Percy Jackson and the Olympians ซีรีส์เรื่องใหม่จาก Disney+ ที่ดัดแปลงมาจากนิยายยอดฮิตในชื่อเดียวกันของ Rick Riordan ซึ่งเคยถูกนำมาดัดแปลงเป็นฉบับภาพยนตร์มาแล้ว 2 ภาค โดยในฉบับซีรีส์จะได้ Rick Riordan เจ้าของผลงานต้นฉบับ และ Jonathan E. Steinberg จากซีรีส์ See (2019) มาดูแลในตำแหน่งผู้สร้าง พร้อมด้วย 3 นักแสดงน่าจับตาอย่าง Walker Scobell จาก The Adam Project (2022), Leah Jeffries จาก Beast (2022) และ Aryan Simhadri มารับบทนำ
โดยหลังจากที่ซีรีส์ออกฉายมาแล้ว 3 ตอน (จากทั้งหมด 8 ตอน) Percy Jackson and the Olympians ก็ได้กระแสตอบรับที่ดีจากผู้ชมอย่างเนืองแน่น โดยได้คะแนนรีวิวจากนักวิจารณ์บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes สูงถึง 96% จาก 54 สำนัก และได้คะแนนรีวิวจากฝั่งผู้ชมทั่วไปสูงถึง 86% (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2023) ซึ่งสูงกว่าภาพยนตร์ภาคแรก Percy Jackson & the Olympians: The Lightning Thief (2010) ที่ได้คะแนนรีวิวจากนักวิจารณ์อยู่ที่ 49% และฝั่งผู้ชมทั่วไปอยู่ที่ 53%
เหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้ Percy Jackson ฉบับภาพยนตร์ทั้ง 2 ภาคนั้นได้กระแสตอบรับจากผู้ชมที่ไม่ค่อยดีนัก เป็นเพราะการปรับเปลี่ยนเนื้อหาจากเวอร์ชันนิยายไปพอสมควร รวมถึงการดำเนินเรื่องที่ยังดูไม่ลงตัวนัก โดยเฉพาะเมื่อผลงานเรื่องนี้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับภาพยนตร์ชุด Harry Potter ก็ยิ่งทำให้บาดแผลของภาพยนตร์ชัดเจนมากขึ้น
ตัดสลับมาที่ Percy Jackson and the Olympians ฉบับซีรีส์ ที่ครั้งนี้ได้ Rick Riordan เจ้าของผลงานนิยายต้นฉบับลงมาดูแลในตำแหน่งผู้สร้าง แถมตัวซีรีส์เองก็ได้กระแสตอบรับที่ดีจากผู้ชมค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงเป็นที่น่าสนใจมากๆ ว่าเรื่องราวการผจญภัยของ Percy Jackson ครั้งนี้จะกลับมาลบล้างความผิดหวังของผู้ชมจากเวอร์ชันภาพยนตร์ได้หรือไม่
และจุดเด่นที่ผู้เขียนคิดว่าทีมสร้างนำเสนอได้น่าสนใจตั้งแต่ตอนแรก นั่นคือการผสมผสานความเป็นซีรีส์แนวแฟนตาซี-ผจญภัยที่ผู้ชมสามารถเข้าถึงได้ไม่ยาก ไปพร้อมกับการนำเสนอประเด็นของเรื่องที่ซีเรียสจริงจังและ ‘ไม่เด็ก’ ออกมาได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะฉากที่ Percy (Walker Scobell), Grover (Aryan Simhadri) และ Sally (Virginia Kull) พยายามหลบหนีการตามล่าของ Minotaur ที่นอกจากการออกแบบมุมกล้องที่ชวนให้เราลุ้นตามแล้ว ฉากดังกล่าวยังพาเราไปสัมผัสกับความเจ็บปวดและโดดเดี่ยวของ Percy อย่างเด่นชัดอีกด้วย
โดยองค์ประกอบสำคัญข้อหนึ่งที่ส่งให้ความซีเรียสจริงจังของเรื่องแข็งแรงมากๆ นั่นคือการแคสต์นักแสดงที่อยู่ในช่วงอายุ 12 ปีตามนิยายต้นฉบับมารับบทนำ แตกต่างจากในเวอร์ชันภาพยนตร์ที่อายุของตัวละครจะโตกว่า กล่าวคืออายุของตัวละครนั้นค่อนข้างมีความสำคัญมากๆ ต่อการเล่าเรื่อง โดยเฉพาะความซื่อตรงและอ่อนไหวของตัวละครที่ต้องรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ
