รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนออกแถลงการณ์สนับสนุนการแก้ไขวิกฤตความขัดแย้งในเมียนมาตามแผนฉันทมติ 5 ข้อ (Five-Point Consensus) โดยมีเป้าหมายหลักคือการฟื้นฟูสันติภาพ เสถียรภาพ และทางออกทางการเมืองที่ครอบคลุมในแบบของเมียนมา ซึ่งเมียนมาเป็นผู้นำ
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นภายหลังการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (ASEAN Foreign Ministers’ Retreat: AMM Retreat) ที่เมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว ระหว่างวันที่ 28-29 มกราคมที่ผ่านมา โดยมี ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางไปร่วมประชุม
ขณะที่รัฐบาลทหารเมียนมาได้ส่ง มาลา ตาน ไท่ก์ (Marlar Than Htaik) ปลัดกระทรวงการต่างประเทศของเมียนมา เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ โดยเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ที่เมียนมาส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงเข้าร่วมการประชุมอาเซียน หลังจากที่อาเซียนมีมติห้ามผู้นำรัฐบาลทหารเข้าร่วมการประชุมทั้งระดับผู้นำและระดับรัฐมนตรี
สะเหลิมไซ กมมะสิด (Saleumxay Kommasith) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของ สปป.ลาว ในฐานะประธานอาเซียนปีนี้ มองว่า การเข้าร่วมประชุมของผู้แทนจากเมียนมาถือเป็นสัญญาณในแง่บวก แต่ยอมรับว่าการแก้ไขวิกฤตในเมียนมานั้นต้องใช้เวลา
โดยที่ประชุมยังสนับสนุนความพยายามของ อลุนแก้ว กิตติคุณ (Alounkeo Kittikhoun) ทูตพิเศษด้านกิจการเมียนมาของอาเซียน ในการประสานกับฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งยืนยันถึงความมุ่งมั่นของอาเซียนในการช่วยเหลือเมียนมาหาวิธีแก้ไขปัญหาอย่างสันติ ครอบคลุม และยั่งยืน
“เรายืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นของอาเซียนในการช่วยเหลือเมียนมาค้นหาวิธีแก้ปัญหาอย่างสันติ ครอบคลุม และยั่งยืนต่อวิกฤตที่กำลังดำเนินอยู่ เนื่องจากเมียนมายังคงเป็นส่วนหนึ่งของอาเซียน” แถลงการณ์ระบุ พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่าย “ใช้ความยับยั้งชั่งใจอย่างที่สุด และยึดมั่นกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ตลอดจนใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อให้มีการคุ้มครองความปลอดภัยแก่พลเรือนเมียนมา”
ไทย-เมียนมา เดินหน้าระเบียงมนุษยธรรม
ที่ประชุมยังแสดงความยินดีต่อข้อริเริ่มระหว่างไทยและเมียนมาในการขยายความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตามแนวชายแดนผ่านสภากาชาดของทั้งสองประเทศ เพื่อส่งมอบสิ่งบรรเทาทุกข์พื้นฐานอย่างมีประสิทธิภาพ น่าเชื่อถือ และโปร่งใส ให้กับชาวเมียนมาที่ต้องการโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ
โดยในระหว่างประชุม ไทยยังได้เสนอแผนสำหรับระเบียงมนุษยธรรมเพื่อให้ความช่วยเหลือที่ปลอดภัยแก่ผู้พลัดถิ่นในเมียนมาหรือหลบหนีการสู้รบข้ามชายแดนเข้ามาในไทย
ขณะที่ปานปรีย์เผยต่อผู้สื่อข่าวว่า การดำเนินการให้ความช่วยเหลือจากฝ่ายไทยจะเริ่มต้นช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ หลังรัฐบาลเมียนมาและรัฐบาลไทยร่วมกันกำหนดพื้นที่สำหรับเส้นทางระเบียงมนุษยธรรมที่เชื่อมต่อชายแดนทั้ง 2 ประเทศ โดยองค์กรเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของอาเซียนจะเข้าร่วมสังเกตการณ์ภารกิจระเบียงมนุษยธรรมดังกล่าวด้วย
ภาพ: กระทรวงการต่างประเทศ
อ้างอิง:
- https://www.channelnewsasia.com/asia/asean-myanmar-crisis-foreign-ministers-laos-4082436
- https://english.kyodonews.net/news/2024/01/6cf7c4a2bb80-asean-endorses-thailands-humanitarian-corridor-for-myanmar-refugees.html
- https://www.straitstimes.com/asia/se-asia/asean-ministers-stay-cautious-despite-myanmar-junta-sending-official-to-high-level-meeting