วันนี้ (11 มีนาคม) พล.ร.อ. อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วย โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เดินทางไปยังเรือ Ocean Valor ซึ่งจอดอยู่บริเวณอ่าวไทย ใกล้จุดที่เรือหลวงสุโขทัย อับปาง อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อตรวจเยี่ยมปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัยในวันสุดท้าย หลังปฏิบัติภารกิจครบ 19 วัน ตั้งแต่ 22 กุมภาพันธ์ -11 มีนาคม 2567 ระหว่างกองทัพเรือไทยกับกองทัพเรือสหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิก โดยเป็นหนึ่งในภารกิจการฝึก Cobra Gold 2024
ผบ.ทร. กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือไทยและสหรัฐฯ ในครั้งนี้ว่า ภารกิจเสร็จสิ้นสมบูรณ์เรียบร้อย ขอขอบคุณสหรัฐฯ ซึ่งดีใจที่สุดคือไม่มีใครเกิดอุบัติเหตุและไม่มีความเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น
ด้านเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยกล่าวขอบคุณกองทัพเรือไทย ตนได้เห็นการยกสมอเรือหลวงสุโขทัยขึ้นมา รู้สึกซาบซึ้งใจในความร่วมมือของรัฐบาลไทย ผู้บัญชาการทหารเรือ กองทัพเรือ และนักประดาน้ำทุกคน ภารกิจการกู้เรือเป็นการแสดงศักยภาพสูงสุดของความเป็นหุ้นส่วนระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ทางการทูตที่มีมายาวนานกว่า 190 ปี เยี่ยมมากๆ และใจของตนก็อยู่ร่วมกับครอบครัวทหารเรือที่สูญหาย และหวังว่าปฏิบัติการในครั้งนี้จะมีบทสรุปให้ครอบครัวของผู้สูญหายได้มากขึ้น
ขณะที่กองอำนวยการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัยแถลงข่าวปิดปฏิบัติการฯ ครบ 19 วัน นำโดย พล.ร.อ. ชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ในฐานะผู้อำนวยการฯ ระบุว่า เป็นระยะเวลา 1 ปี 2 เดือน 22 วัน ที่เรือหลวงสุโขทัยอับปางใต้ทะเลในความลึก 50 เมตร ซึ่งสภาพเรือพบว่าเรือตั้งแท่นเช่นเดิม และเอียงไปทางกราบซ้าย 7.3 องศา
สำหรับปฏิบัติการของนักประดาน้ำ 2 ประเทศ รวมปฏิบัติการดำน้ำ 82 เที่ยว 67 ชั่วโมง 53 นาที โดยผลการค้นหา 5 ผู้สูญหาย ไม่พบร่างทั้ง 5 คน หลังนักประดาน้ำได้เข้าสำรวจภายในห้องต่างๆ ตามที่วางแผน โดยส่วนใหญ่เป็นห้องที่อยู่ต่ำกว่าดาดฟ้าเรือ แต่ไม่ได้เข้าทุกห้อง ด้วยความเสี่ยงเพราะเรือจมอยู่ใต้น้ำลึก 50 เมตร รวมทั้งการสำรวจรอบตัวเรือและพื้นทะเลใต้ตัวเรือ
รวม 58 พยานวัตถุ ใช้สอบสวนต่อ
ทั้งนี้ นักประดาน้ำได้เก็บพยานวัตถุ 58 รายการ ทั้งที่เป็นวัตถุ-ภาพถ่าย ตามที่คณะกรรมการหาข้อเท็จจริงฯ ต้องการ เพื่อใช้ประกอบการสอบสวนหาสาเหตุ เช่น บริเวณแผ่นดันคลื่น, ประตูผนึกน้ำรอบตัวเรือ, รอยทะลุทางกราบซ้าย 2 รอย และสภาพฐานแท่นแพชูชีพ 6 แผง เป็นต้น
สำหรับส่วนที่เป็นวัตถุ ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง, เครื่องบันทึกภาพดิจิทัล DVR 1 เครื่อง, เสื้อชูชีพ 1 ตัว, คอมพิวเตอร์แล็ปท็อป 1 เครื่อง และสมุดจดคำสั่งการนำเรือ 1 เล่ม
