รายได้ของบริษัท Huawei Technologies เติบโตขึ้นมา 9% ในปี 2023 ตามข้อมูลรายงานของ Bloomberg ซึ่งถือเป็นการปิดปีที่ดีสำหรับบริษัทเทคจีนที่สามารถผ่านอุปสรรคการแข่งขันกับ Apple และการโดนกีดกันการค้ากับสหรัฐฯ ได้ด้วยพัฒนาการใหม่ที่ล้ำหน้าในเทคโนโลยีชิปเซมิคอนดักเตอร์
การฟื้นตัวกลับมาของ Huawei ในธุรกิจด้านสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ 5G ทำให้ยอดขายพุ่งขึ้นด้วยอัตราที่รวดเร็วในรอบหลายปีขึ้นไปแตะ 700,000 ล้านหยวน (98,700 ล้านดอลลาร์)
การเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่น Mate 60 Pro ตัวใหม่จากค่าย Huawei ที่ใช้ชิป Kirin ที่ผลิตขึ้นโดยบริษัทในประเทศอย่าง SMIC ก็เป็นอีกปัจจัยที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของจีน และสร้างความฮือฮาให้กับคนในประเทศท่ามกลางความพยายามในการกีดกันการเข้าถึงชิปเซมิคอนดักเตอร์จากสหรัฐฯ เพื่อลดทอนบทบาทของจีนไม่ให้สามารถแย่งตำแหน่งเบอร์หนึ่งของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีโลกได้
ครั้งหนึ่ง Huawei เคยถูกตัดออกจากการเป็น ‘ผู้เล่นหลัก’ ในตลาดสมาร์ทโฟน หลังสหรัฐฯ ตัดสถานะการเป็นซัพพลายเออร์สินค้าชิปของพวกเขาออกไปในปี 2019 แต่ทว่าการกู้สถานการณ์ให้กลับมาได้ของ Huawei แสดงให้เห็นถึงวิธีการรับมือกับความไม่มั่นคงทางภูมิรัฐศาสตร์ได้เป็นอย่างดี
Ken Hu หนึ่งในผู้บริหารระบุในจดหมายสิ้นปี ซึ่งเป็นธรรมเนียมของบริษัทถึงพนักงาน Huawei ทุกคนว่า “ตลอดหลายปีของการทำงานหนัก เราได้ฝ่าความท้าทายอะไรหลายอย่าง และตอนนี้เรากลับมายืนได้อย่างปกติตามที่เราวางแผนไว้แล้ว สิ่งที่ทุกคนต้องไม่ลืมคือการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจมิได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นความผันผวนของวัฏจักรเศรษฐกิจโลกด้วย”
หลังจากที่สหรัฐฯ ตัดสถานะซัพพลายเออร์สินค้าชิปของ Huawei การสนับสนุนภายในจีนที่มีต่อ Huawei ก็ยิ่งทวีเพิ่มพูนมากขึ้น โดยบริษัทโทรคมนาคมต่างๆ ของจีนทำการปิดดีล 5G และระบบคลาวด์ นอกจากนี้หน่วยงานอื่นๆ ก็ทำการเข้าซื้อธุรกิจที่มีผลประกอบการไม่ค่อยดีจาก Huawei เพื่อลดความกดดันทางการเงินออกไปจากบริษัท
สมาร์ทโฟนรุ่น Mate 60 Pro ได้ส่วนแบ่งตลาดจาก iPhone 15 เพิ่มไปนับตั้งแต่การเปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคมของปีนี้ และ Huawei กำลังเดินหน้าไปสู่การเป็น ‘ผู้เล่นรายหลัก’ ในวงการชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเดียวกันกับที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ต้องการควบคุม
Huawei กำลังสร้างเครือข่ายโรงงานผลิตชิปที่มาจากการสนับสนุนของภาครัฐด้วยเม็ดเงินกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์ จากรายงานของ Semiconductor Industry Association
สำหรับในปี 2024 Huawei จำเป็นจะต้องรับมือทั้งความกดดันจากฝั่งสหรัฐฯ ที่ต้องการควบคุมจีน และการที่ตนจะต้องทำให้เทคโนโลยีเท่าทันความเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยากกับ Huawei คือการทำให้ตัวเองเท่าทันความเปลี่ยนแปลง เนื่องจากชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่สำคัญต่อการผลิตชิปจะยิ่งหายากมากขึ้นไปอีก เพราะในตอนนี้ Gina Raimondo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กล่าวเป็นนัยว่าพวกเขาจะ ‘ทำทุกวิถีทาง’ เพื่อรักษาความมั่นคงภายในประเทศเอาไว้ หลังจากที่ถูกถามถึงแนวทางการโต้ตอบกับ Huawei ที่มีพัฒนาการด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว
อ้างอิง: