วันนี้ (8 ธันวาคม) เป็นวันแรกสำหรับการจัดงานกาชาดประจำปี 2566 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-18 ธันวาคม 2566 เวลา 11.00-22.00 น. ที่สวนลุมพินี โดยจัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘รื่นรมย์สุขฤดี ณ ที่แห่งการให้’ ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีพิเศษฉลองครบรอบงานกาชาด 100 ปี โดยสภากาชาดไทยเชิญชวนผู้ร่วมงานร่วมย้อนวันวานไปกับมหรสพรื่นเริงการกุศลคู่คนไทย แต่งตัวด้วยชุดไทย นุ่งโจงห่มสไบเดินเที่ยวในงาน
ในส่วนของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ได้จัดกิจกรรมเชิญชวนประชาชนร่วมส่งต่อความสุขแห่งการให้ บริจาคโลหิตกลางสวนสาธารณะใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 8-18 ธันวาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 17.00-21.00 น. ณ บริเวณอาคารลีลาศ สวนลุมพินี (เข้าทางประตู 3 ฝั่งถนนพระราม 4) เพื่อร่วมส่งต่อโลหิตนำไปช่วยเหลือผู้ป่วย ซึ่งเป็นไปตามภารกิจหลักด้านการบริการโลหิตในการจัดหาโลหิตให้เพียงพอ มีคุณภาพ และปลอดภัยสูงสุด ตามมาตรฐานสากล เพื่อนำไปใช้กับผู้ป่วยที่ต้องได้รับโลหิตในการรักษา
ศูนย์บริการโลหิตฯ ตั้งเป้าหมายการจัดหาโลหิตในงานกาชาดตลอด 11 วัน 11 คืน ให้ได้จำนวน 3,300 ยูนิต โดยจัดเตียงรับบริจาคโลหิตจำนวน 16 เตียง เพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับผู้บริจาคโลหิตในงานให้ได้อย่างเพียงพอ
ขณะที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เข้มงวดด้านความปลอดภัยและเน้นย้ำผู้จัดงานให้รักษาสิ่งแวดล้อม โดยในส่วนของความปลอดภัยมีการตั้งกองอำนวยการร่วมฯ เพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยของการจัดงานกาชาดบริเวณด้านหลังลุมพินีสถาน พร้อมเข้มงวดในการตรวจอาวุธก่อนเข้างาน และมีการจัดตั้ง War Room บริเวณห้องประชุมชั้น 2 ศูนย์นันทนาการลุมพินี ซึ่งมีการรวบรวมประมวลผลภาพจากกล้อง CCTV จำนวน 138 ตัวภายในบริเวณจัดงานกาชาด และ CCTV จำนวน 145 ตัวบริเวณโดยรอบสวนลุมพินี โดยสามารถเก็บบันทึกไฟล์ภาพไว้ตรวจสอบย้อนหลังได้ถึง 1 เดือน
นอกจากนี้สำนักสิ่งแวดล้อมได้ประสานเจ้าหน้าที่กาชาด เจ้าหน้าที่เทศกิจ เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมรถบอลลูนไลต์และถังดับเพลิงในพื้นที่ ร่วมดูแลรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวกการจราจรในพื้นที่ และเพิ่มที่จอดรถจักรยานยนต์และรถจักรยานบริเวณใต้สะพานไทย-เบลเยี่ยม
ส่วนของสำนักการจราจรและขนส่งได้จัดรถ BMA Feeder ให้บริการรับ-ส่งผู้เข้าร่วมงาน โดยรถที่นำมาให้บริการเป็นรถพลังงานไฟฟ้าจำนวน 20 ที่นั่ง รองรับผู้พิการ 2 ที่ จำนวน 3 คัน ซึ่งจะออกจากจุดจอดบริเวณสนามกีฬาแห่งชาติทุกๆ 30 นาที ให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. ทั้งนี้ ในช่วงเวลาที่คาดว่าจะมีประชาชนร่วมงานจำนวนมากอาจพิจารณาเพิ่มจำนวนรถในการให้บริการ
ด้านความสะอาดและการจัดเก็บขยะภายในงาน สำนักสิ่งแวดล้อม โดยสำนักงานจัดการมูลฝอย และสำนักงานเขตต่างๆ ร่วมดูแลความสะอาด โดยสำนักงานจัดการมูลฝอยจัดเตรียมความพร้อมเรื่องการคัดแยกขยะตามแนวทาง ‘ไม่เทรวม’ และ ‘กรีนอีเวนต์’ โดยได้เพิ่มจุดคัดแยกขยะเป็น 44 จุด จากเดิม 40 จุด ซึ่งแบ่งประเภทขยะออกเป็น ขยะรีไซเคิล ขยะทั่วไป และขยะเศษอาหาร พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์และจัดจุดพักขยะ 6 จุด
โดยมีสำนักงานเขตกลุ่มกรุงเทพใต้และกลุ่มกรุงเทพกลางสนับสนุนเจ้าหน้าที่และรถเก็บขนมูลฝอย ทั้งยังสนับสนุนแทงก์น้ำดื่มขนาด 1,600 ลิตร รวม 18 ใบ รวมถึงให้บริการรถสุขาเคลื่อนที่ตลอดระยะเวลาการจัดงานรวม 15 คัน