คลื่นลมเริ่มสงบลงบ้างแล้วครับหลังกระแสข่าว ‘โรนัลโดจะย้ายทีม’ พัดโหมกระหน่ำตลอดหลายวันที่ผ่านมา
มันทำให้เราพอมองอะไรได้ชัดเจนขึ้นบ้าง
และสิ่งที่เราพอจะได้รู้ ไม่ว่าจะเป็นการปิดปากเงียบตลอดระยะเวลาเกือบสัปดาห์ที่ผ่านมาของ คริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo) ผู้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีการหลีกเลี่ยงภาษี มาจนถึงการออกมาเปิดปากถึงกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นของ ฟลอเรนติโน เปเรซ (Florentino Perez) ผู้ได้รับฉันทามติให้ดำรงตำแหน่งประธานสโมสร ‘ราชันชุดขาว’ เรอัล มาดริด ต่อไปอีก 4 ปีนั้น เป็นการพิสูจน์ให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ระหว่างทั้งสองมีรอยร้าวเกิดขึ้นตรงกลางระหว่างใจจริงๆ
ไม่ใช่เรื่องล้อกันเล่นหรือลือกันให้สนุกปากแต่อย่างใด
โรนัลโดไม่พอใจจริงๆ และส่งรังสีของความไม่พอใจออกมาแบบไม่ให้ใครตั้งตัว แม้กระทั่งคนที่เป็นประธานสโมสรอย่างเปเรซเองก็ตาม
หลายคนตั้งคำถามว่าเขาต้องการอะไร?
อะไรคือเหตุผล? หรือเป็นเพียงแค่กลอุบายเพื่อหวังอะไรสักอย่าง?
เรามาลองไล่เรียงกันสักนิดดีไหมครับ…
โรนัลโดผิดหวังและเสียใจอย่างมากต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ที่จู่ๆ ต้องกลายเป็นผู้ต้องหาในคดี ทั้งๆ ที่เขาคิดว่าเขาทำทุกอย่างได้ถูกต้องแล้ว
Photo: Glyn KIRK/AFP
จุดเริ่มต้นจากคำว่า ‘ผมไม่ผิด’
Ronaldo Quer Abandonar Espanha หรือ ‘โรนัลโด้ ต้องการจะไปจากสเปน’
คือพาดหัวบนหน้า 1 หนังสือพิมพ์ฟุตบอล A Bola ของโปรตุเกส กลายเป็นจุดเริ่มต้นของข่าวการย้ายออกจากเรอัล มาดริด ของซูเปอร์สตาร์หมายเลข 1 ของทีม ที่เพิ่งจะนำ ‘ราชันชุดขาว’ คว้าแชมป์ลาลีกาได้สมัยแรกในรอบ 5 ปี และพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 12 มาครองได้
หลังจากนั้นสื่อทั้งในสเปนและอังกฤษต่างเริ่มทยอยรายงานข่าวในทิศทางเดียวกัน โดยสังเกตได้ว่าสื่อที่ได้ข่าวนั้นเป็นสำนักข่าวใหญ่ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น BBC, The Guardian, Daily Telegraph ในอังกฤษ รวมถึง Marca และ As ในสเปน
การที่สื่ออย่าง BBC ยังรายงานข่าวว่าได้รับข้อมูลจาก ‘แหล่งข่าว’ ที่เชื่อถือได้ว่า โรนัลโดต้องการออกจากประเทศสเปนถือว่าไม่ธรรมดา
แรงกระเพื่อมจากข่าวดังกล่าวไม่ต่างอะไรจากการฉายไฟสปอตไลต์ไปที่โรนัลโด ซึ่งกำลังเตรียมนำทีมลงสนามในศึกคอนเฟเดอเรชันส์ คัพ ที่ประเทศรัสเซียในเวลานั้น และที่ ฟลอเรนติโน เปเรซ ซึ่งขณะนั้นกำลังรอผลการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานสโมสร (แม้ในความจริงจะไม่มีผลอะไรก็ตาม เพราะไม่มีคู่แข่งลงท้าชิงตำแหน่ง)
เกิดอะไรขึ้นที่เรอัล มาดริด?
