‘นางแบบ’ เป็นอีกหนึ่งภาคส่วนของอุตสาหกรรมแฟชั่นที่ช่วยขับเคลื่อนสังคมอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะยุค Digital Disruption ในปัจจุบันที่เราได้เห็นนางแบบยุคใหม่อย่าง จีจี้ ฮาดิด, เบลล่า ฮาดิด, แอดโวอา อาโบอาห์, เคนดัลล์ เจนเนอร์ และคายา เกอร์เบอร์ มีบทบาทสำคัญในเชิงพาณิชย์และทำให้วงการเป็นที่พูดถึงตลอดเวลา
แต่ในขณะเดียวกัน ด้วยบริบทของสังคม การผลักดันเรื่องสิทธิและความหลากหลายของกลุ่มคนให้มีจุดยืน ทำให้คอนเซปต์ของ ‘Diversity’ ได้กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่วงการแฟชั่นเลือกสะท้อนออกมาทั้งบนรันเวย์ แคมเปญ หรือหน้านิตยสารในเชิงของนางแบบที่เลือกใช้ โดยหลายแบรนด์เลือกที่จะไม่เดินตามมาตรฐานที่ถูกกำหนดทั้งในเรื่องไซส์ สีผิว เพศ หรืออายุ
โดยหนึ่งในผลผลิตจากประเด็นกระแส Diversity ก็คือนางแบบวัย 71 ปี ชื่อ เมย์ มัสก์ ที่จากชื่อนามสกุลของเธอ หลายคนก็อาจจะคาดเดากันได้ว่าเธอต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของสหัสวรรษใหม่อย่าง อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งรถยนต์ Tesla และแน่นอนว่าเธอนี่แหละคือผู้ให้กำเนิดชายคนนี้
ครอบครัวของเมย์ในวัยเด็ก
ผลงานถ่ายแบบของเมย์ในยุค 60s
เมย์ มัสก์ เกิดเมื่อวันที่ 19 เมษายน 1948 ที่เมืองเรจินา รัฐซัสแคตเชวัน ประเทศแคนาดา ในครอบครัวที่มีพี่น้องอีก 4 คน โดยอายุ 2 ขวบ เมย์และครอบครัวได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองพริทอเรีย ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ของเธอ โจชัวร์ และวิน ฮัลด์แมน เปิดกิจการบำบัดโรคด้วยการจับกระดูกสันหลัง (Chiropractor) และเป็นนักผจญภัยตัวจริงที่จะชอบพาลูกๆ ไปด้วย เช่น การไปตามหาเมืองสูญหายที่ทะเลทรายคาลาฮารี หรือนั่งเครื่องบินทัวร์รอบโลกเป็นระยะทาง 22,000 ไมล์
เมื่อเมย์อายุ 15 ปี เธอเริ่มต้นเส้นทางนางแบบมืออาชีพในประเทศแอฟริกาใต้ โดยจะรับงานช่วงเสาร์-อาทิตย์ควบคู่กับการเรียนหนังสือ พอมาในปี 1969 เธอก็ได้เป็นหนึ่งในผู้เข้าประกวด Miss South Africa ซึ่งในช่วงนั้นเมย์ก็ได้คบหากับวิศวกร เออร์รัล มัสก์ ที่รู้จักกันมาตั้งแต่เรียนมัธยม และตัดสินใจแต่งงานกันในปี 1970 ทั้งคู่มีลูกชายคนแรกในปีถัดมาชื่อ อีลอน มัสก์ ต่อด้วยลูกชายอีกคน คิมบาล มัสก์ และลูกสาวคนเล็ก ทอสกา มัสก์
หลังจากแต่งงานได้ประมาณ 9 ปี เมย์กับเออร์รัลได้เลิกรากัน ซึ่งเป็นช่วงชีวิตที่ถือว่าหินสุดๆ เพราะเธอตัดสินใจย้ายกลับไปอยู่ประเทศแคนาดาที่เธอยังถือสัญชาติอยู่ เพื่อจะได้สร้างรากฐานชีวิตของลูกๆ ทั้ง 3 คนให้มีอนาคตที่ดีขึ้น โดยอีลอน ลูกชายคนโตย้ายไปก่อน 1 ปี เพราะศึกษาจบมัธยมขณะอายุ 17 ปี และได้เข้าไปเรียนต่อที่ Queen’s University ในเมืองออนตาริโอ ประเทศแคนาดา
(จากซ้ายไปขวา) ทอสกา, คิมบาล, เมย์ และอีลอน มัสก์
เมย์กับหลานๆ ในงานเดินขบวน March for Our Lives
