วันนี้ (2 มกราคม) นับตามปฏิทินราชการและมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว จะถือว่าวันนี้เป็นวันแรกของการทำงานสำหรับเปิดปี 2567 ของพนักงานทั้งข้าราชการและเอกชน หลังหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่ ขณะที่โดยปกติแล้ววันเปิดทำงานแรกของปีมักส่งผลให้ในช่วงเช้าที่ผ่านมาการจราจรค่อนข้างติดขัด ส่วนขนส่งสาธารณะทั้งรถโดยสารประจำทางและรถไฟฟ้าจะหนาแน่นไปด้วยผู้คน
ทีมช่างภาพข่าว THE STANDARD ลงพื้นที่ย่านถนนสีลม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศ และเป็นจุดรวมของภาคเอกชนจำนวนมาก พบว่าวันนี้มีเพียงบางบริษัทที่เริ่มงานวันนี้วันแรก การจราจรยังโล่ง คาดว่าในช่วงค่ำวันนี้ กทม. น่าจะมีการจราจรที่หนาแน่นขึ้น เนื่องจากรถยนต์ที่เดินทางออกต่างจังหวัดจะกลับเข้ามา
ขณะที่ข้อถกเถียงหนึ่งสำหรับการหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่ปีนี้คือการเลื่อนวันหยุดจาก 2 มกราคม 2567 มาหยุดเริ่มต้นที่วันศุกร์ที่ 29 ธันวาคม 2566 และหยุดไปจนถึงเพียงวันที่ 1 มกราคม 2567 ซึ่งหลายฝ่ายตั้งคำถามว่าเหตุใด ครม. จึงตัดสินใจหยุดเช่นนี้ บางคนบอกว่าได้จองที่พักยาวไปถึงวันที่ 2 มกราคม ทำให้ต้องยื่นลาหยุดเพิ่ม แทนที่จะได้ใช้วันหยุดปกติ ขณะที่บางคนบอกว่าการหยุดถึงวันที่ 1 มกราคม มีความเสี่ยง เพราะยังเป็นวันเฉลิมฉลอง หลายคนดื่มมาก หรือทำให้ต้องรีบเร่งจากคืนข้ามปีมาเดินทางกลับในวันต่อมาด้วย
อย่างไรก็ตาม การทำงานวันแรกหลังจากการหยุดยาวนั้นหลายคนมักมีอาการไม่อยากทำงาน ไม่คึกคัก เบื่อ และมีอาการซึมเศร้า ซึ่งอาจส่งผลทำให้ประสิทธิภาพงานลดลง ไม่มีสมาธิ หงุดหงิด อารมณ์เสีย ใจลอย
ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ เจ้าของเพจหมอแล็บแพนด้า ระบุว่าเป็นภาวะหดหู่หลังวันหยุดยาว หรือ Post Vacation Blues พร้อมแนะนำ 4 วิธีแก้
- หากิจกรรมที่ชอบ เช่น การปลูกต้นไม้ ดูภาพยนตร์ ฟังเพลง เล่นกับสัตว์เลี้ยง
- นับถอยหลังวันหยุดครั้งหน้า ทำปฏิทินทริปต่อไป ให้ความรู้สึกว่ามีความสนุกตื่นเต้นรออยู่ ทำให้มีแรงในการทำงานและมีพลังในการใช้ชีวิตมากขึ้น
- ออกกำลังกาย การออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟิน ทำให้เราฟิน มีความสุข ลืมความทุกข์ไปชั่วคราว ร่างกายยังแข็งแรงขึ้นอีกต่างหาก
- นอนหลับให้พอ ปรับสมดุลการนอนช่วงหยุดยาว บางคนหลับไม่เพียงพอ หลับไม่เป็นเวลา 2-3 วันแรกหลังเที่ยว ควรปรับการนอน ปรับสมดุลของสารสื่อประสาทในสมอง ให้เข้าสู่โหมดภาวะปกติ ควรนอนให้หลับประมาณ 22.00 น. ทุกคืน นาน 7-8 ชั่วโมง