ปี 2023 เป็นปีที่การลงทุนทั่วโลกเผชิญกับความไม่แน่นอนมากมาย ตั้งแต่ภาวะอัตราดอกเบี้ยระดับสูงทั่วโลก ตลอดจนถึงภาวะสงคราม ระดับเงินเฟ้อสูง วิกฤตธนาคารในสหรัฐฯ และการเปิดประเทศที่น่าผิดหวังของจีน ทำให้ตลาดหุ้นหลายแห่งเผชิญกับแรงกดดันตลอดทั้งปี แต่ในขณะเดียวกัน ปัจจัยบวกทั้งการกำเนิดของ Generative AI สัญญาณการยุติอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และภาวะฟื้นตัวของตลาดคริปโต ได้ส่งผลให้หลายสินทรัพย์เริ่มทำผลงานได้ดี และทำให้บทสรุปของผลตอบแทนสินทรัพย์ลงทุนหลักในปี 2023 ออกมาในหน้าตาที่แตกต่างกัน
จากปัจจัยที่ไม่แน่นอนตลอดทั้งปี ส่งผลให้ผลตอบแทนของสินทรัพย์ลงทุนหลักในปีนี้แตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น หุ้นสหรัฐฯ ที่แม้เผชิญแรงกดดันในช่วงต้นปี แต่ก็สามารถฟื้นตัวและทำผลงานได้ดีในปีนี้ได้ในที่สุด หรือทองคำที่สามารถแตะระดับ New High ใหม่จากภาวะสงครามที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี
ในทางกลับกัน สินทรัพย์ลงทุนที่เผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง อย่างหุ้นจีนที่ผิดหวังจากการเปิดประเทศ ตลอดจนวิกฤตอสังหาที่ยังดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้ตลาดหุ้นซบเซาตลอดทั้งปี เช่นเดียวกับหุ้นไทยที่เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจซบเซาของจีน และปัจจัยอื่นๆ ในประเทศ เช่น พื้นฐานของบริษัทจดทะเบียน และการเมืองที่ไม่แน่นอน
ท่ามกลางตลาดที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ผลประกอบการของแต่ละสินทรัพย์ย่อมแตกต่างกัน ซึ่งจะนำมาเปรียบเทียบกับอัตราเงินเฟ้อปัจจุบันในไทย เพื่อให้เห็นถึงมูลค่าในการถือสินทรัพย์เหล่านี้เมื่อเทียบกับระดับราคาสินค้าทั่วไป