เสียงโห่ดังกระหึ่มหลังจบเกมที่โอลด์แทรฟฟอร์ดด้วยความพ่ายแพ้อย่างหมดรูปของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อบอร์นมัธ ที่บุกมาเอาชนะได้ถึง 3-0
เอริก เทน ฮาก ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งที่ข้างสนาม โดยที่ไม่มีใครรู้ว่า ณ เข็มนาฬิกาที่เดินไปนั้นใจของเขาคิดอะไรอยู่
ความพ่ายแพ้ในเกมดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังสำหรับทีมที่หวังว่าจะสามารถหาทางกลับมาทำผลงานให้ดีต่อเนื่องได้ หลังโชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างน่าประทับใจในเกมก่อนที่เอาชนะเชลซี 2-1 แต่มันไม่ได้จบแค่ความรู้สึกแค่นั้น
ตอนนี้เสียงซุบซิบในเชิงตั้งคำถามถึงฝีไม้ลายมือของ เอริก เทน ฮาก ในฐานะผู้จัดการ ‘โรงละครแห่งความฝัน’ เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
และนั่นทำให้เกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในคืนนี้ที่แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องรับมือบาเยิร์น มิวนิก บนความหวังที่เลือนรางอาจจะเป็นเกมที่กำหนดชะตากรรมของบอสใหญ่ชาวดัตช์รายนี้ได้
โชคชะตาที่ไม่ได้อยู่ในมือตัวเอง
สถานการณ์ของแมนฯ ยูไนเต็ด ในกลุ่มเอ ของรอบแบ่งกลุ่ม ศึกแชมเปียนส์ลีก ไม่สู้ดีนัก
ผ่านมา 5 นัด พวกเขาเก็บได้เพียงแค่ 4 แต้ม ซึ่งแม้คู่แข่งอย่างเอฟซี โคเปนเฮเกน และกาลาตาซาราย ก็ไม่ได้ดีกว่ากันสักเท่าไร เพราะมีแต้มมากกว่าแค่แต้มเดียว แต่โอกาสที่ทีม ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปนั้นอยู่บนเงื่อนไขที่ยากกว่า
- ขั้นแรกพวกเขาต้องชนะบาเยิร์น มิวนิก ให้ได้ก่อน
- ขั้นที่ 2 เมื่อชนะบาเยิร์นได้แล้ว ต้องลุ้นให้อีกคู่ระหว่างโคเปนเฮเกนที่จะรับมือกาลาตาซารายจบลงด้วยการเสมอกัน
แค่ชนะไม่พอ! เปิดเงื่อนไขโอกาสเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย UCL ของแมนฯ ยูไนเต็ด
หลังจากทีมของ เอริก เทน ฮาก ทำได้เพียงบุกไปเสมอกาลาตาซาราย 3-3 ในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้สถานการณ์ลุ้นเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายของทัพปีศาจแดงนั้นยากขึ้นกว่าเดิม
THE STANDARD… pic.twitter.com/neXzlWR8NK
— THE STANDARD (@thestandardth) November 30, 2023
เอาแค่ขั้นแรกก็เป็นเรื่องที่ยากแล้วในความรู้สึก เพราะฟอร์มการเล่นของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่ได้กลับมาเล่นในรายการระดับสูงสุดของยุโรปอีกครั้งไม่ดีเอาเสียเลย และค่อนข้างชัดว่า ‘ระดับ’ ของพวกเขาอาจจะยังไม่คู่ควรสำหรับแชมเปียนส์ลีก
ใน 5 นัดที่ผ่านมาแมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ถึง 3 นัด โดยบาเยิร์นชนะพวกเขาได้ 4-3, โดนกาลาตาซารายบุกมาสอยคาบ้าน 3-2 และถูกโคเปนเฮเกนสยบได้อีก 4-3
เกมเดียวที่พวกเขาได้ชัยชนะคือ การเฉือนโคเปนเฮเกน 1-0 จากประตูชัยของ แฮร์รี แม็กไกวร์ กองหลังที่เคยถูกทิ้งขว้าง เป็น 3 คะแนนเต็มนัดเดียว ส่วนอีกแต้มที่ได้นั้นมาจากเกมที่เสมอกับกาลาตาซาราย 3-3 เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ซึ่งความจริงควรจะได้ 3 คะแนนเต็มแล้ว แต่กลับพลาดปล่อยให้ทีมเยือนจากตุรกีไล่ตีเสมอได้
มองในแง่ดีคือ การที่บาเยิร์นนั้นผ่านเข้ารอบต่อไปแน่นอนแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ผู้เล่นตัวหลักลงสนามแบบเต็มสูบ แม้ว่า โธมัส ทูเคิล บอสทีมยักษ์ใหญ่จากบาวาเรีย จะยืนยันว่ามี แฮร์รี เคน ซึ่งทำไปแล้ว 18 ประตู จาก 13 เกม ในบุนเดสลีกาอยู่ในสนามเกมนี้แน่นอน
แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ฝ่ายของบาเยิร์น
ปีศาจแดงบนรถไฟเหาะตีลังกา
ปัญหาของแมนฯ ยูไนเต็ด เกิดจากการทำตัวเองล้วนๆ โดยเฉพาะในเรื่องของเกมรับที่พร้อมจะเสียประตูตลอดเวลา
ใน 5 นัดที่ผ่านมาแมนฯ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่ทำประตูได้มากกว่าทีมใดในกลุ่มเอ โดยยิงไปแล้วถึง 12 ประตู แต่พวกเขาเสียประตูมากกว่าถึง 14 ประตู ทำให้ผลต่างประตูได้เสียกลายเป็น -2 ในขณะที่บาเยิร์น มิวนิก จ่าฝูงของกลุ่ม ยิงได้แค่ 11 ประตู แต่เสียเพียงแค่ 6 ประตูเท่านั้น (ซึ่งในจำนวนนี้เป็นการเสียให้แมนฯ ยูไนเต็ด 3 ประตู นั่นหมายถึงอีก 4 นัดพวกเขาเสียเพียงแค่ 3 ประตู)
เกมรับที่เปื่อยยุ่ยเหมือนกระดาษทิชชูเปียกน้ำของแมนฯ ยูไนเต็ด นั้นมองได้ทั้งเป็นปัญหาความผิดพลาดของผู้เล่น โดยเฉพาะคนที่ถูกจับจ้องมากที่สุดอย่าง อังเดร โอนานา ที่พลาดง่ายๆ และกลายเป็นหายนะของทีมตลอด
ความเห็นใจมีอยู่บ้างในเรื่องอาการบาดเจ็บของผู้เล่น โดยเฉพาะรายที่เป็นหัวใจในเกมรับอย่าง ลิซานโดร มาร์ติเนซ ซึ่งเป็นนักเตะที่มีความสำคัญต่อระบบการเล่นของแมนฯ ยูไนเต็ด มากที่สุดในฐานะคนเซ็ตอัพเกมจากแดนหลัง
แต่ในเวลาเดียวกันก็มีสิ่งที่น่ากังวลมากกว่าคือ ปัญหาเชิงระบบที่ เอริก เทน ฮาก ไม่สามารถสร้างทีมที่มีเกมรับที่ดีพอจะเป็นที่พึ่งพาของทีมได้โดยที่ไม่สามารถอ้างเรื่องอาการบาดเจ็บของผู้เล่นได้ทั้งหมด เพราะทุกทีมต่างมีปัญหาเหมือนกัน ต่อให้ขาดใครไป ถ้าทีมมีโครงสร้างแข็งแรงพอก็ควรที่จะปรับระบบได้
เช่นเดียวกับเกมรุกที่ไม่มีโครงสร้างของทีมที่ชัดเจน ไม่มีสไตล์ที่แน่นอน และต้องหวังพึ่งความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน เฟอร์นันเดส และ อเลฮานโดร การ์นาโช
และฮีโร่ที่ไม่มีใครอยากเชื่ออย่าง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ เจ้าของสมญา ‘ผู้เซฟเทน ฮาก’
บาป 3 ประการของเทน ฮาก
เกือบ 1 ฤดูกาลครึ่งนับตั้งแต่กุนซือชาวดัตช์เข้ามารับงานในโอลด์แทรฟฟอร์ดต่อจาก ราล์ฟ รังนิก ต้องบอกว่า เอริก เทน ฮาก มีทั้งช่วงเวลาทั้งดีและร้าย
