×

ESG Bond กับโอกาสผลตอบแทนดีต่อใจ ดีต่อพอร์ตลงทุนปี 2567

03.03.2024
  • LOADING...
ESG Bond

ในปี 2567 นี้ SCB CIO มองว่า ตราสารหนี้ยังเป็นสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนได้ดี โดยผู้ที่ต้องการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ที่มีส่วนสร้างผลกระทบเชิงบวก ก็มีตราสารหนี้ที่คำนึงถึงประเด็นสิ่งแวดล้อม (Environment), สังคม (Social) และบรรษัทภิบาล (Governance) หรือ ESG Bond ให้เลือก 

 

จากข้อมูลของสมาคมตราสารหนี้ไทยระบุว่า ESG Bond แบ่งเป็น 4 ประเภท คือ

 

  1. ตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) – เงินจะถูกใช้ลงทุนหรือชำระคืนหนี้ (Re-Finance) ในโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อม โดยโครงการตราสารหนี้เพื่อการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Bond) ก็อยู่ในตราสารหนี้ประเภทนี้ 
  2. ตราสารหนี้เพื่อพัฒนาสังคม (Social Bond) – เงินจะถูกใช้ลงทุน หรือ Re-Finance ในโครงการเพื่อสังคม
  3. ตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) – เงินจะถูกใช้ลงทุน หรือ Re-Finance ในโครงการที่เกิดประโยชน์ทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
  4. ตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond) – กำหนดเงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทนขึ้นอยู่กับตัวชี้วัดหรือเป้าหมายที่ผู้ออกตราสารกำหนดไว้ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม กรณีดำเนินการไม่สำเร็จตามตัวชี้วัดในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ออกตราสารต้องเพิ่มอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว (Coupon) ให้ผู้ลงทุน

 

ทั้งนี้ Moody’s ระบุว่า ปี 2566 ทั่วโลกออก ESG Bond ประมาณ 9.46 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 2% จากปี 2565 ขณะที่ปี 2567 คาดว่าอยู่ที่ 9.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ใกล้เคียงกับปี 2566

 

ในส่วนของไทย จากสถิติของสมาคมตราสารหนี้ไทย ปี 2566 พบว่า มีการออก ESG Bond จำนวน 179,866 ล้านบาท ลดลงจากปี 2565 ที่ออกจำนวน 214,029 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าคงค้าง ESG Bond คิดเป็น 4% ของตลาดตราสารหนี้ไทย แบ่งเป็น Sustainability Bond 67%, Green Bond 21%, Sustainability-Linked Bond 8% และ Social Bond 4%

 

นอกจากตราสารหนี้ 4 ประเภท ยังมี Transition Bond ที่ออกแบบมาช่วยบริษัทในอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง ได้ปรับเปลี่ยนกิจกรรมทางธุรกิจเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยสมาคมตราสารหนี้ไทยให้คำจำกัดความว่า เป็นตราสารหนี้ที่ผู้ออกตราสารยังไม่ได้เป็นธุรกิจสีเขียว แต่ต้องการระดมทุนปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจหรือกระบวนการผลิต ให้ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ตามข้อตกลงปารีส โดยผู้ออกจำเป็นต้องปฏิบัติตามหลักการสำคัญของ Green, Social และ Sustainability Bond Principles พร้อมทำแผนกลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนในอนาคต

 

สิ่งที่น่าสนใจในปี 2567 คือ บริษัทต่างๆ ลงทุนเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน ซึ่งจะผลักดันให้ความสนใจลงทุนในตราสารหนี้เปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน หรือ Transition Bond มากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ ทั้งนี้ S&P Global เคยคาดการณ์ว่า การระดมทุนเพื่อการเปลี่ยนผ่าน รวมถึงการออก Transition Bond จะมีสัดส่วน 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐจากการลงทุนประมาณ 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นเงินลงทุนประจำปีที่จำเป็นต่อการจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้ร้อนขึ้นเกิน 2°C ภายในปี 2593

 

ผมมองว่า Transition Bond ช่วยให้ผู้ลงทุนที่สนใจ ESG Bond มีทางเลือกลงทุนมากขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศ ยังมีกลุ่มธุรกิจที่ยังไม่เข้าข่ายธุรกิจสีเขียว ต้องการปรับเปลี่ยนธุรกิจเพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อยู่มาก ขณะที่ ESG Bond โดยรวมน่าสนใจในยุคนี้ เพราะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลทั่วไป มีผลตอบแทนน่าสนใจในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง และช่วยให้ผู้ลงทุนมีส่วนร่วมในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม   

 

อย่างไรก็ดี อย่าลืมพิจารณาอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ของ ESG Bond ที่ลงทุน นอกเหนือจากการพิจารณาผลตอบแทนและระยะเวลาลงทุน รวมทั้งพิจารณาด้วยว่า ESG Bond ที่สนใจเป็นตราสารหนี้ประเภทใด มีสิทธิ์เรียกร้องในลำดับขั้นไหน กรณีเกิดปัญหาชำระหนี้ไม่ได้ โอกาสที่จะได้รับชำระหนี้คืนเป็นอย่างไร และมีหลักประกันที่นำมาชำระคืนหนี้ได้หรือไม่ เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ในอนาคตครับ 

 

กรณีมีเงินลงทุนจำนวนมาก ท่านควรลงทุนตราสารหนี้หลายๆ ตัว โดยที่แต่ละตัวมีสัดส่วนไม่มาก เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัวในตราสารหนี้ตัวใดตัวหนึ่ง กรณีเงินลงทุนมีจำนวนไม่มาก ต้องการลงทุน ESG Bond และท่านอยู่ในกลุ่มที่สามารถลงทุนลดหย่อนภาษีได้ กองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (ThaiESG) ที่มีนโยบายลงทุนใน ESG Bond ด้วยก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจครับ

 

คำเตือน:

  • การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน
  • เงื่อนไขการลงทุนและการลดหย่อนภาษีเป็นไปตามกฎหมายและประกาศที่กรมสรรพากรกำหนด
  • กองทุนรวม ThaiESG มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
  • สามารถศึกษาข้อมูลกองทุนหลักได้จากเว็บไซต์ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ไทยพาณิชย์ จำกัด และรายละเอียดเพิ่มเติมของกองทุนผ่าน SCB EASY App
  • สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SCB Call Center โทร. 0 2777 7777

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising