ปฏิเสธไม่ได้ว่า การแข่งขันในตลาดไก่ทอดในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างดุเดือด เพราะมีผู้เล่นหน้าใหม่ตบเท้าเข้ามาชิงก้อนเค้กทำให้เกิดกระแสในหมู่ผู้บริโภค แต่ท้ายที่สุดแล้วผู้ที่ได้ประโยชน์ก็ยังเป็น KFC ที่ครองส่วนแบ่งกว่า 80-90% ในตลาดมูลค่า 2 หมื่นกว่าล้านบาท
ปิยะพงศ์ จิตต์จำนงค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส QSR & Western Cuisine ผู้บริหารแบรนด์ KFC ภายใต้การบริหารโดย บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด ได้สะท้อนภาพรวมธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยแสดงถึงการฟื้นตัวอย่างมั่นคง โดยผู้บริโภคกลับมารับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น และการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการบริโภคในประเทศได้อย่างมาก
นอกจากนี้ แม้ว่าช่องทางการทานที่ร้าน (Dine-in) และซื้อกลับบ้าน (Take Away) จะกลับมาเป็นช่องทางหลัก แต่การบริการในรูปแบบเดลิเวอรีก็ยังคงเติบโตได้ดี โดยบริษัทต่างให้ความสำคัญกับการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
“เชนธุรกิจร้านอาหาร QSR ในไทย โดยเฉพาะแบรนด์ KFC ซึ่งบริหารงานโดย CRG มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่ายอดขายในปี 2566 จะเติบโตประมาณ 11% หรือประมาณ 7 พันล้านบาท จากปี 2565 ที่มียอดขายรวม 6.3 พันล้านบาท” ปิยะพงศ์กล่าว
KFC เป็นแบรนด์ที่โดดเด่นในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายโอกาส การมีสาขากระจายทั่วประเทศ และการเข้าถึงลูกค้าในทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย โดยยังมุ่งหมายที่จะรักษาการเป็นแบรนด์ QSR อันดับหนึ่งในใจของลูกค้าคนไทย
ในปี 2566 KFC ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทั้งในเรื่องความง่ายและความสะดวกในการกิน พร้อมกับการเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ รวมถึงการเปิดร้านในโมเดลใหม่ๆ เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น และการนำเอาแอปพลิเคชัน KFC เข้ามาช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย
CRG ยังได้ปรับปรุงโฉมร้าน KFC Flagship Store @centralwOrld ใหม่ ในคอนเซปต์ KFC Digital Lifestyle Hub เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ด้วยการลงทุนกว่า 17 ล้านบาท โดยมี Bucket Kiosk จุดสั่งอาหารผ่านเครื่องสั่งอาหารและชำระเงินอัตโนมัติ ซึ่งจะเป็นต้นแบบให้ร้านอื่นๆ ต่อไป
ปัจจุบัน KFC มีร้านอยู่ราว 1,000 สาขาทั่วประเทศ ในจำนวนนี้เป็นร้านของ CRG อยู่ราว 330 สาขาด้วยกัน โดยในปี 2567 นี้จะมีการมีการเปิดเพิ่มอีก 15-20 สาขา ซึ่งจะเน้นร้านที่เป็นดิจิทัลมากขึ้น และปรับปรุงร้านอื่นๆ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
“ตอนนี้มียอดขายเฉลี่ย 200 บาทต่อบิล ลูกค้าเข้าร้านเฉลี่ย 2,000 บิลต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยเราจะดึงให้ลูกค้าที่มีรายได้น้อยเข้ามาที่ร้านมากขึ้น ผ่านการออกโปรดักต์และโปรโมชันใหม่ๆ”
ปิยะพงศ์ทิ้งท้ายว่า ปี 2566 นั้นเป็นปีที่ต่อสู้กับต้นทุนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป แต่สำหรับ KFC ภายใต้ CRG วางแผนจะใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้แบรนด์สามารถเติบโตได้