เบื้องหลังแล้วเป็นที่รู้กันดีว่าฝ่ายของโรนัลโดเป็นคน ‘เริ่ม’ เรื่องทั้งหมด โดยนอกจาก A Bola ซึ่งมีความสนิทสนมกับ ฮอร์เก เมนเดส ซูเปอร์เอเจนต์ส่วนตัวของสตาร์วัย 32 ปี และได้รับข่าวก่อนเพื่อน ทีมงานของโรนัลโดยังได้ต่อสายหาสำนักข่าวใหญ่ทุกแห่งเพื่อแจ้งข่าวเรื่องนี้ โดย ริชาร์ด มาร์ติน ผู้สื่อข่าวกีฬาในสเปนของสำนักข่าว Reuters เป็นผู้เปิดเผย
เพื่อต้องการบอกให้เรอัล มาดริด รู้ว่า เขา ‘ไม่พอใจ’ กับการที่จู่ๆ ต้องตกเป็นผู้ต้องหาคดีการเลี่ยงภาษี
แหล่งข่าวระบุว่า โรนัลโดผิดหวังและเสียใจอย่างมากต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ที่จู่ๆ ต้องกลายเป็นผู้ต้องหาในคดี ทั้งๆ ที่เขาคิดว่าเขาทำทุกอย่างได้ถูกต้องแล้ว และไม่คิดว่าเขาเป็นคนผิดในเรื่องนี้
แต่การประกาศโพล่งออกมาอย่างหุนหันพลันแล่นเช่นนี้ ทำให้เกิดคำถามตามมามากมายครับ
แม้กระทั่งคนอย่างเปเรซเองยังไม่เข้าใจ
2 ทีมในโลกที่มีศักยภาพและต้องการได้ โรนัลโดไปร่วมทีมคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมคนรักเก่า และปารีส แซงต์-แชร์แมง ยักษ์ใหญ่แห่งวงการลูกหนังฝรั่งเศส
Photo: STANSALL /AFP
ทางออกที่มีมากกว่าหนึ่ง
ถ้ายึดตามคำพูดของโรนัลโด ซึ่งยังไม่มีใครปฏิเสธ ทำให้อนุมานไปก่อนได้ว่าเขาคิดแบบนั้นจริงๆ นั่นหมายความว่าเขาต้องการจะเป็นฝ่าย ‘ไป’
คำถามสำคัญคือ การจากไปของโรนัลโดเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องนี้จริงหรือ?
และถ้าเป็นเช่นนั้น ใครคือคนที่เตรียมทางหนีทีไล่ไว้ให้? ใครคือคนที่จะเป็นที่พึ่งพิงใหม่ให้แก่เขา?
มีการคาดกันว่า ณ เข็มนาฬิกาเดินไป มี 2 ทีมในโลกที่มีศักยภาพและต้องการได้ โรนัลโดไปร่วมทีมคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมคนรักเก่า และปารีส แซงต์-แชร์แมง ยักษ์ใหญ่แห่งวงการลูกหนังฝรั่งเศส ดินแดนที่เขายังไม่เคยไปพิชิต
แน่นอนว่าทีมที่คนพูดถึงมากกว่าคือ ‘ปีศาจแดง’ ที่มีเรื่องราวออกมาให้อ่านตลอดหลายวันที่ผ่านมาว่า โรนัลโดคิดถึงบ้านหลังเก่าที่เคยสร้างเขาให้เป็นตัวเป็นตนอย่างในทุกวันนี้
ภาพความประทับใจที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้มาร่วมแสดงความยินดีกับเขาหลังจากเอาชนะยูเวนตุสได้ในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ที่สนามมิลเลนเนียม สเตเดียม ยังชวนอบอุ่นหัวใจไม่หาย
ภาพดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องราวที่สวนทางกับสิ่งที่เขาพบเจอในทีมเรอัล มาดริด ซึ่งแม้จะทำผลงานได้ไม่แพ้ตำนานคนใดในทีม รวมถึง อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน ราชาแห่งเหล่าราชันชุดขาวในยุคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสโมสร แต่โรนัลโดยังถูกแฟนบอลโห่ฮาป่าเถื่อนใส่อยู่เสมอ
ไม่นับเรื่องที่เขารู้สึกว่าไม่ได้รับการสนับสนุนที่ดีพอจากเรอัล มาดริด ไม่ว่าจะออกสื่อหรือเป็นการส่วนตัวก็ตาม
ในหมู่นักข่าวฟุตบอลต่างประเทศเป็นที่รู้กันบ้างครับว่า โรนัลโดมักจะระบายความในใจให้เพื่อนเก่าในทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดฟังเสมอ ถึงความคับข้องใจในเบอร์นาบิว
