การสู้รบกันระหว่างกองทัพอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาสในฉนวนกาซายังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง หลังสงครามระลอกนี้ปะทุขึ้นมานานกว่า 11 สัปดาห์แล้ว โดยขอบเขตความเสียหายและผลกระทบจากสงครามยังคงขยายตัวมากยิ่งขึ้น ด้านกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ในฉนวนกาซารายงานว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20,057 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กราว 8,000 คน และเป็นผู้หญิงอีกราว 6,200 คน
ท่าทีกลุ่มฮามาส
กลุ่มฮามาสประกาศจุดยืนไม่ปล่อยตัวประกันเพิ่มเติมแล้วหลังจากนี้ จนกว่ากองทัพอิสราเอลจะยอมยุติสงครามครั้งนี้โดยสมบูรณ์ หลายฝ่ายเชื่อว่ามีตัวประกันอีกราว 120 คนที่ยังคงถูกกลุ่มฮามาสควบคุมตัวไว้ในฉนวนกาซาขณะนี้ นับตั้งแต่ถูกจับตัวไปเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา
โดยฮามาสกำลังเดินหน้ากดดันให้กองทัพอิสราเอลยอมยุติสงครามเพื่อแลกกับความปลอดภัยของตัวประกัน แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้สร้างหลักประกันให้กองทัพอิสราเอลมั่นใจว่ากลุ่มฮามาสจะยุติการเสริมกำลังและลดระดับความเป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอลลง หลายฝ่ายจึงคาดว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่กองทัพอิสราเอลจะไม่ยอมรับเงื่อนไขดังกล่าวนี้
ท่าทีอิสราเอล
กองทัพอิสราเอลยังคงเดินหน้าทิ้งระเบิดและโจมตีทางอากาศใส่หลายพื้นที่ของฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง โดยสื่อท้องถิ่นปาเลสไตน์รายงานว่า อิสราเอลโจมตีใส่พื้นที่แถบค่ายผู้ลี้ภัยนูเซรัตที่ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของฉนวนกาซาเมื่อวานนี้ (22 ธันวาคม) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกอย่างน้อย 18 คน ทั้งยังประกาศให้พลเรือนในค่ายผู้ลี้ภัยอื่นๆ ทยอยเดินทางลงใต้เพื่อความปลอดภัยอีกด้วย
กองทัพอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้พวกเขาสังหารสมาชิกกลุ่มฮามาสไปแล้วกว่า 2,000 คน นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาสิ้นสุดลง โดยมีตัวประกันกว่า 100 คนได้รับการปล่อยตัว แลกกับการปล่อยนักโทษชาวปาเลสไตน์อีกจำนวนหนึ่งให้เป็นอิสระ
ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลอยู่ที่ราว 1,400 คน และมีผู้ถูกจับกุมตัวไปยังฉนวนกาซากว่า 240 คน นับตั้งแต่สงครามระลอกใหม่นี้เริ่มเปิดฉาก โดยกองทัพอิสราเอลมุ่งหวังที่จะปราบปรามกลุ่มฮามาส เพื่อสร้างหลักประกันว่ากลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์จะไม่สั่นคลอนความมั่นคงและความปลอดภัยของอิสราเอลอีกในอนาคต รวมถึงต้องการที่จะนำพาตัวประกันทั้งหมดกลับบ้าน
ท่าทีประชาคมโลก
ประชาคมโลกยังคงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันหยุดยิงและยุติสงครามอิสราเอล-ฮามาสโดยเร็ว พร้อมทั้งสนับสนุนการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปยังพื้นที่ของฉนวนกาซาให้มากยิ่งขึ้น โดย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า แนวทางในการปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลได้สร้างอุปสรรคใหญ่หลวงในการส่งมอบความช่วยเหลือให้กับพลเรือนในฉนวนกาซา
ที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในประเทศที่สนับสนุนสิทธิในการป้องกันตนเองของอิสราเอลมาโดยตลอด ทั้งยังเห็นชอบกับแนวทางในการปราบปรามกลุ่มติดอาวุธฮามาสในฉนวนกาซา ซึ่งอาจกลายเป็นความท้าทายที่มากยิ่งขึ้นต่อทั้งอิสราเอลและพันธมิตรในอนาคต
แต่อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ก็สนับสนุนการปกป้องสิทธิของพลเรือน พร้อมเดินหน้าสนับสนุนการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในฉนวนกาซา โดยก่อนหน้านี้ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้แนะนำให้ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ปรับเปลี่ยนท่าทีและแนวทางในการทำสงคราม เพราะการเดินหน้าโจมตีฉนวนกาซา ‘ตามอำเภอใจ’ อาจทำให้พันธมิตร โดยเฉพาะประเทศในแถบตะวันตกลดการสนับสนุนอิสราเอลลง และอาจส่งผลต่อสถานการณ์สงครามโดยรวมในปี 2024 ไม่มากก็น้อย
แฟ้มภาพ: Ahmad Hasaballah / Getty Images
อ้างอิง: