วันนี้ (5 มีนาคม) พล.ร.อ. อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2567 ณ สนามฝึกกองทัพเรือหมายเลข 15 หาดยาว แสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีกำลังพลตลอดการฝึก 4,500 นาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการฝึกสาธิตในพิธีเปิดครั้งนี้ได้จำลองเหตุการณ์ตึงเครียดใกล้พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล และสาธิตการช่วยเหลือ ค้นหาผู้ประสบภัยจากพื้นที่ความขัดแย้ง และการช่วยเหลือตัวประกันจากหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ หรือซีล
พล.ร.อ. อะดุง กล่าวให้โอวาทว่า กองทัพเรือจัดให้มีการฝึกเป็นประจำทุกปีตามแนวทางที่กองทัพเรือกำหนดไว้อย่างต่อเนื่องที่ว่ารบอย่างไรฝึกอย่างนั้น เพื่อให้กำลังพลจากหน่วยต่างๆ ได้มีโอกาสฝึกปฏิบัติการร่วม และเป็นการทดสอบขีดความสามารถของหน่วยตามสาขาปฏิบัติการต่างๆ ทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมทางด้านองค์บุคคล องค์วัตถุ และองค์ยุทธวิธี ให้มีความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์และภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติขนาดใหญ่ด้วย จึงขอให้ผู้เข้าร่วมการฝึกทุกคนมุ่งมั่น ตั้งใจเรียนรู้ ฝึกฝนสะสมความรู้และประสบการณ์ รวมทั้งนำบทเรียนที่ได้รับจากการฝึกไปใช้ในการปฏิบัติงานในหน่วยของตนให้เกิดประโยชน์สูงสุด
พล.ร.อ. อะดุง กล่าวว่า กองทัพเรือมีการฝึกเช่นนี้ทุกปี และสานต่อมาตลอด เพื่อให้กองทัพเรือเป็นกองทัพที่พร้อมในการป้องกันประเทศ ส่วนพื้นที่เกาะกูดที่มีกำลังของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ (สอ.รฝ.) มีความพร้อม 100% ในการดูแลพื้นที่
ผบ.ทร. ลุ้น กมธ.งบ 67 รับอุทธรณ์ซื้อเรือฟริเกต 17,000 ล้านบาท
ผบ.ทร. กล่าวถึงกรณีกองทัพเรือยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในโครงการจัดหาเรือฟริเกต 17,000 ล้านบาท ว่าอยู่ที่คณะกรรมาธิการฯ พิจารณา
ส่วนประโยคที่เคยกล่าวในคณะกรรมาธิการฯ ว่าขอทหารเรือใช้ของดี ยอมกินมาม่าแทนนั้น ผบ.ทร. กล่าวว่า ตนอยากจะบอกให้รู้ว่าถ้าใครรู้จักกองทัพเรือ ยุทโธปกรณ์กองทัพเรือ ซึ่งมีทั้งเครื่องบิน เรือ มนุษย์กบ นาวิกโยธิน เรือใต้น้ำ และมีอะไรอีกมากมาย เราได้งบประมาณก้อนเดียว แต่เรามีของที่ต้องซื้อจำนวนมาก เพื่อให้กองทัพเรือมีความพร้อม กว่าจะวนมารอบหนึ่งได้เรือ ปีหน้าก็ต้องเป็นคิวเครื่องบิน อีกปีก็จะเป็นคิวอย่างอื่นต่อไป เราก็อยากให้เดินหน้าตามวงรอบที่เราคิดกันไว้ตามยุทธศาสตร์เท่านั้น
เมื่อถามว่าจำนวนเรือฟริเกตของกองทัพเรือที่ลดลงมีความจำเป็นต้องจัดหาใช่หรือไม่ ผบ.ทร. กล่าวว่า ผลการพิจารณาสมัย พล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ อดีต ผบ.ทร. ได้พิจารณาแล้วว่ามีความจำเป็น ซึ่งขณะนี้เหลืออยู่เพียง 4 ลำเท่านั้น และในปี 2569 ก็จะเหลือเพียง 3 ลำ ซึ่งส่วนตัวไม่ทราบว่าความหวังของกองทัพเรือในการจัดหาเรือฟริเกตจะเป็นอย่างไร แต่กำลังให้ทางปลัดบัญชีกองทัพเรือ สำนักงบประมาณกองทัพเรือ พิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งกองทัพเรือจะแก้ปัญหาให้ดีที่สุด
ซื้อเพิ่มไม่ได้ ก็พร้อมใช้สิ่งที่มีอยู่ให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลถึงความจำเป็นของกองทัพเรืออย่างไร ผบ.ทร. กล่าวว่า “ตามเรื่องที่เสนอขึ้นมาผ่านกรรมาธิการ สส. และ สว. ซึ่งได้อธิบายไปแล้ว ผมยอมรับหมดทุกเรื่อง รัฐบาลอาจมีความจำเป็นในด้านต่างๆ ก็สุดแต่รัฐบาล”
ส่วนถ้าไม่ได้เรือฟริเกตจะส่งผลต่อกองทัพเรือในการป้องกันประเทศไทยหรือไม่ ผบ.ทร. กล่าวว่า ถ้ายังไม่มีอะไรก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้ามีอะไรแล้วเราไม่พร้อม เราจะนำสิ่งที่มีเหลืออยู่ใช้ให้ดีที่สุด
เตรียมปิดปฏิบัติการกู้เรือหลวงสุโขทัย 11 มี.ค. นี้
พล.ร.อ. อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการสำรวจ ค้นหา และปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย หลังดำเนินการมากกว่าครึ่งทางแล้วว่า วันที่ 11 มีนาคมนี้ ในช่วงบ่ายจะปิดการปฏิบัติการ ซึ่งทางผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ผบ.กร.) จะแถลงข่าวการปฏิบัติการทั้งหมดว่าตอบโจทย์ 4 วัตถุประสงค์ที่เราร้องขอให้สหรัฐอเมริกาเข้ามาช่วยอย่างไรบ้าง โดยจะแถลงข่าวบนเรือหลวงอ่างทอง
ผบ.ทร. กล่าวว่า ของที่เก็บกู้ขึ้นมาแล้วมีกระบวนการอีกเยอะมาก เพื่อจะทำทุกอย่างให้สังคมสบายใจ และเคลียร์ว่าเรือล่มเกิดจากสาเหตุอะไร ขอให้รอเวลา ส่วนความเสียหายของเรือเกิดจากสาเหตุใดและเรื่องของการสละเรือช้า รวมทั้งเรื่องของผู้บังคับบัญชานั้นยังไม่ขอชี้แจง รอให้ผลออกมาก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- สุทินแนะก้าวไกลศึกษาเทคนิคกู้ เรือหลวงสุโขทัย ก่อนพูด ชี้ยกขึ้นมาทั้งลำเสี่ยงหัก-ผิดข้อตกลงสหรัฐฯ
- ก้าวไกลชี้ กองทัพเรือเตะถ่วง-ตั้งใจล้มกู้ เรือหลวงสุโขทัย เผยเขียนของบ 67 มาแล้ว อ้างไม่มีงบไม่ได้