ฟังดูคล้ายเป็นพล็อตเรื่องโรแมนติกลูกหนัง ที่สุดท้ายทายาทเจ้าของเสื้อหมายเลข 7 ที่แท้จริงจะได้กลับคืนสู่บ้านเก่าที่เขารักอีกครั้ง
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมเดียวที่เขาคิดถึงเสมอไป
หากพูดถึงเรื่องอำนาจทางการเงิน ปารีส แซงต์-แชร์แมงไม่ได้เป็นรองแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแม้แต่น้อย อีกทั้งชื่อชั้นในปัจจุบันก็ไม่ได้ห่างกันสักเท่าไร
ไม่นับว่า เปเป้ เพื่อนสนิทซึ่งหมดสัญญากับเรอัล มาดริด มีการชักชวนให้ย้ายไปเล่นร่วมกันที่ปารีส แซงต์-แชร์แมง ก็ทำให้ทางเลือกนี้ ‘เป็นไปได้’ ไม่น้อยไปกว่ากัน
Photo: GERARD JULIEN/AFP
ถอดรหัสคำพูดเปเรซ
หนึ่งใน ‘คีย์แมน’ ที่สำคัญที่สุดของเรื่องนี้คือ เปเรซ ซึ่งเพิ่งมีโอกาสได้พูดถึงเรื่องนี้ผ่านการให้สัมภาษณ์ทางวิทยุ และมีมุมที่น่าสนใจ
นอกเหนือจากการยืนยัน ‘สถานะ’ ของโรนัลโดว่า ‘เวลานี้ยังเป็นผู้เล่นของเรอัล มาดริด’ แล้ว เปเรซยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นค่อนข้างที่จะ ‘ประหลาด’ อยู่ไม่น้อย
ประหลาดเพราะครั้งสุดท้ายที่เขาพบกับโรนัลโด สตาร์ชาวโปรตุเกสยังตื่นเต้นกับเรื่องอนาคตของตัวเองกับทีมอยู่เลย แต่จู่ๆ พอมีข่าวเรื่องภาษีก็เกิดกระแสข่าวใหญ่โตจนรับมือแทบไม่ทัน
ที่สำคัญคือ เปเรซยังไม่ได้มีการพูดคุยกับตัวของโรนัลโด หรือเมนเดส เอเจนต์ส่วนตัวในเรื่องนี้เลย โดยมีการระบุว่าจะมีการพูดคุยกันหลังจากที่โรนัลโดจบภารกิจในศึกคอนเฟเดอเรชันส์ คัพ ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า
โดยไม่ได้มีคำพูดว่า ‘โรนัลโดไม่ได้มีไว้ขาย’ ออกมาจากปากของเปเรซแต่อย่างใด
นั่นหมายความว่าเรอัล มาดริด เองก็พร้อมเปิดทางให้ย้ายออกจากทีม หากนั่นเป็นทางออกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
อย่างไรก็ดี ทางเลือกที่อาจจะดีที่สุดในความเห็นของเปเรซคือ การที่โรนัลโดยังอยู่กับเรอัล มาดริด ต่อไป
อย่าลืมว่าโรนัลโดเพิ่งต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไปเมื่อปลายปีที่แล้ว (พ.ย. 2016) และเขาก็เพิ่งประสบความสำเร็จสูงสุดนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ในเบอร์นาบิวตั้งแต่ปี 2009
ท่าทีของเปเรซซึ่งออกมาเปิดปากด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก หลังจากรอให้มีการยืนยันสถานะประธานสโมสรต่อไปอีกสมัย ก่อนแสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่า เรอัล มาดริด พร้อมที่จะยืนหยัดเคียงข้างโรนัลโด (แต่ไม่มีการยืนยันว่าจะสะสางปัญหาที่เกิดขึ้นให้ โดยเฉพาะเคลียร์เรื่องภาษีจำนวน 14.7 ล้านยูโร)
เปเรซยังยืนยันโดยเอาเกียรติของตัวเองเป็นประกันว่า โรนัลโดไม่ได้เป็นเพียงนักฟุตบอลที่เก่ง หากแต่ยังเป็นคนดีด้วย
นั่นหมายถึงทุกอย่างที่มีการพูดกันว่าเป็นเหตุที่ทำให้โรนัลโดไม่พอใจนั้น เปเรซ และเรอัล มาดริด จะจัดการให้หมด
ที่เหลือขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของโรนัลโดเอง
เรอัล มาดริด อยู่ในสถานะลอยตัว อยู่ก็ได้ ไปก็ดี เพราะหากสามารถขาย โรนัลโดได้ในหลัก 150-200 ล้านปอนด์ โดยคิดเป็นกำไรถึง 70-130 ล้านปอนด์ หลังจากที่ใช้งานนักเตะมาแล้ว 8 ปี ถือว่าสุดยอด
Photo: JAVIER SORIANO/AFP
คำตอบของโรนัลโด
มีการวิเคราะห์กันครับว่า ท่าทีของเปเรซ และเรอัล มาดริด ไม่ต่างอะไรจากการโยนบอลกลับไปให้โรนัลโดเป็นฝ่ายเล่น ‘เกม’ นี้บ้าง
เพราะจากนี้จะเป็นฝ่ายเขาที่ต้องให้คำตอบกับทุกคนแล้วว่าเขาจะยืนยันตามคำพูดเดิมที่จะไปจากสเปน และเรอัล มาดริด ให้ได้หรือไม่
สิ่งที่เขาพูดนั้นเป็น ‘เหตุผล’ หรือเป็น ‘กลอุบาย’ ในการเรียกร้องอะไรบางอย่าง
ถ้าเขาเปลี่ยนใจจะอยู่ก็แล้วไป
แต่ถ้าเขาคิดจะไป สิ่งที่เราจะได้ติดตามหลังจากนี้คือ ‘มหากาพย์’ การย้ายทีมที่จะพลิกทุกหน้าประวัติศาสตร์ของโลกลูกหนัง
ไม่ใช่แค่เรื่องของค่าตัวในการย้ายทีมที่เชื่อว่าจะทำลายสถิติโลกของ ปอล ป็อกบา เจ้าของสถิติ 89.2 ล้านปอนด์ จากยูเวนตุสมาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลที่แล้ว แต่ยังรวมถึงจำนวนเงินค่าตอบแทนมหาศาลที่เขาจะได้รับจากสโมสรใหม่
และมันยังเป็นการทำลายวิถีเดิมๆ ที่จะไม่มีสโมสรไหนจ่ายเงินจำนวนมหาศาลเพื่อแลกกับนักเตะวัย 32 ปีที่อยู่ในช่วง ‘ขาลง’ ของชีวิตด้วย
เพราะแม้จะยังดูแข็งแรง และการเล่นยังเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพเหมือนเดิม แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า โรนัลโดจะไม่มีทางพีกไปมากกว่านี้ และไม่มีใครแน่ใจว่าเขาจะเล่นในระดับนี้ได้อีกกี่ปี
ถ้าโชคดีอาจจะ 3-5 แต่ถ้าโชคร้ายบางที 1-2 ปี ฟอร์มการเล่นอาจจะตกลงอย่างรวดเร็ว
สโมสรที่จะดึงตัวไปย่อมต้องคิดหนักเป็นธรรมดาว่า สุดท้ายแล้วการลงทุนมหาศาลครั้งนี้จะได้รับผลตอบแทนกลับมาคุ้มค่าหรือไม่ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นผลงานในสนามหรือเรื่องของการตลาดนอกสนาม และจะต้องทำอย่างไรบ้างถึงจะคุ้มที่สุดกับเงินที่จะลงทุนไป
ขณะที่เรอัล มาดริด อยู่ในสถานะลอยตัว อยู่ก็ได้ ไปก็ดี เพราะหากสามารถขาย โรนัลโดได้ในหลัก 150-200 ล้านปอนด์ โดยคิดเป็นกำไรถึง 70-130 ล้านปอนด์ หลังจากที่ใช้งานนักเตะมาแล้ว 8 ปี ถือว่าสุดยอด
เงินจำนวนนี้สามารถเปลี่ยนเป็นสายเลือดใหม่ที่สดไม่แพ้กันอย่าง คีเลียน เอ็มบัปเป และ เอเดน อาซาร์ ซึ่งถึงจะไม่มีใครรู้ว่านักเตะเหล่านี้จะทดแทนโรนัลโดได้จริงหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็เป็นนักเตะแห่งอนาคตที่เรอัล มาดริด ต้องการ
เพียงแต่อย่างที่บอกครับ การย้ายทีมของโรนัลโดไม่ใช่เรื่องที่จะจบง่ายภายใน 3 วัน
นักเตะระดับนี้เชื่อมโยงกับอะไรมากมายครับ รวมถึงสปอนเซอร์ผู้ให้การสนับสนุนเขาโดยตรงอย่าง Nike ที่ต้องมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจด้วย ไม่นับการเจรจาที่จะยืดยาว และบางทีอาจต้องรอจนถึงนาทีสุดท้ายถึงจะรู้ว่าบทสรุปทุกอย่างจะจบลงที่ตรงไหน
อาจจะฟังดูสลับซับซ้อน แต่นี่แหละครับคือเบื้องหลังการเจรจาของนักเตะระดับสูงสุดของโลก
แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น อย่างที่บอกครับว่าลูกบอลกลับไปอยู่ในแดนของโรนัลโด และเมนเดส
ทุกคนรวมถึงผมเองก็อยากเห็นเหมือนกันว่าพวกเขาจะเล่นแบบไหน
ด้วยใจระทึก!