ช่วงเวลาที่ดีเกิดขึ้นในฤดูกาลที่แล้วเมื่อกอบกู้ทีมให้กลับมาเข้ารูปเข้ารอย พาทีมคว้าตั๋วไปแชมเปียนส์ลีกได้อีกครั้ง คว้าแชมป์ลีกคัพ ซึ่งเป็นแชมป์แรกของสโมสรในรอบ 6 ปี และเข้าชิงเอฟเอคัพได้อีกรายการ แม้จะพ่ายต่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับร่วมเมืองก็ตาม
แต่ในฤดูกาลนี้เป็นที่ประจักษ์ว่าเป็นปีที่แย่สำหรับเทน ฮาก เพราะแทนที่ทีมจะก้าวไปข้างหน้าต่อ พวกเขากลับเดินถอยหลังแบบมูนวอล์กแทน โดยที่มีปัญหาสารพัดเกิดขึ้นมากมาย
แดนนี เมอร์ฟีย์ อดีตนักเตะลิเวอร์พูลยุคมิลเลนเนียล ได้เขียนบทความวิเคราะห์ความผิดพลาดของเทน ฮาก เอาไว้ โดยระบุสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เขาเชื่อว่าแมนฯ ยูไนเต็ด สมควรที่จะปลดกุนซือรายนี้ออกจากทีมอยู่ 3 ประการด้วยกัน
- การเสริมทัพที่เลวร้าย
- การไร้ความสามารถในการกระตุ้นผู้เล่น
- ความรู้ความสามารถในการกำหนดแท็กติกการเล่น
ทั้งนี้ แม้เมอร์ฟีย์จะแสดงความเห็นใจว่าปัญหาทั้งหมดของแมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้เกิดขึ้นจากผู้จัดการทีมเพียงอย่างเดียว แต่เทน ฮาก ย่อมเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นกับแมนฯ ยูไนเต็ด
เริ่มตั้งแต่การเสริมทีมที่ชัดเจนว่ามีอิทธิพลต่อการเลือกนักเตะซึ่งมีหลายรายที่มาจาก ‘อาแจ็กซ์คอนเน็กชัน’ ไม่ว่าจะเป็น ลิซานโดร มาร์ติเนซ, แอนโทนี, คริสเตียน อีริกเซน และในฤดูกาลล่าสุดอย่าง อังเดร โอนานา ผู้รักษาประตูผู้ใช้เท้าได้ดี
เรื่องนี้แม้ไม่มีใครยืนยันได้ แต่มีการพูดถึงเรื่องความไม่พอใจที่เกิดขึ้นภายในทีม เพราะจะมีนักเตะที่เป็น ‘ลูกรัก’ ที่ได้รับการปฏิบัติดีกว่า
เรื่องของการปฏิบัติต่อผู้เล่นก็ดูเหมือนจะเป็นปัญหาด้วยเช่นกัน เพราะเห็นได้ชัดเจนว่ายิ่งเวลาผ่านไป นักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ดูจะหมดใจกับบอสของพวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ
ภาษากายของนักเตะในทีมเลวร้ายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในบางรายที่ถูกจับจ้องเป็นพิเศษอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด หรือ อองโตนี มาร์กซิยาล ที่หนักไม่เอาเบาไม่สู้ โดยมีข่าวว่านักเตะ ‘อาวุโส’ ในทีมบางรายไม่พอใจกับการซ้อมที่หนักเกินไปตั้งแต่ช่วงพรีซีซัน จนทำให้อ่อนล้าไม่มีแรงในเกมจริง
เทน ฮาก ยังมีกรณีกับ คริสเตียโน โรนัลโด เมื่อฤดูกาลที่แล้ว, การปลด แฮร์รี แม็กไกวร์ จากตำแหน่งกัปตันทีม และล่าสุดคือ ราฟาเอล วาราน ปราการหลังระดับโลกที่ถูกดรอปกลายเป็นตัวสำรองอดทนที่มีข่าวว่าพร้อมจะปล่อยตัวออกจากทีมไปพร้อมกับ คาเซมิโร และ จาดอน ซานโช ในช่วงตลาดการซื้อ-ขายรอบหน้าที่จะมาถึงในช่วงปีใหม่
และเรื่องใหญ่ที่สุดก็ย้อนกลับไปในสิ่งที่พูดถึงด้านบนคือ เรื่องแท็กติกการเล่นที่น่าแปลกใจอย่างยิ่ง เพราะเทน ฮาก คนที่สร้างอาแจ็กซ์ให้ไปสู่ทีมที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศแชมเปียนส์ลีกด้วยฟุตบอลแบบมีสไตล์ แต่กลับไม่สามารถสร้างอะไรแบบเดียวกันในโอลด์แทรฟฟอร์ดได้เลย
ในขณะที่ อูไน เอเมรี ใช้เวลาแค่ปีเดียวในการเปลี่ยนแอสตัน วิลลา ให้กลายเป็นทีมที่เอาชนะทั้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และอาร์เซนอล ได้ติดต่อกันในสัปดาห์เดียว จากทีมอันดับ 17 มาเป็นทีมอันดับ 3 ในฤดูกาลนี้ มันเป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนพอสมควร
เกมสืบชะตา
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ในโอลด์แทรฟฟอร์ดเวลานี้ยังไม่ถึงจุดแตกหักขนาดนั้น
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะทีมอยู่ระหว่างการผ่องถ่ายอำนาจ หลังจากที่ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ นำ INEOS ขอซื้อหุ้นแมนฯ ยูไนเต็ด ต่อจากครอบครัวเกลเซอร์จำนวน 25 เปอร์เซ็นต์ พร้อมรับสิทธิ์ในการบริหารสโมสร ทำให้การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้จัดการทีมเวลานี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก
อย่างน้อยต้องรอให้การซื้อ-ขายหุ้นเรียบร้อยอย่างเป็นทางการ โดยที่มีทีมบริหารของ INEOS เข้ามาจัดการดูแลเต็มตัวเสียก่อน
อีกส่วนนั้นทั้งแฟนบอลและนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด เองก็ยังมีคนที่เป็น #TeamTenHag อยู่พอสมควร ทั้งเชื่อมั่นในตัวของกุนซือชาวดัตช์เองและไม่คิดว่าการเปลี่ยนแปลงตัวผู้จัดการทีมในเวลานี้จะช่วยให้อะไรๆ มันดีขึ้นมา
แม็คโทมิเนย์ กองกลางที่เคยเกือบถูกขายให้เวสต์แฮมในช่วงปิดฤดูกาล ก่อนจะได้โอกาสลงสนามและกลายเป็นฮีโร่เซฟชีวิตนายใหญ่มา 2 ครั้ง ยืนยันว่านักเตะภายในทีมเองยังพร้อมปกป้องเทน ฮาก ด้วยการทำผลงานในสนาม พร้อมยืนยันด้วยว่าบรรยากาศ Toxic ในสโมสรหายไปแล้ว
ถ้าเป็นอย่างที่แม็คโทมิเนย์ว่าจริง เกมกับบาเยิร์นคือโอกาสที่จะเป็นเกมสืบชะตาให้กับนายใหญ่ได้
ชัยชนะเหนือบาเยิร์น – ไม่ว่าจะช่วยให้ผ่านเข้ารอบต่อไปได้หรือไม่ – มีความหมายมากพอที่จะช่วยจุดประกายให้ทีมได้อีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่แมนฯ ยูไนเต็ด รู้ว่าจะต้องเจอกับลิเวอร์พูลในเกมต่อไป
เทน ฮาก เองก็ยังกล่าวด้วยความมั่นใจก่อนเกมว่า แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถเอาชนะได้ ‘ทุกทีม’
แต่มีใส่วงเล็บว่า ‘ทีมต้องมีสปิริตที่ดี’
และนั่นคือหน้าที่ของเทน ฮาก ในวันที่โชคชะตาของทีมอาจไม่อยู่ในมือของตัวเอง แต่โชคชะตาของตัวเองดันอยู่ในมือของทีม
อ้างอิง:
- https://www.bbc.com/sport/football/67683302
- https://www.bbc.com/sport/football/67682101
- https://www.theguardian.com/football/2023/dec/11/manchester-united-open-to-offers-casemiro-sancho-varane-martial-van-de-beek
- https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-12845949/Man-United-SACK-Erik-ten-Hag-Bournemouth-Premier-League-Danny-Murphy.html