ดังนั้นการที่ Percy ในวัยเพียง 12 ปี ต้องเผชิญกับสถานการณ์ไม่คาดฝันมากมาย ทั้งการสูญเสีย การถูกปกปิดความจริง การไม่ถูกยอมรับ ไปจนถึงการต้องย้ายไปอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย จึงยิ่งเสริมให้เส้นเรื่องของ Percy ที่จู่ๆ ก็ต้องรับมือกับเหตุการณ์มากมายที่หนักหน่วงเกินวัย เสมือนว่าเขาต้องก้าวเข้าสู่โลกของผู้ใหญ่อย่างรวดเร็วนั้นแข็งแรงมากขึ้น โดยเฉพาะความผูกพันที่ Percy มีต่อแม่ผู้เป็นที่รัก และการตั้งคำถามต่อการกระทำของเทพ Poseidon ผู้เป็นพ่อ ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของตัวละคร
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าติดตามไม่แพ้กัน เห็นจะเป็นพาร์ตความสัมพันธ์ระหว่าง 3 ตัวละครหลักอย่าง Percy, Grover และ Annabeth (Leah Jeffries) ที่เริ่มต้นจาก ‘ความไม่เชื่อใจ’ แต่ต้องมาร่วมทางกันเพื่อทำเป้าหมายของแต่ละคนให้สำเร็จ ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนคิดว่านี่เป็นปมปัญหาของตัวละครที่แข็งแรงมากๆ ในการชักชวนให้เราอยากติดตามต่อว่าพวกเขาจะแก้ไขปัญหา และช่วยเติมเต็มช่องว่างของกันและกันอย่างไร
และนักแสดงทั้ง 3 คนต่างก็ถ่ายทอดบทบาทของตัวเองได้อย่างน่าสนใจ ทั้ง Walker Scobell กับความสับสนและโดดเดี่ยวของ Percy ที่ถูกคนรอบข้างปกปิดความจริงจนไม่รู้ว่าตัวเองควรเชื่อใจใคร, Aryan Simhadri กับความอ่อนโยนและความซื่อตรงที่อยากจะช่วยเหลือผู้อื่นของ Grover และ Leah Jeffries กับการแสดงความเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวของ Annabeth เพื่อแอบซ่อนปมปัญหาของตัวเองไว้ไม่ให้ใครเห็น
ส่วนข้อสังเกตเล็กๆ น้อยๆ ที่ส่วนตัวผู้เขียนแอบเฉยๆ เห็นจะเป็นฉากแอ็กชันของเรื่องที่ถูกออกแบบมาไม่น่าติดตามเท่าไรนัก ทั้งฉากเกมชิงธงหรือฉากที่ 3 ตัวละครหลักต้องหลบหนีจากการตามล่าของอสูรร้าย ซึ่งเราหวังว่าฉากแอ็กชันในตอนต่อๆ ไปของซีรีส์จะมีความเข้มข้นจริงจังมากขึ้น เช่นเดียวกับฉากไล่ล่าของ Percy และ Minotaur ในตอนแรก
ทั้งหมดนี้คือความรู้สึกของผู้เขียนหลังจากได้รับชม Percy Jackson and the Olympians ตอนที่ 1-3 โดยภาพรวมแล้วสิ่งที่เราคิดว่าเป็นจุดเด่นสำคัญของซีรีส์ คือการผสมผสานความแฟนตาซี-ผจญภัยเข้ากับประเด็นอันหนักหน่วงที่ตัวละครต้องรับมือออกมาได้อย่างกลมกล่อม การออกแบบคาแรกเตอร์ของตัวละครที่แข็งแรง รวมถึงปมปัญหาของแต่ละตัวละครที่ถูกผูกโยงไว้อย่างน่าสนใจและชวนให้เราอยากติดตาม
ซึ่งเราต้องมาติดตามกันต่อว่าภารกิจตามหาสายฟ้าที่หายไปของ Percy และผองเพื่อนครั้งนี้จะยังคงรักษาความน่าสนใจของเรื่องไปได้จนจบอย่างที่เราคาดหวังหรือไม่
สามารถรับชมซีรีส์ Percy Jackson and the Olympians ได้ทาง Disney+ Hotstar
รับชมตัวอย่างได้ที่:
https://www.youtube.com/watch?v=DZoUKGtoNHA
ภาพ: Disney
อ้างอิง: