สตีฟ แซมป์สัน โค้ชฟุตบอลชาวสหรัฐฯ ตอนนั้นทำหน้าที่เป็นคนหาแคนดิเดตที่เหมาะสมให้กับสหพันธ์ฟุตบอลสหรัฐฯ เพื่อคุมทีมไปลุยฟุตบอลโลกปี 1994 ที่สหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพครั้งแรก
“หน้าที่ของผมคือหาชื่อมาเสนอเป็นเฮดโค้ชทีมชาติ” สตีฟเล่าย้อนไปถึงภารกิจของเขาในปี 1991
ซึ่งตอนแรกมีแคนดิเดตอยู่สองคนคือ ไรนุส มิเชลส์ โค้ชระดับตำนานของเนเธอร์แลนด์ กับ คาร์ลอส เคย์รอส กุนซือชาวโปรตุเกส แต่คนที่ได้รับตำแหน่งนี้กลับเป็นคนที่เข้ามาหา สตีฟ แซมป์สัน ในสนามฟุตบอล
“ผมใช้ชีวิตอยู่ในย่านอ่าวซานฟรานซิสโก ภายในสนามฟุตบอลซานโฮเซ ก็มีคนวิ่งมาตามหาผม ถามว่า ‘ผมเข้าใจว่า สตีฟ แซมป์สัน อยู่ที่นี่ บอกผมหน่อยว่าเขาอยู่ตรงไหน’
“เขาเดินมานั่งข้างผมและบอกว่า ‘เพื่อน คุณต้องจ้างผม’ ซึ่งผมก็ตอบว่าไม่ใช่หน้าที่ผม แต่เขาก็ยืนยันต่อว่า ‘คุณควรจะแนะนำผม เพราะเงินไม่ใช่ปัญหา ผมอยากช่วยสหรัฐฯ ไปสู่รอบที่ 2 ในฟุตบอลโลก”
“จ้างผมสิ” คำพูดเพียงสั้นๆ ที่อธิบายถึงบุคคลที่แปลกแต่เก่งที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟุตบอล ซึ่งคนคนนั้นมีชื่อว่า
โบรา มิลูติโนวิช กุนซือที่เคยคุมทีมชาติเม็กซิโกเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลกปี 1986 ต่อด้วยคอสตาริกา ไปสู่รอบ 16 ทีมในปี 1990 และมาต่อสู้เพื่อรับงานทีมชาติสหรัฐฯ
ซึ่งการนั่งกับสตีฟในวันนั้นทำให้เขาได้งานทันที และเป็นจุดเริ่มต้นของการเตรียมทีมที่แปลกที่สุดครั้งหนึ่งของชาติเจ้าภาพฟุตบอลโลก
ย้อนกลับไปฟุตบอลโลกปี 1994 ที่สหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพ กีฬาฟุตบอลไม่ใช่กีฬาเบอร์หนึ่งของประเทศ ขณะที่เมเจอร์ลีกซอกเกอร์ก็เพิ่งเริ่มต้นเมื่อปี 1993 หนึ่งปีก่อนการเป็นเจ้าภาพ และพวกเขาผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปี 1990 โดยไม่มีแต้มกลับมาสักคะแนนเดียว
ในประวัติศาสตร์ของการแข่งขัน ไม่เคยมีชาติเจ้าภาพตกรอบแรกมาก่อน และสหรัฐฯ ก็ไม่อยากจะได้รับเกียรติกลายเป็นทีมที่แรกที่ทำได้
โบรา มิลูติโนวิช เริ่มต้นทำงานด้วยการไปสำรวจทีมมหาวิทยาลัยของสหรัฐฯ และได้คัดเลือกนักเตะ 30 คนมาร่วมแคมป์ที่แคลิฟอร์เนีย แล้วจัดโปรแกรมอุ่นเครื่องถึง 91 นัดให้กับทีมอ่อนประสบการณ์ของเขาในทันที
“นักเตะเหล่านั้นต้องเข้าใจว่าจะแข่งขันระดับสูงเป็นอย่างไร” โบรา มิลูติโนวิช กล่าว
“เราบินไปทั่วโลก ไปเล่นกับสวีเดน, รัสเซีย, เกาหลีเหนือ, เกาหลีใต้, บราซิล, อาร์เจนตินา, อุรุกวัย และปารากวัย เรามีสปิริตที่ดี และนักเตะมีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งมาก
“นี่เป็นสิ่งสำคัญที่เราลงเล่นให้ได้มากที่สุดกับคู่แข่งจากประเทศต่างๆ เพื่อเรียนรู้ในบทเรียนที่เราต้องรู้ และวิธีการที่เราจะเล่น คุณเรียนรู้ได้มากกว่าเมื่อคุณลงเล่นจริงกับทีมแบบนี้ แทนที่จะต้องนั่งสอนเป็นเวลาหลายชั่วโมง”
โบรา มิลูติโนวิช ได้เปลี่ยนทีมชาติสหรัฐฯ เป็นสโมสรด้วยสไตล์การอุ่นเครื่องกับหลายทีมก่อนทัวร์นาเมนต์ โดยมีนักเตะอาชีพเพียงแค่ 4 คนที่ค้าแข้งอยู่ในต่างประเทศ