ในช่วงแรกที่เมย์ย้ายกลับไปอยู่แคนาดา เธอต้องทำงานหลายอาชีพพร้อมๆ กันเพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูก ทั้งถ่ายแบบ เป็นครูสอนเดินแบบ และเป็นพนักงานฝ่ายรีเสิร์ชข้อมูลที่ University of Toronto ซึ่งเธอได้เรียนปริญญาโทสาขาวิทยาศาสตร์โภชนาการไปด้วย โดยก่อนหน้านี้ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เธอได้รับปริญญาโทอีกใบจาก University of the Free State ในสาขาโภชนาการเหมือนกัน
ทุกวันนี้เมย์ก็ยังคงทำงานเป็นนักโภชนาการภายใต้บริษัทของเธอเองที่ก่อตั้งมากว่า 45 ปี ควบคู่กับการเป็นนางแบบ โดยเธอจะเดินทางไปพูดคุยให้คำปรึกษากับองค์กรต่างๆ รวมถึงโรงพยาบาล มหาวิทยาลัย และบริษัททั่วโลกเกี่ยวกับการกินอยู่ให้ถูกต้องและแข็งแรงเหมือนเธอ
ส่วนด้านการเป็นนางแบบ ถึงแม้เมย์จะทำงานในวงการมายาวนานกว่า 5 ทศวรรษแล้ว แต่ชื่อเสียงของเธอกลับเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางประมาณปี 2011 (ช่วงไล่เลี่ยกับที่บริษัท Tesla ของลูกชายเพิ่งเข้าตลาดหุ้น และกำลังเป็นผู้เล่นสำคัญในแวดวงรถยนต์) เพราะเธอได้ขึ้นปกนิตยสาร Time ฉบับ Health แบบเปลือยกาย และที่สร้างความฮือฮาก็คือปกนิตยสาร New York ที่พูดถึงประเด็นของพ่อแม่มือใหม่ในวัย 50 ปีขึ้นไป ซึ่งภาพปกก็ได้โฟโต้ช็อปส่วนหัวของเมย์ไปวางบนร่างกายผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์
จากนั้นเธอเริ่มมีผลงานมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการได้ไปแสดงมิวสิกวิดีโอเพลง Haunted ของบียอนเซ่ ในปี 2013 ไปเป็นหนึ่งในตัวละครในเกม James Bond: World of Espionage ถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสารชั้นนำทั่วโลก เช่น Vogue Korea ขึ้นแคมเปญสายการบิน Virgin America และในปี 2016 ที่อายุครบ 68 ปี ธอก็ได้เซ็นสัญญาเข้าสังกัด IMG Models ซึ่งก็เป็นสังกัดเดียวกันกับนางแบบระดับท็อปอย่าง จิเซล บุนเชน, โจน สมอลส์ และเคต มอสส์ ฯลฯ
พอมาในปี 2017 เมย์ก็สร้างประวัติศาสตร์กับการเป็นพรีเซนเตอร์ที่มีอายุมากที่สุดให้กับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง CoverGirl ด้วยวัย 69 ปี ซึ่งแบรนด์ก็ได้เปลี่ยนสโลแกนจาก ‘Easy Breezy Beautiful’ ที่หลายคนคุ้นเคยเป็น ‘I am what I make up.’ พร้อมการเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้สนับสนุนผู้หญิงทุกรูปแบบ ซึ่งในโฆษณาก็มี อิสซา แร, เคที เพอร์รี และอายีชา เคอร์รี มาร่วมแสดงด้วย
วันนี้ด้วยวัย 71 ปี และมีหลานอีก 10 คน เมย์ได้ทำให้เห็นว่าหมดยุคแล้วที่ผู้หญิงอย่างเธอต้องอยู่ภายใต้เงาของใคร และพออายุ 60, 70 หรือ 80 ที่ผู้หญิงส่วนใหญ่เกษียณอายุ ใช้เวลาอยู่บ้าน ดูทีวี และรอให้ลูกๆ พาไปกินข้าวช่วงเสาร์-อาทิตย์ เธอกลับเลือกใช้ชีวิตตามหลักการที่เคยยึดถือในการทำงานมาโดยตลอด นั่นคือความอดทนและต่อสู้เพื่อเปลี่ยนทัศนคติสังคมเกี่ยวกับบทบาทของผู้หญิง
https://www.youtube.com/watch?v=hNtt4aZWkF0&feature=youtu.be
Cover Photo: Courtesy of CoverGirl
อ้างอิง: