษฐากล่าว
พร้อมกับระบุว่าไม่ต้องเป็นห่วง รัฐบาลของผมต่อจากนี้ไปอีก 3 ปีครึ่ง พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกๆ คน
เมื่อถามต่อว่าไม่รู้สึกน้อยใจใช่หรือไม่ที่ประชาชนยังคงรักอดีตนายกฯ ทักษิณมาก เศรษฐาระบุว่า มันเป็นของตายอยู่แล้วเพราะท่านเป็นนายกฯ มากี่ปี แลนด์สไลด์มา 377 เสียง อยู่ในแวดวงการเมืองมานานกว่าตน
“คนรักท่านมากกว่าผมอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นทราบถึงความจริงอยู่แล้ว อายุขนาดนี้ไม่โกหกตัวเอง แต่เราก็มีหน้าที่ที่ต่างกันไปในวันนี้ ตนเป็นนายกรัฐมนตรีต้องพยายามแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ไม่รู้สึกอะไรเลย” เศรษฐากล่าว
นอกจากนี้เศรษฐากล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ว่าได้มีการพูดคุยเรื่องนี้กับ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ภายในสัปดาห์หน้าจะมีการแถลงข่าว ซึ่งต้องหารือกันอีกหลายๆ ฝ่าย ทั้งสภาพัฒน์และธนาคารแห่งประเทศไทยด้วย