“เรารู้ดีว่าความท้าทายที่สุดของฟุตบอลทีมชาติคือเวลาที่จำกัดในการทำงานด้วยกัน ดังนั้นการที่นักเตะแกนหลักของทีมที่อยู่ในประเทศได้ลงเล่นเหมือนกับเป็นฤดูกาล จะได้ประสบการณ์ให้เราพร้อมไปแข่งฟุตบอลโลก” โบรากล่าวถึงหลักการเตรียมทีมของเขาที่ไม่เหมือนใคร
แต่ไม่ใช่เพียงแค่การวางโปรแกรมที่ดูต่างจากการเตรียมทีมของชาติอื่นๆ ภายในแคมป์ทีมชาติสหรัฐฯ ก็เต็มไปด้วยบรรยากาศที่ สตีฟ แซมป์สัน ซึ่งตอนนั้นรับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยโค้ช บรรยายว่าทั้งสนุกและปวดหัวในเวลาเดียวกัน
“ฟุตบอลทั่วโลกในตอนนั้น เฮดโค้ชจะนั่งลงกับผู้ช่วยและวางแผนการซ้อม แต่โบราไม่เคยทำเลย” สตีฟกล่าว
“วันหนึ่งผมไปถามเขาว่า ทำไมไม่เคยบอกอะไรเราเลยก่อนลงซ้อมว่าเราจะทำอะไรบ้าง เขาตอบกลับมาว่า ‘ฟังนะเพื่อน ผมแค่ดมกลิ่นหญ้าผมก็รู้แล้วว่าจะทำอะไร’
“เขายังพูดต่ออีกว่า เพื่อนรัก คุณเป็นผู้ช่วยโค้ชที่ดี ผมแค่ต้องบอกว่าผมต้องการอะไร คุณก็ทำได้ คุณควรที่จะวางแผนในหัวได้ในเวลาเพียงแค่ 30 วินาที และทำให้สำเร็จในเวลาที่ผมต้องการ”
อีกหลักการของโบราคือ การเล่นซอกเกอร์เทนนิส (การละเล่นคล้ายๆ เทนนิสแต่ใช้ได้แค่เท้ากับศีรษะ) ระหว่างการฝึกซ้อม ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญของเขาในการเลือกผู้เล่นตัวจริงลงสนาม
“ผมเห็นเพื่อนร่วมทีมได้รับเลือกไปฟุตบอลโลกจากวิธีการเล่นซอกเกอร์เทนนิสของเขาหนึ่งวันก่อนการประกาศตัดตัว” อเล็กซี ลาลาส นักฟุตบอลทีมชาติสหรัฐฯ ที่ติดทีมชาติครั้งแรกภายใต้การคุมทีมของโบรา
“เรารู้ว่าโบราจริงจังมากกับซอกเกอร์เทนนิส เพราะเขาเล่นด้วย และสำหรับเขาการเล่นซอกเกอร์เทนนิสคือการศึกษานักฟุตบอลแต่ละคนว่าเป็นคนอย่างไร แข่งขันสูงไหม ชอบชนะไหม หรือรับมือความพ่ายแพ้อย่างไร เลือกเพื่อนร่วมทีมอย่างไร
“สำหรับเรามันบ้ามาก และสำหรับบางคนก็เข้าใจ บางคนก็ไม่ เขาทดสอบความอดทนของเราได้แบบไม่เหมือนใครจริงๆ แต่ก็มีหลักการบางอย่างในความบ้าคลั่งนี้”
หลังจากการเตรียมพร้อมที่แตกต่างจากวงการฟุตบอลทั่วโลกในตอนนั้น ฟุตบอลโลกปี 1994 ก็เดินทางมาถึง และเจ้าภาพสหรัฐฯ ก็ร่วมกลุ่มกับโคลอมเบีย โรมาเนีย และสวิตเซอร์แลนด์ ในฟุตบอลโลกที่มี 24 ทีม นั่นหมายความว่ามีเพียง 4 ทีมจากอันดับ 3 ของแต่ละกลุ่มที่จะผ่านเข้ารอบที่ 2 หรือรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้
สหรัฐฯ เสมอกับสวิตเซอร์แลนด์ 1-1 ชนะโคลอมเบียไป 2-1 จากลูกที่ยิงเข้าประตูตัวเองของ อันเดรส เอสโคบาร์ ที่นำไปสู่การที่เขาถูกฆาตกรรมในบ้านเกิด ทำให้สหรัฐฯ เก็บคะแนนพอผ่านเข้ารอบโดยยังเหลือเกมอีกหนึ่งเกมในมือ ก่อนพวกเขาจะพ่ายให้กับโรมาเนียไป 0-1 แต่ก็ผ่านเข้ารอบที่ 2 ตามเป้าหมายได้สำเร็จ
พวกเขาผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปพบกับบราซิล แชมป์โลกในปีนั้น ซึ่งพวกเขาแพ้ไปเพียง 0-1 ให้กับหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
แต่โบราก็ได้ทำตามสัญญากับทีมชาติสหรัฐฯ ด้วยการจุดประกายความฝันในกีฬาฟุตบอล หรือที่พวกเขาเรียกกันว่าซอกเกอร์ ในวิธีการที่แปลกประหลาดที่สุดครั้งหนึ่งในฟุตบอลโลก
ซึ่งทั้งหมดเริ่มต้นจากเพียงบทสนาบนอัฒจันทร์สนามฟุตบอลที่เขาเดินมาบอกว่า “เพื่อน คุณต้องจ้างผม”