สำหรับเครื่องบันทึกภาพดิจิทัล DVR หรือทีวีวงจรปิด ทางกองทัพเรือได้นำส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบและกู้ข้อมูล โดยกองทัพเรือหวังให้ดำเนินการโดยเร็วที่สุด พร้อมย้ำว่าเรือรบไม่มีกล่องดำเหมือนกับเครื่องบิน แต่สิ่งที่บันทึกความเคลื่อนไหวภายในเรือจะมาจากกล้องวงจรปิด
นอกจากนี้ ทางสหรัฐฯ ยังได้ปลดขีดความสามารถทางทหารกับยุทโธปกรณ์บนเรือ ได้แก่ อาวุธปล่อยนำวิถีสู่พื้นฮาร์พูน, ตอร์ปิโด MK309, เครื่องมือสื่อสาร, ปืนกล 20 มิลลิเมตร จำนวน 2 กระบอก, ปืนเล็กยาว M16 จำนวน 10 กระบอก ไม่ให้ใช้การได้ โดยทั้งหมดนำส่งให้กองทัพเรือไทยในฐานะเจ้าของ นำไปเข้าสู่กระบวนการต่างๆ ต่อไป
พร้อมกันนี้ยังได้นำสิ่งของภายในเรือหลวงสุโขทัยขึ้นมาเพื่อจัดทำเป็นอนุสรณ์ เช่น ป้ายชื่อเรือ, พญาครุฑ, พระพุทธรูป, พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, ระฆังเรือ, สมอเรือ, ธงราชนาวี, เสากระโดงเรือ, สมอเรือ และป้ายขึ้นระวางประจำเรือ เป็นต้น
ทั้งนี้ สิ่งที่กองทัพเรือจะดำเนินการต่อไป 3 ข้อ ได้แก่
- รวบรวมยุทโธปกรณ์ อุปกรณ์ สิ่งของจากเรือหลวงสุโขทัย ที่เก็บกู้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปางจะสรุปผลการสอบสวน
- การสร้างอนุสรณ์สถาน เรือหลวงสุโขทัย โดยนำสิ่งของต่างๆ ที่มีคุณค่าทางจิตใจมาจัดแสดงในพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพราะเป็นบ้านและที่ตั้งหน่วยของเรือหลวงสุโขทัย
อีก 1 เดือนรู้ผล เหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง
พล.ร.อ. ชาติชาย กล่าวย้ำว่า ด้วยการปฏิบัติภารกิจทั้งหมด ทำให้ไม่ต้องกู้เรือทั้งลำ เพราะได้พยานหลักฐานครบทุกรายการตามที่คณะกรรมการสอบสวนฯ ต้องการ และตอบโจทย์ทั้ง 4 ข้อในการปฏิบัติภารกิจ ได้แก่ การค้นหาผู้สูญหาย การตรวจสอบพยานวัตถุที่เรือ การปลดวัตถุอันตราย และการนำวัตถุที่มีคุณค่าทางจิตใจขึ้นมา
ส่วนเรื่องการเยียวยาครอบครัว 5 ผู้สูญหาย ได้ดำเนินการเหมือนกับ 24 รายที่เสียชีวิตและพบร่างแล้ว ขณะนี้เหลือเพียงขั้นตอนทางกฎหมายที่ต้องรอคำสั่งศาลว่าเป็นผู้สูญหาย เมื่อครบ 2 ปี สำหรับพยานวัตถุ 58 รายการ อยู่ที่กองทัพเรือพิจารณาว่าจะเกี่ยวข้องกับสำนวนสอบสวนหรือไม่ เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดย ผบ.ทร. เร่งให้เร็วที่สุดไม่เกิน 1 เดือน รวมถึงสมุดจดคำสั่งการนำเรือ 1 เล่มที่เก็บกู้ขึ้นมาได้ส่งไปยังหน่วยงานที่มีหน้าที่แล้ว
สำหรับงบประมาณในปฏิบัติการครั้งนี้ พล.ร.อ. ชาติชาย กล่าวว่า ทางสหรัฐฯ จะชี้แจงอีกครั้ง แต่ในส่วนของกองทัพเรือไทยได้คืนงบประมาณให้รัฐบาลไปแล้ว 90 ล้านบาท ส่วนงบที่กองทัพเรือจัดสรรเอง 110 ล้านบาท เป็นวิธีที่ดีที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบันและใช้งบประมาณไม่มาก โดยจะมีการชี้แจงต่อไป